พวงมาลัยหนักเกิดจากอะไร สังเกตได้จากอาการเหล่านี้

พวงมาลัยหนัก ต้องใช้แรงในการเลี้ยวมากกว่าปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร ควรตรวจสอบจุดไหน และสามารถแก้ไขปัญหาพวงมาลัยพาวเวอร์หนักได้ยังไงบ้าง

พวงมาลัยหนักเกิดจากอะไร ? แม้ไม่ใช่ช่างและซ่อมเองไม่ได้ ผู้ใช้รถหลายคนก็ยังคงอยากรู้ที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตัวเองว่ามาจากจุดไหน อะไรคือสาเหตุเพื่อตรวจสอบหาข้อมูลก่อนที่จะนำไปส่งซ่อม ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น หรือป้องกันการโดนหลอก และสำหรับอาการพวงมาลัยหนักอาจเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ใช้รถพบได้บ่อยเมื่อใช้รถไปนาน ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากสิ่งเหล่านี้

ทันทีที่เริ่มรู้สึกว่าต้องใช้แรงในการหมุนพวงมาลัยมากขึ้นขณะจอด หรือขณะขับที่ความเร็วต่ำ ในบางครั้งมีเสียงผิดปกติเกิดขึ้นขณะเลี้ยว รวมถึงในบางกรณีอาจมีเสียงดังจากช่วงล่างร่วมด้วย นั่นหมายความว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นและเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการพวงมาลัยหนักที่พบเจอได้บ่อยครั้ง

1. พวงมาลัยหนักเพราะลมยางอ่อนเกินไป

การปล่อยให้ยางรถอ่อนก็สามารถส่งผลให้การเลี้ยวและต้องใช้แรงในการหมุนพวงมาลัยมากขึ้น หากพบว่าพวงมาลัยหนัก สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบก่อนคือ แรงดันยางล้อคู่หน้าปกติหรือไม่ เพราะทำได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าหากพบว่าแรงดันต่ำกว่ากำหนดมากอาจเป็นสาเหตุ สามารถแก้ไขโดยการเติมลมตามค่าที่โรงงานกำหนดไว้

2. พวงมาลัยหนักเพราะน้ำมันพาวเวอร์ขาด

รถยนต์ปัจจุบันบางรุ่น หรือรถในอดีตหลายรุ่น ใช้ระบบผ่อนแรงพวงมาลัยด้วยปั๊มพาวเวอร์ ซึ่งช่วยให้หมุนพวงมาลัยได้ง่าย เบาแรง แต่ระบบดังกล่าวต้องใช้น้ำมันพาวเวอร์เป็นตัวช่วยในการทำงาน หากมีการรั่วซึมในระบบ น้ำมันพาวเวอร์อยู่ในระดับต่ำกว่าที่กำหนด ก็จะทำให้พวงมาลัยหนักมือขึ้น และถ้าพบว่าน้ำมันพาวเวอร์อยู่ในระดับต่ำ แสดงว่ามีจุดรั่วในระบบ อาจตรวจสอบได้จากน้ำมันที่หยดลงพื้น หรือมีเสียงดังขณะเลี้ยว เป็นต้น ส่วนการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นคือ เติมน้ำมันพาวเวอร์ตามสเปกที่ผู้ผลิตกำหนดให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้

3. พวงมาลัยหนักเพราะแร็คพวงมาลัย หรือปั๊มพาวเวอร์มีปัญหา

เมื่อปั๊มพาวเวอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยผ่อนแรงของพวงมาลัยมีปัญหา ย่อมทำให้พวงมาลัยหนักและเลี้ยวยากขึ้น ต้องใช้กำลังเยอะกว่าปกติ รวมถึงแร็คพวงมาลัยที่เสื่อมสภาพ ทำให้น้ำมันพาวเวอร์รั่วซึม ระบบทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถตรวจสอบการซึมได้บริเวณตัวปั๊มหรือชุดเชื่อมต่อของแร็คพวงมาลัยใต้ท้องรถ

4. พวงมาลัยหนักเพราะสายพานหน้าเครื่องเสียหาย

สายพานหน้าเครื่องจะเป็นตัวขับอุปกรณ์หลายอย่างให้ทำงาน รวมถึงปั๊มพวงมาลัยพาวเวอร์ ดังนั้น หากสายพานชำรุด เสื่อมสภาพ ทำให้กำลังการขับของปั๊มลดลง เมื่อพวงมาลัยหนักแรงขึ้น สิ่งที่ไม่ควรลืมตรวจสอบคือสายพานหน้าเครื่องว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ หากชำรุดควรเปลี่ยนทันที เพราะหากสายพานขาดจะเกิดความเสียหายและไม่สามารถขับรถต่อไปได้

5. พวงมาลัยหนักเพราะบางจุดของระบบกันสะเทือนหน้าเสื่อมสภาพ

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พวงมาลัยแข็งหรือหนักได้คือ ชิ้นส่วนของระบบกันสะเทือนหน้า เช่น จุดเชื่อมต่อหลวม ลูกหมากคันชัก-คันส่งหลวม หรือลูกปืนล้อชำรุด หากชิ้นส่วนเหล่านี้เสื่อมสภาพจะมีเสียงดังขณะวิ่งบนทางที่ไม่ราบเรียบ

ปัญหาพวงมาลัยหนักสามารถขับต่อไปได้ แต่จะทำให้ควบคุมรถได้ยาก เพราะต้องใช้แรงมากขึ้น แต่ในบางครั้งสำหรับผู้ที่ไม่ชิน การขับรถที่มีพวงมาลัยหนักก็อาจก่อให้เกิดความผิดพลาดและเป็นอันตรายได้

ดังนั้น เมื่อพบว่าพวงมาลัยหนักหรือมีความผิดปกติ ควรตรวจสอบหรือรีบนำรถเข้าไปแก้ไขโดยเร็ว แม้อาจไม่ใช่ปัญหาที่เสี่ยงอันตรายมากนัก แต่สร้างความยากลำบากในการขับขี่ หากปล่อยไว้อาจทำให้ความเสียหายอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมาได้เช่นกัน

• สิ่งที่ไม่ควรทำขณะรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ติดไฟแดง มีอะไรบ้าง

• ล้างแอร์รถยนต์ ควรล้างทุกกี่ปี และการล้างวิธีไหนดีที่สุด

• ไฟเบรกมือค้าง ทำไงดี ? อาการแบบนี้อันตรายหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก : rxmechanic.com และ cartreatments.com