รถในอเมริกายกระดับ ให้เบรกอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

          ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาเกือบทั้งหมดรวม 20 ค่าย พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐติดตั้งระบบเบรกอัตโนมัติหรือ AEB (Automatic Emergency Braking) มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ใหม่ทุกคันภายในปี 2022

          สำนักงานความปลอดภัยการจราจรทางหลวงแห่งชาติ (NHTSA หรือ National Highway Traffic Safety Administration) และสถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐอเมริกา ( IIHS หรือ Insurance Institute for Highway Safety) ได้ประกาศว่าได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในอเมริกาเกือบทั้งหมด รวม 20 ราย จะติดตั้งระบบเบรกอัตโนมัติ AEB (Automatic Emergency Braking หรือ Autonomous Emergency Braking) ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์รุ่นใหม่ทุกคันภายในปี 2022 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า



          โดยมีผู้ผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและเป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเรา ได้เข้าร่วมทำ ข้อตกลงได้แก่ ออดี้, บีเอ็มดับบลิว, กลุ่มเฟียต-ไครสเลอร์, ฟอร์ด, กลุ่มเจนเนอรัล มอเตอร์ส, ฮอนด้า, ฮุนได, กลุ่มจากัวร์แลนด์โรเวอร์, เกีย, มาเซราติ, มาสด้า, เมอร์เซเดส-เบนซ์, มิตซูบิชิ มอเตอร์ส, นิสสัน, ปอร์เช่, ซูบารุ, เทสลา มอเตอร์, โตโยต้า, โฟล์คสวาเกน และวอลโว่ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์และเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ บริโภคที่จะได้ใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยนี้ได้เร็วกว่าการปล่อยให้มีการ บังคับใช้ตามขั้นตอนปกติ


          สำหรับเทคโนโลยีระบบเบรกอัตโนมัตินี้ในบ้านเราก็เริ่มมีติดตั้งเป็นอุปกรณ์ มาตรฐานให้เห็นแล้วในรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นตั้งแต่ระดับอีโคคาร์บางยี่ห้อ คอมแพกต์คาร์ เอสยูวี ไปจนถึงรถหรูราคาแพง (ซึ่งอย่างหลังสุดนี้น่าจะควรถือว่าเป็นเรื่องปกติ) โดยระบบเบรกอัตโนมัติ (AEB) จะช่วยป้องกันการชนหรือลดความรุนแรงด้วยการเบรก ซึ่งจะใช้เซ็นเซอร์เป็นอุปกรณ์ตรวจจับ เช่น เรดาร์ กล้อง หรือเลเซอร์ เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ หรือทำการเบรกอัตโนมัติหากระบบเห็นว่าไม่มีการตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีพอ เมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวางด้านหน้า


          ทั้งนี้สำนักงานความปลอดภัยการจราจรทางหลวงแห่งชาติ (NHTSA) คาดการณ์ว่าข้อตกลงนี้จะทำให้ระบบเบรก AEB กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์รุ่นใหม่ทุกคันได้เร็วขึ้นถึง 3 ปี เมื่อเทียบกับการปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนการบังคับใช้ทางกฎหมาย ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวจากการประเมินของสถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบน ทางหลวงของสหรัฐอเมริกา (IIHS) นั้นระบุว่าจะลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุจากการชนได้ถึง 28,000 ครั้ง รวมถึงผู้บาดเจ็บเป็นจำนวน 12,000 คน


          อย่างไรก็ตามข้อตกลงดังกล่าวจะครอบคลุมในส่วนรถยนต์ทั่วไปรวมถึงรถบรรทุก ใหม่ทุกคันที่มี น้ำหนักไม่เกิน 3.85 ตัน ต้องติดตั้งระบบเบรก AEB มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรถบรรทุกที่น้ำหนักเกิน 3.85-4.5 ตัน จะติดตั้งระบบเบรกดังกล่าวให้ได้ภายในปี 2015 นอกจากการให้ความร่วมมือแล้วทั้ง NHTSA และ IIHS จะยังเพิ่มการทดสอบมาตรฐานของระบบดังกล่าวและให้คะแนนร่วมกับการทดสอบการชน ตามปกติโดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้

          การทดสอบและการให้คะแนนการป้องกันการชนด้านหน้า (Front crash prevention test) จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน รวม 6 คะแนนเต็มดังนี้

          - มีการแจ้งเตือนก่อนเกิดการชนด้านหน้า (1 คะแนนเต็ม)
          - การทดสอบระบบเบรก AEB ที่ระดับ 20 กม./ชม. ความเร็วลดลงน้อยกว่า 8 กม./ชม. ได้ (0 คะแนน)/ 8-15 กม./ชม ได้ (1 คะแนน)/ 16 กม./ชม. หรือมากกว่า (2 คะแนนเต็ม)
          - การทดสอบระบบเบรก AEB ที่ระดับ 40 กม./ชม. ความเร็วลดลงน้อยกว่า 8 กม./ชม. ได้ (0 คะแนน)/ 8-15 กม./ชม ได้ (1 คะแนน)/ 16-34 กม./ชม. (2 คะแนน)/ 35 กม./ชม. หรือมากกว่า (3 คะแนนเต็ม)
    รถ ยนต์ที่ได้ผลการทดสอบรวม 1 คะแนน จะผ่านเกณฑ์มาตรฐาน (Basic) 2-4 คะแนน จะผ่านเกณฑ์ ดี (qualifies) และ 5-6 คะแนน จะผ่านเกณฑ์ ดีเยี่ยม (superior)

          จริงอยู่ว่าการบังคับใช้ทางกฎหมายให้ติดตั้งเบรก AEB เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถใหม่ทุกคันจะเกิดขึ้นตามมาภายหลังแต่ก็ต้องมีขั้นตอน และใช้ระยะเวลาซึ่งถ้าผู้ผลิตรถยนต์ให้ความร่วมมือโดยไม่ต้องรอก็จะช่วยลด ปริมาณอุบัติเหตุได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

ภาพจาก IIHS (Insurance Institute for Highway Safety)