Mercedes Benz C-Class ปี 2014 เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว !

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก facebook MercedesBenz เเละ daimler

          สิ้นสุดการรอคอยเสียที สำหรับรถคอมแพกต์ซีดานระดับหรูโฉมใหม่ล่าสุดจากค่ายดาวสามแฉก เมอร์เซเดส เบนซ์ (Mercedes Benz) โดยรถรุ่นดังกล่าวคือ เมอร์เซเดส เบนซ์ ซี-คลาส (Mercedes Benz C-Class) ปี 2014 ซึ่งมาพร้อมระบบการทำงานต่าง ๆ และการปรับเปลี่ยนต่าง ๆ มากมาย

          เริ่มด้วยตัวรถที่ปัจจุบัน ซี-คลาส จะได้ขยับจากซีดานรุ่นเล็กสุดของค่ายมาเป็นรุ่นกลาง โดยมี เมอร์เซเดส เบนซ์ ซีแอลเอ-คลาส (Mercedes Benz-CLA)  เป็นผู้รับหน้าที่นี้ไป โดย ซี-คลาส รุ่นใหม่จะมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนชัดเจนทีเดียว ตัวรถจะยาวกวา 95 มิลลิเมตร และกว้างกว่า 40 มิลลิเมตร พร้อมกับขยายฐานล้อให้กว้างขึ้นอีก 80 มิลลิเมตร ทั้งยังเพิ่มขนาดของช่องเก็บสัมภาระท้ายเป็น 480 ลิตร

          การออกแบบเมอร์เซเดส เบนซ์ ซี-คลาส รุ่นปี 2014 จัดว่าต่อเนื่องกับรุ่นใหญ่ของค่ายทั้งสองอย่าง อี-คลาส (Mercedes Benz E-Class)และเอส-คลาส (Mercedes Benz S-Class) ที่เน้นเส้นสายโค้งมนหรูหราในบริเวณต่าง ๆ ของรถ ตั้งแต่ไฟหน้าเดย์ไลท์ที่เป็นเส้นโค้งสวยงาม เส้นด้านข้างก็เน้นความลงตัวพร้อมกับประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ส่วนท้ายรถเน้นความหรูหราไม่แพ้กับรุ่นพี่ ซึ่งโดยรวมแล้ว ซี-คลาส รุ่นปี 2014 ยังคงดูเด็กกว่าทั้งอี คลาสและเอส คลาสอยู่ชัดเจน

          ภายในของรถออกแบบโดยเน้นความหรูหรามากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้ เน้นวัสดุอย่างหรูหรา คอนโซลหน้ารถที่เกลี้ยงเกลาสะอาด จอภาพขนาดใหญ่ชัดเจนติดตั้งเหนือช่องแอร์รูปร่างกลม 3 ช่อง และติดตั้งปุ่มสั่งการแบบหมุนพร้อมด้วยทัชแพดที่ใช้งานง่ายที่กลางรถ ส่วนคันเกียร์จะอยู่ที่คอพวงมาลัยเช่นเดียวกับเบนซ์รุ่นใหม่อื่น ๆ

          พื้นฐานของซี-คลาส รุ่นปี 2014 คือรุ่น MRA Rear-Wheels ซึ่งออกแบบสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลัง โดยในรุ่นนี้จะมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัม ส่งผลให้ตัวรถประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ และตัวรถยังถูกปรับแต่งให้มีจุดศูนย์ถ่วงจึงทำให้การบังคับเลี้ยวสามารถทำได้ดีขึ้น

          เมอร์เซเดส เบนซ์ ซี-คลาส รุ่นปี 2014 มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบใหม่ AIRMATIC ซึ่งสามารถปรับระดับของรถตามพื้นถนนเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลได้ด้วยการคำนวณพื้นผิวและโช้คอัพไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกรุ่นโช้คอัพเหล็กซึ่งมาพร้อมกับระบบปรับโหมดการใช้งานได้ 3 โหมดทั้ง คอมฟอร์ต, คอมฟอร์ตพร้อมอารมณ์สปอร์ต และโหมดสปอร์ตที่จะลดความสูงของโช้คอัพลง 15 มิลลิเมตร

          ด้านระบบขับเคลื่อนก็จัดเต็มพร้อมกับแบ่งรุ่นจำหน่ายในขณะนี้ 3 รุ่นด้วยกัน เริ่มที่ C220 BlueTEC ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2,200 ซีซี ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.1 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีเยี่ยมถึง 24.9 กม./ลิตร

          ต่อด้วยรุ่น C180 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,600 ซีซี ให้กำลัง 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.2 วินาที และมีอัตราสิ้นเปลือง 19 กม./ลิตร

          ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์เบนซินอีกรุ่นหนึ่งคือ C200 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี กำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 18 กม./ลิตร

          นอกจากนี้ หลังจากจำหน่าย เบนซ์ยังอาจส่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1,600 ซีซี และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2,200 ซีซีที่ปรับลดแรงม้าลงเพื่อจำหน่ายในกลุ่ม BlueEFFICIENCY รวมทั้งรุ่นไฮบริด C300 BlueTEC HYBRID จัดเต็มความประหยัดด้วยเครื่องยนต์ดีเซลกำลัง 204 แรงม้า ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 27 แรงม้า ส่งให้รถประหยัดน้ำมันแบบสุด โดยใช้น้ำมันเพียง 25 กม./ลิตรเท่านั้น

          ทุกรุ่นที่จำหน่ายขณะนี้จะสามารถเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 7G-Tronic รวมทั้งยังมีระบบช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยอีกมาก ทั้งระบบช่วยจอดรถ, ระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบเตือนป้ายจราจร และระบบเตือนเมื่อขับรถสวนเลน เป็นต้น ทั้งนี้ ยังสามารถเลือกเพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ได้อีกด้วย

          เมอร์เซเดส เบนซ์ ซี-คลาส รุ่นปี 2014 ได้เปิดตัวราคาแล้ว โดยรุ่นเริ่มต้นคือรุ่น C180 จะจำหน่ายราคา 33,558 ยูโร (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ส่วนรุ่น C200 มาพร้อมราคา 36,414 ยูโร (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) และรุ่น C220 BlueTEC ราคา 38,675 ยูโร (ประมาณ 1.7 ล้านบาท)