ถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้บิ๊กไบค์ตระกูลแอดเวนเจอร์จากเมืองเบียร์อย่าง BMW หรือเซียนโฟโต้ฮันท์เชื่อว่าอาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติสักเล็กน้อยสำหรับการมองหาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของ บีเอ็มดับบลิว เอฟ 700 จีเอส (BMW F 700 GS) และเอฟ 800 จีเอส(F 800 GS) ใหม่ ปี 2016
มีการปรับลุคใหม่ในรายละเอียดของความสวยงามภายนอกให้ดูสดใสซาบซ่ามากขึ้นอย่างบริเวณถังน้ำมันและแผ่นปิดตัวถังสีเมทัลลิกบริเวณหัวเข่าด้านข้างใน BMW F 700 GS แต่ในรุ่น F 800 GS จะเป็นแผ่นปิดหม้อน้ำนอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นด้วยสีเบาะนั่งแบบทูโทนและการจับคู่สีตัวถังกับเฟรมใหม่ให้แตกต่างไปจากเดิมซึ่งแบ่งสไตล์การตกแต่งไว้ดังนี้
BMW F 700 GS : Style 1 สีขาว Light White non-metallic
- เฟรมสีแดง Racing red non-metallic
- สปริงสตรัทสีแดง
- เบาะทูโทนสี เทา-ดำ
BMW F 700 GS : Basic สีส้ม Sakhir orange metallic
- ตัวถังสีส้ม Sakhir orange metallic
- เฟรมสีเทาด้าน Agate grey metallic
- สปริงสตรัทสีขาว
- เบาะทูโทนสี เทา-ดำ
BMW F 700 GS : Basic สีเทา Mineral grey metallic
- ตัวถังสีเทา Mineral grey metallic
- เฟรมสีเทาด้าน Agate grey metallic
- สปริงสตรัทสีขาว
- เบาะทูโทนสี เทา-ดำ
BMW F 800 GS : Style 1 สีขาว Light White non-metallic
- ตัวถังสีขาว Light White non-metallic
- เฟรมสีแดง Racing red non-metallic
- สปริงสตรัทสีแดง
- เบาะทูโทนสี เทา-ดำ
- การ์ดแฮนด์และสปอยเลอร์หน้าบน(ใต้ไฟหน้า)
BMW F 800 GS : Style 2 สีดำ Black strom metallic
- ตัวถังสีดำ Black strom metallic
- เฟรมสีเทาด้าน Agate grey metallic
- สปริงสตรัทสีขาว
- เบาะทูโทนสี เทา-ดำ
- การ์ดแฮนด์, สปอยเลอร์หน้าบน(ใต้ไฟหน้า), กระจกบังลมสีดำ และไฟเลี้ยวแบบ LED
BMW F 800 GS : Basic สีน้ำเงิน Racing Blue metallic
- ตัวถังสีน้ำเงิน Racing Blue metallic
- เฟรมสีเทาด้าน Agate grey metallic
- สปริงสตรัทสีขาว
- เบาะทูโทนสี เทา-ดำ
สำหรับขุมพลังยังคงเดิมทั้ง BMW F 700 GS และ F 800 GS ซึ่งใช้เครื่องยนต์แบบ 2 สูบขนาน 4 จังหวะ ขนาดความจุ 798 ซีซี โดยในรุ่น F 700 GS มีกำลังสูงสุด 75 แรงม้า ที่ 7,300 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตร ที่ 5,300 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุดทำ ได้ที่ 192 กม./ชม ส่วนรุ่น F 800 GS กำลังสูงสุด 85 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 83 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบ/ นาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 200 กม./ ชม. ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมเกียร์แบบ 6 จังหวะ
F 700 GS
F 800 GS
ส่วนเฟรมของ BMW F 700 GS จะเป็นแบบท่อเหล็กสเปซเฟรม แต่ F 800 GS จะเพิ่ม load-bearing engine มาให้ รวมถึงในส่วนของระบบกันสะเทือนของ BMW F 700 GS และ F 800 GS จะแตกต่างกันอยู่บ้าง โดย BMW F 700 GS จะเป็นแบบเทเลสโคปิกขนาด 41 มม. แต่ในรุ่น F 800 GS เป็นแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ส่วนด้านหลังของ BMW F 700 GS เป็นแบบสวิงอาร์มอะลูมิเนียมคู่เซ็นทรัล สปริง สตรัท (central spring strut) ซึ่งในรุ่น F 800 GS จะเป็นแบบ WAD Strut สามารถปรับระดับความหนืดได้ทั้ง 2 รุ่น
ระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์คู่ ขนาด 300 มม. คาลิเปอร์แบบ 2 พอต ส่วนด้านหลังใช้ดิสก์เดี่ยวขนาด 265 มม. คาลิเปอร์แบบ 1 พอต พร้อมระบบเบรก ABS ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยน้ำหนักรถเปล่าไม่รวมของเหลว(Dry weight) BMW F 700 GS จะอยู่ที่ 186 กก.
และเพิ่มเป็น 191กก. ในรุ่น F 800 GS
BMW Motrorad อาจถือคติอะไรที่ยังดีอยู่ก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันมากก็เป็นได้และอย่างน้อยก็มีข้อดีคือราคาอาจไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก ซึ่งตอนนี้ BMW Motorad ประเทศไทยแขวนป้ายราคา BMW F 700 GS และ F 800 GS รุ่นปัจจุบันไว้ที่ 445,000 บาท และ 530,000 บาท ตามลำดับ
BMW F 700 GS
ภาพจาก BMW Group