หลังจากโดนรุมถล่มยับโดยบิ๊กทรีของญี่ปุ่นทำให้รถขนาดซับคอมแพกต์หรือ B-Segment เจ้าถิ่นแดนเสือเหลืองอย่าง Proton Persona (หรือ Proton Gen 2 ในบ้านเรา)ถูกต้อนเข้ามุมลงไปกองกับพื้นได้แค่นอนมอง Honda City, Toyota Vios และ Nissan Almera กวาดยอดขายกันอย่างสนุกสนานทั้งที่ราคาก็แพงกว่ามากแต่อาจเป็นเพราะลูกค้าจะไม่ทนขับรถแห่งชาติหน้าตาเชย ๆ อีกต่อไปแล้ว
ล่าสุด Proton Persona 2017 ใหม่ ขอกลับมาแบบท็อปฟอร์มสุด ๆ ขนาดที่ว่าเปิดจองล่วงหน้าทั้งที่รถยังไม่เผยโฉมอย่างเป็นทางการแบบเต็มคันและมีแค่ภาพบางส่วนพอให้จินตนาการได้ว่าขับแล้วหล่อได้ไม่แพ้คู่แข่งในระดับเดียวกัน (ไม่นับสารพัดภาพหลุดหรือแอบถ่ายขณะทดสอบและถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา) ซึ่งก็ทันสมัยขึ้นจริงด้านหน้านั้นเฉียบคมแบบรถยุคใหม่ แต่สัดส่วนของ Proton Persona 2017 โดยรวมนั้นออกแนวป่องกลางหน้าสั้นท้ายกุดแม้จะทำให้ดูไม่สมาร์ทแต่เพราะต้องใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Proton Iriz ที่เป็นรถแฮตช์แบ็ก 5 ประตูขนาดเล็กมาขยายฐานล้อเพื่อให้กลายเป็นรถซีดานและยังมีห้องโดยสารกว้างขวางเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ต้องทำใจ
ส่วนการออกแบบภายในของ Proton Persona 2017 ก็เป็นไปตามยุคสมัยและราคาของ Proton Iriz หรือจะบอกว่าเหมือนกันเลยก็ได้ทั้งแผงหน้าปัด แผงประตู เบาะหนาน่านั่งและคงจะมีเพียงเบาะหลังเท่านั้นที่แตกต่างกันซึ่งพนักพิงศีรษะเป็นแบบตายตัวปรับขึ้นลงไม่ได้เหมือน Proton Iriz แต่ก็ยังพับได้แบบ 60:40 ยามที่ต้องขนของที่มีลักษณะยาวมาก โดยความจุห้องเก็บของท้ายรถก็ถือว่ากว้างเหลือเฝือด้วยความจุ 510 ลิตร นอกเหนือจากนี้ยังไม่มีของใหม่ให้สะดุดตาต่างจาก Proton Iriz มากนัก
มาดูกันต่อในเรื่องขุมพลังของ Proton Persona 2017 ใหม่ นั้นเลือกใช้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าด้วยขนาด 1.6 ลิตร VVT ให้กำลังสูงสุดที่ 107 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที และแรงบิด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เหมือน Proton Iriz แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นข้อได้เปรียบหรือไม่ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีเหนือกว่าด้วย
ความจุกระบอกสูบ
คู่แข่งที่ครองตลาดหลักทั้งหมดใช้เครื่องขนาด 1.5 ลิตร แต่ Honda City มีกำลังสูงถึง 120 แรงม้า ส่วน Toyota Vios มี 109 แรงม้า ในขณะที่ Nissan Almera มี 102 แรงม้า จริงอยู่ว่าแรงม้าไม่ใช่ข้อสรุปว่ารถคันไหนขับดีกว่าเสมอไปแต่ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ลูกค้าทั่วไปมองเห็นและเข้าใจเป็นอันดับแรกและมันก็ฝังใจเสียด้วย
แต่ไม้เด็ดของ Proton Persona 2017 ยังมีอยู่ตรงลูกเล่นที่เน้นการใช้งานสำหรับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ให้มาแบบจัดเต็มและงัดออกมาโชว์ก่อนภาพรถเต็มคันเสียอีกทั้ง กุญแจแบบ Keyless Entry และเปิดฝาท้ายด้วยรีโมท, เซนเซอร์กะระยะรอบคัน, ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ และดับไฟหน้าหลังจอดรถเอง (Follow Me Home Lamp) รวมถึงปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Electric Headlamp Leveling) , รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, Wi-Fi, ช่องเสียบ USB หน้าหลัง, ช่องเก็บของ 10 จุดและที่วางแก้วน้ำอีก 7 จุด
ส่วนระบบความปลอดภัยก็ให้ถุงลมนิรภัยมา 6 จุด, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCT และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-Hold Assist) เป็นต้น แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาจะติดตั้งมาให้แล้วแต่รุ่นย่อย โดย Proton Persona 2017 ในมาเลเซียจะแบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, Executive, Premium และ Premium SE ในขณะที่ราคายังไม่เปิดเผยแต่อาจเริ่มแถว ๆ 50,000-60,000 ริงกิต (ประมาณ 4.3-5.1 แสนบาท) ซึ่งปัจจุบันคู่แข่งจากญี่ปุ่นล้วนแต่เริ่มต้นที่ 70,000 ริงกิต (6 แสนบาท) ขึ้นไปทั้งนั้น
งานนี้ต้องวัดใจลูกค้าแดนเสือเหลืองว่าจะหันกลับมามองรถแห่งชาติที่เปลี่ยนตัวเองให้ทันสมัยขึ้นหรือรถจากต่างชาติที่ครองตลาดซีดานเล็กไปแล้ว
ภาพจาก Proton.com, paultan.com
