ปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน แล้วเราอยู่ในรถจะปลอดภัยไหม มีความเสี่ยงแค่ไหน และควรทำอย่างไรบ้างกับรถยนต์ เมื่อเจอภาวะฝุ่น PM2.5
ตอนนี้ทุกคนเริ่มตระหนักรู้กับมลพิษ ฝุ่น PM2.5 มากขึ้น เพราะเกินค่ามาตรฐานยาวนานนับสัปดาห์ มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น และไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯ แต่ยังปกคลุมภาคกลาง ภาคอีสานตอนล่าง และภาคเหนือตอนล่าง ความหนาแน่นสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคล้ายหมอก
ต้นตอของปัญหาเกิดจากเถ้าฝุ่นจากการเผามากที่สุด ตามมาด้วยมลพิษรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล และฝุ่นจากการก่อสร้าง ปกติ ฝุ่น PM2.5 จะเยอะช่วงเปลี่ยนฤดูหนาวไปฤดูร้อนเพราะอากาศปิด และฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกทิศลมพัดพามาปกคลุม ทำให้ฝุ่นแขวนลอยในอากาศนาน
สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอด เป็นผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด
และอย่างที่รู้ ๆ กัน การป้องกันคือใส่หน้ากาก N95 หรือหากหาสินค้าไม่ได้ ก็ควรใส่หน้ากากอย่างน้อย 2 ชั้นเพื่อลดจำนวนฝุ่นที่เข้าถึงปอดเราโดยตรง แต่หลายคนคงสงสัยว่าฝุ่น PM2.5 สามารถเข้าในรถได้หรือไม่ และช่วงนี้อยากปลอดภัยควรทำอย่างไร เรามีวิธีมาบอก
- อยู่ในรถปลอดภัยแค่ไหนกัน
แม้ในรถยนต์ที่สมบูรณ์ มีกรองอากาศที่ดีและยังสามารถกรองกลิ่นได้ด้วยนั้น ก็อาจไม่ปลอดภัยจากฝุ่นขนาด PM2.5 เสียทั้งหมด เพราะเปิดประตูอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นก็ไหลเข้ามารอในห้องโดยสารเต็มไปหมด แต่ไม่เสี่ยงเท่ากับคนเดินถนน เทียบให้เห็นภาพชัด ๆ รถติดกลางแยกเราก็สามารถนั่งรอไฟแดงที่นานได้อย่างชิล ๆ ในขณะที่คนเดินข้ามถนนเหม็นกลิ่นและเคืองจมูกได้อย่างรุนแรง ฉะนั้นการขับรถตามปกติก็ไม่ได้เป็นอันตราย เว้นเสียแต่เปิดกระจกขณะขับรถ
แต่หากรถคุณมีปัญหาเรื่องกรองอากาศอยู่แล้วละก็ แค่ติดไฟแดงก็มีกลิ่นเหม็นควันรถจนทนไม่ได้
- อย่าลืมเปิดระบบแอร์หมุนวนภายในรถ ปลอดภัยหายห่วง
เช็กให้ดีว่าเปิดระบบอากาศหมุนวนภายในห้องโดยสาร ปุ่มนี้จะปิดช่องดักอากาศจากภายนอกแล้วใช้อากาศภายในห้องโดยสารหมุนเวียนผ่านช่องที่อยู่บริเวณคอนโซลหน้ารถ และเมื่อฝุ่นที่อยู่ในห้องโดยสารผ่านกรองแอร์ HEPA ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถ เราจะเปิดเอาอากาศภายนอกมีความชื้นสูง กระจกเป็นฝ้าก็พอ
- กรองแอร์ก็ควรเปลี่ยนอย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุก ๆ 15,000 กิโลเมตร
ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มีช่องสำหรับกรองแอร์ ใครที่ไม่เคยทำลองตรวจเช็กดู เพราะบางครั้งรถยนต์รุ่นนั้นมีที่ใส่กรอง แต่ไม่มีกรองอยู่ก็เป็นได้ ตำแหน่งของกรองแอร์ส่วนใหญ่อยู่หลังเก๊ะฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า
- รถยนต์ของคุณไม่มีกรองแอร์ ก็สามารถทำเองได้
เราได้รวบรวมตัวอย่างของรถบางรุ่นที่ไม่มีกรองแอร์ แต่เจ้าของรถก็เลือกดัดแปลงติดตั้งกรองแอร์บริเวณโบเวอร์ที่ดูดลมภายในห้องโดยสาร ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี ส่วนนี้มักมองไม่เห็นปิดมิดชิดสวยงาม แต่หากใครไม่คิดจะดัดแปลงก็ข้ามไป และหันมาเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถก็ได้
Toyota Camry 2003 รู้หรือไม่ รถรุ่นนี้ไม่เคยมีกรองแอร์มาให้ !!! กับวิธีใส่กรองแอร์
DIY กรองแอร์ NISSAN Sunny NEO
DIY เจาะช่องกรองแอร์ไม่ง้อช่าง Honda BR-V
สรุปแล้วอยู่ในรถยนต์ก็คงไม่ต้องกังวลปัญหาฝุ่น PM2.5 แต่ก็อยากให้ทุกคนตรวจสอบและเช็กสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ดัดแปลงสภาพรถโดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล หากรถมีควันขาว-ควันดำ แล้วคุณละเลย ก็รู้ไว้เถอะว่าคุณคือส่วนหนึ่งของต้นตอปัญหาฝุ่น PM2.5 ในขณะนี้
ข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ