ล้างแอร์รถยนต์ ควรล้างทุกกี่ปี และวิธีการล้างแอร์รถยนต์มีกี่แบบ สามารถทำเองได้หรือไม่ แล้วล้างแบบไหนเวิร์กที่สุด
แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีกลิ่นเหม็นอับ ลมแอร์เบากว่าปกติ หรือเริ่มมีน้ำหยดลงพื้นห้องโดยสาร อาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรจะต้องล้างแอร์รถยนต์ได้แล้ว เพราะอาจมีสิ่งสกปรกอุดตันสะสมในตู้แอร์ ซึ่งปัจจุบันนั้นมีหลายวิธี ตั้งแต่ทำเองได้ไปจนถึงถอดล้างทั้งระบบ ส่วนขั้นตอน ความยุ่งยาก และค่าใช้จ่าย ก็แตกต่างกันไป แต่เลือกวิธีไหนดีที่สุด รวมถึงการล้างแอร์รถยนต์ควรล้างทุกกี่ปี เรามีคำตอบ
ล้างแอร์รถยนต์มีกี่วิธี
1. การล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้
การล้างแอร์รถยนต์แบบนี้เป็นวิธีล้างที่สะอาดสุด เหมาะสำหรับแอร์ที่มีความสกปรกมาก ต้องอาศัยความชำนาญของช่าง เพราะเป็นการรื้อตู้แอร์เพื่อถอดคอยล์เย็นออกมาล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาด (น้ำยาเป็นแบบไหนขึ้นอยู่กับร้าน มีหลายเกรด) จึงยุ่งยาก ราคาสูง และต้องเติมน้ำยาแอร์เข้าระบบใหม่ รวมถึงควรเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วแอร์ด้วย ส่วนข้อเสียคือ รถยนต์หลายรุ่นจำเป็นต้องรื้อคอนโซลออกหมด หากช่างไม่มีความชำนาญ หรือไม่ระมัดระวังมากพอ อาจเสี่ยงเกิดความเสียหายหรือหลวมคลอนได้
ล้างแอร์แบบถอดตู้ ราคาเท่าไหร่
ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการรื้อ เพราะรถแต่ละรุ่นอาจต่างกัน รวมถึงประเภทน้ำยาทำความสะอาดที่แต่ละร้านใช้ ซึ่งค่าใช้จ่ายมีตั้งแต่ราคาหลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลายพันบาท
2. การล้างแอร์รถยนต์ไม่ถอดตู้
การล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะค่อนข้างสะดวก ไม่ต้องรื้อชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ แค่ใช้เครื่องสอดท่อเพื่อฉีดน้ำยาทำความสะอาดเข้าไป เหมาะกับกรณีตู้แอร์ไม่สกปรกมากหรือได้รับการดูแลเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพราะประสิทธิภาพจะสู้การถอดตู้ออกมาล้างไม่ได้ แต่ค่าใช้จ่ายต่ำ รวดเร็ว และไม่ต้องเสี่ยงต่อความเสียหายจากการรื้อชิ้นส่วนแบบถอดตู้
ล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ ราคาเท่าไหร่
ราคาทั่วไปของการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้จะไม่เกิน 1,000 บาท แล้วแต่น้ำยาทำความสะอาดและมาตรฐานของผู้ให้บริการแต่ละราย
3. การล้างแอร์รถยนต์ด้วยตัวเอง
การล้างแอร์รถยนต์สามารถทำเองได้ไม่ยาก โดยใช้สเปรย์ทำความสะอาดแอร์รถยนต์ที่หาซื้อได้ทั่วไปในราคาหลักร้อยฉีดเข้าไปในช่องแอร์ ทิ้งไว้ตามขั้นตอน น้ำยาจะเข้าไปชะล้างสิ่งสกปรกให้ไหลออกทางท่อน้ำทิ้งพร้อมกับน้ำแอร์ตามระบบ แต่เหมาะกับรถใหม่หรือตู้แอร์ที่มีความสกปรกน้อย และต้องล้างอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดการอุดตันรวมถึงกลิ่นอับได้ ส่วนกรณีที่สกปรกมากอาจต้องล้างหลายครั้ง ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองกว่า 2 แบบแรกก็ได้
ควรล้างแอร์กี่ครั้งต่อปี
ทั้งนี้ ความถี่ในการล้างแอร์ขึ้นอยู่กับความสกปรกของตู้แอร์ หากเป็นรถใหม่ใช้งานไม่นานอาจล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ปีละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อย 2 ปีครั้ง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกสะสมมากจนต้องถอดตู้ล้าง
แต่สำหรับรถเก่าที่ไม่ได้รับการดูแลรักษามานานและสกปรกมาก อาจมีความจำเป็นต้องล้างแอร์แบบถอดตู้เสียก่อน ส่วนการใช้สเปรย์ทำความสะอาดแม้จะสะดวก ง่าย แต่ชะล้างความสกปรกได้น้อย ไม่ทั่วถึง จึงต้องล้างถี่มากขึ้น ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองกว่าล้างแบบไม่ถอดตู้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การล้างตู้แอร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งานเป็นสิ่งที่ควรทำแม้จะไม่มีระยะเวลาตายตัวนัก เพราะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้รถ ดังนั้น การเปลี่ยนกรองแอร์ (ในรุ่นที่มี) ตามระยะ รักษาความสะอาดภายในรถเป็นประจำ ไม่ใช้น้ำหอมปรับอากาศในรถ รวมถึงการบูร ก็จะช่วยให้ตู้แอร์อุดตันช้าลงได้มาก
บทความที่เกี่ยวข้องกับแอร์รถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : topgear.com และ mycarly.com