AVATR 11 รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมของ Changan จ่อเข้าไทยปีหน้า

AVATR 11 รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมแบบ SUV ทรงคูเป้ จ่อเปิดตัวในไทยปี 2024 โดยในจีนจะมีทั้งแบบ 4 และ 5 ที่นั่ง กำลังเริ่มต้น 313 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 700 กิโลเมตร 

AVATR 11 (อวาตาร์ วัน วัน) รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ทรงคูเป้ขนาดกลาง แบรนด์พรีเมียมของ Changan จ่อเปิดตัวที่ไทยในฐานะรถใหม่ 2024 ภายในมีความลักซูรี่และทันสมัย โดยในจีนจัดวางเบาะแบบ 5 ที่นั่ง และเบาะแยก 4 ที่นั่ง มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ กำลัง 313-578 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 2 แบบ ระยะทางวิ่งสูงสุด 700 กิโลเมตร มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 6 สี   

AVATR 11 ได้รับการออกแบบตัวถังให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ 4 ประตู ทรงคูเป้ ซึ่งใช้แนวหลังคาโค้งและเตี้ยลาดไปยังท้ายรถที่ออกแบบให้เสา C มีลักษณะเป็นครีบยันลอย (Flying buttress) ฝาท้ายเปิดแบบรถซีดาน ขณะที่ดีไซน์ด้านหน้าตั้งใจให้ดูอวกาศ ลึกลับ เหมือน UFO ตัวรถรอบคันซ่อนเรดาร์มากถึง 21 จุด และกล้อง 13 ตัว สำหรับระบบช่วยขับขี่ มีหลังคากระจกกัน UV และฝาท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าให้มาทุกรุ่น ส่วนขนาดตัวถังมีความยาว 4,880 มม. กว้าง 1,970 มม. สูง 1,601 มม. ความยาวฐานล้อ 2,975 มม. ใกล้เคียงกับรถ SUV ขนาดกลางฝั่งยุโรป  

ภายในของ AVATR 11 มีการตกแต่งแบบพรีเมียม เดินเส้นไฟสร้างบรรยากาศห้อมล้อมห้องโดยสาร วัสดุผิวสัมผัสนุ่มถูกนำมาใช้หลายจุด ทั้งในส่วนของแผงคอนโซล แผงประตู เบาะหุ้มหนัง Nappa พร้อมช่วยป้องกันการเกิดแบคทีเรีย แผงหลังคาหุ้มวัสดุสังเคราะห์ Suedette คล้ายกำมะหยี่ มีการจัดวางเบาะ 2 แบบ คือ 5 ที่นั่ง และ 4 ที่นั่ง เบาะหลังแยกมีคอนโซลกลางกั้น ส่วนเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง ผู้โดยสารตอนหน้า 8 ทิศทาง  

ทางด้านอุปกรณ์ AVATR 11 ฝังหน้าจอดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว สำหรับคนขับและผู้โดยสารรวมเข้าไปกับตัวแผงคอนโซล ขณะที่จอมัลติฟังก์ชันกลางขนาด 15.6 นิ้ว ใช้แบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อ 5G และเป็น Smart Cockpit ซึ่งได้ Huawei พันธมิตร มาช่วยออกแบบตัวระบบ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ท่าทาง สามารถจดจำโปรไฟล์ผู้ใช้งานด้วยใบหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ ประตูหลังมีระบบเปิด-ปิดไฟฟ้า ระบบเสียงเป็นแบบรอบทิศทางด้วยลำโพง 14 ตัว พร้อมระบบช่วยตัดเสียงรบกวน

AVATR 11 ในจีนจะมีระบบขับเคลื่อน 2 แบบ แบตเตอรี่ 2 ขนาดให้เลือก คือ

มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง

กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร มีแบตเตอรี่ 2 ขนาด ได้แก่

• ขนาดความจุ 90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 6.6 วินาที ระยะทางวิ่ง 600-630 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)

• ขนาดความจุ 116 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 6.9 วินาที ระยะทางวิ่ง 705-730 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)

มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 4 ล้อ

กำลังสูงสุด 578 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร มีแบตเตอรี่ 2 ขนาด ได้แก่

• ขนาดความจุ 90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 3.98 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 555-580 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)

• ขนาดความจุ 116 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 4.5 วินาที ระยะทางวิ่ง 680-700 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)

ระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจใน AVATR 11 คือการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบเตือนการชนพร้อมช่วยเบรกทั้งทางตรงและทางแยก, ระบบรักษาช่องทางจราจร, เตือนจุดอับสายตา, ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน, ระบบช่วยขับขี่ทางไกลทำงานแบบคาดการณ์ล่วงหน้าได้ร่วมกับระบบนำทาง, ระบบช่วยขับขี่สำหรับการจราจรในเมือง, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ไปจนถึงระบบขับเข้าที่จอดอัตโนมัติ เป็นต้น 

AVATR 11 มีสีตัวถังภายนอกให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่

สำหรับราคาจำหน่ายของ AVATR 11 ในจีน จะเริ่มต้นที่ 300,000 หยวน หรือประมาณ 1.49 ล้านบาท ส่วนรุ่นท็อปสุดราคา 1.93 ล้านบาท ดังนั้น หากมีการเปิดตัวในไทย คาดว่าจะเริ่มต้นอยู่ประมาณ 2 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในไทยยังไม่มีรถ SUV ไฟฟ้าทรงคูเป้ที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกันปรากฏตัว ยกเว้นรถยุโรปราคาสูง เช่น Audi Q8 Sportback e-tron ซึ่งราคาเริ่มต้น 4,999,000 บาท รวมถึง Mercedes-EQE ราคา 4,850,000 บาท ซึ่งทั้งสองรุ่นก็น่าจะยังห่างไกลกับ AVATR 11 แม้จะมีขนาดใกล้เคียงและยังไม่ทราบราคาอย่างเป็นทางการในตอนนี้ก็ตาม

• Baojun YEP EV รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นจิ๋ว แพลนเปิดตัวในไทยปลายปีหน้า

• Toyota Hilux Revo Hybrid เผยสเปกก่อนวางจำหน่ายปีหน้า

• Deepal S07 รถ SUV ไฟฟ้าทรงคูเป้ ราคา 1,399,000 บาท

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : avatr.com