ไม่ว่าจะอย่างไรรถใหม่ทุกคันในวันนี้ย่อมต้องกลายเป็นรถเก่าในวันข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในบรรดารถเก่าเหล่านั้นจะมีรถเพียงบางคันเท่านั้น ที่สามารถมีชีวิตที่สองในฐานะรถคลาสสิกต่อไปในอนาคต
ถ้าพูดถึงในระดับสากลแล้วนั้นย่อมเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ปีที่ผลิต จำนวนการผลิต การมีนวัตกรรมใหม่รวมถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่าง ๆ ที่ทั่วโลกให้ยอมรับ
ครั้งนี้เราลองมาชมว่าที่รถคลาสสิกในมุมมองของบริษัทประกันภัยเฉพาะทางสำหรับรถคลาสสิกอย่าง ฮาเกอร์ตี้ อินชัวรันซ์ (Hagerty Insurance) แห่งรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือได้ว่ามีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลกและจากประสบการณ์ของ Hagerty Insurance ที่เกี่ยวข้องอยู่กับแวดวงรถคลาสสิกนั้นได้ทำการจัดอันดับรถใหม่ใน ปี 2015 ทั้งหมด 10 รุ่น (ที่กำลังจะเก่าในปีหน้าและต่อไปในอนาคต) ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นรถที่น่าสะสมและอาจมีมูลค่าในอนาคตส่วนจะเป็นรุ่นใดนั้นมาติดตามกันได้เลย
อัลฟา โรมิโอ 4ซี (Alfa Romeo 4C)
ราคา : 69,685 ดอลลาร์สหรัฐ (2.1 ล้านบาท)
หลังจากห่างหายจากตลาดอเมริกาไปนานมากถึง 20 ปี Alfa Romeo กลับมาอีกครั้งด้วยรถสปอร์ตรุ่น 4C ซึ่งไม่ได้มีแค่เพียงรูปทรงที่สวยบาดใจเท่านั้น แต่ยังมีแชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ ชม ได้ภายใน 4.1 วินาที นอกจากนี้ Alfa Romeo 4C ยังมีความเป็นอิตาเลี่ยนแฝงอยู่ทุกอณูจนแทบจะกลายเป็นรถที่ฮอตฮิตติดทุกโผไปเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ Hagerty Insurance คิดว่า Alfa Romeo 4C ไม่น่าพลาดตำแหน่งรถคลาสสิกในอนาคตอย่างแน่นอน
บีเอ็มดับบลิว เอ็ม4 เปิดประทุน (BMW M4 Convertible)
ราคา : 73,450 ดอลลาร์สหรัฐ(2.3 ล้านบาท)
BMW M3 และ M5 นั้นเป็นรถที่เน้นไปทางมอเตอร์สปอร์ตมาตั้งแต่ยุค 80 และ BMW M4 ได้ทำให้เหล่าบิ๊กแฟนได้สัมผัสกับแรงบิดมหาศาลของเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ แถวเรียง 6 สูบ แต่บางทีสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ BMW M4 เป็นรถจากแผนก M เพียงรุ่นเดียวนอกเหนือจาก M6 ที่มีราคาแพงลิบลิ่วที่สามารถเปิดหลังคารับลมได้
เชฟโรเลต คามาโร ซี/28(Chevrolet Camaro Z/28)
ราคา : 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ (2.34 ล้านบาท)
ถนนทุกเส้นโปรดเตรียมพร้อมเพราะ Chevrolet Camaro มาแล้ว มันถูกส่งเข้าคอร์สไดเอตทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 136 กิโลกรัม ผลก็คือรูปร่างที่เพรียวกระชับและเฟิร์มขึ้นพร้อมกับเครื่องยนต์ LS7 V8 ให้กำลัง 505 แรงม้า และแรงบิด 652 นิวตันเมตร จนกลายเป็นอสูรทรงพลังติดล้อแห่งท้องถนนของอเมริกาที่สร้างความหวาดผวาให้กับ Toyata Prius จนไม่กล้าวิ่งออกเลนซ้าย (ในสหรัฐฯ) อีกเลย
เชฟโรเลต โคเวตต์ ซี06 (Chevrolet Corvette Z06)
ราคา : 78,995 ดอลลาร์สหรัฐ (2.47 ล้านบาท)
Chevrolet Corvette Z06 เป็นรถที่สุดยอดมากและมีราคาสมเหตุผลราวกับว่าคุณสามารถซื้อรถถัง M1-A1 Abrams ได้ในราคาต่ำกว่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ
มันเป็นซูเปอร์คาร์ที่ให้สมรรถนะคุ้มค่ากับเงินทุกดอลลาร์ที่จ่ายไปในความคิดของ Hagerty Insurance เพราะคุณจะมีเงินเหลืออีกเพียบหากไม่ซื้อซูเปอร์คาร์จากเยอรมันหรืออิตาลี ซึ่ง Chevrolet Corvette Z06 ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจากสนามแข่งอย่างเบรกคาร์บอนเซรามิกรวมถึงสามารถเลือกแพคเกจเพิ่มการบังคับควบคุมให้ใกล้เคียงรุ่น C7.R Race ที่ใช้ในการแข่งขันเลอ ม็องส์ 24 ชม. ได้ด้วย
ดอดจ์ ชาเลนเจอร์ เฮลแคท (Dodge Challenger Hellcat)
ราคา : 58,295 ดอลลาร์สหรัฐ (1.82 ล้านบาท)
Dodge Challenger Hellcat ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปช่วงสงครามเย็นในปี 1960 อีกครั้งและเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้ผลิตรถยนต์ทำสงครามแรงม้า ซึ่งตอนนี้ดอดจ์เองก็ได้สร้างจรวดนิวเคลียร์อย่าง Dodge Challenger Hellcat ขึ้นมาด้วยพละกำลังที่มากถึง 707 แรงม้า และมันก็สมกับที่ติดป้ายชื่อ Hellcat มาก ๆ
ซึ่ง Dodge Challenger Hellcat สามารถเบิร์นน้ำมันเชื้อเพลิงให้กลายเป็นเสียงและกลิ่นไหม้ของยางที่ถูกฟรีทิ้งบนพื้นถนนได้อย่างน่าประทับใจเป็นที่สุด จนทำให้ Hagerty Insurance หลงรักและเชื่อว่าชาวอเมริกันก็จะรักมันไปตลอดกาลด้วยเช่นกัน
ฟอร์ด มัสแตง จีที เพอร์ฟอร์แมนซ์ แพ็กเกจ (Ford Mustang GT Performance Package)
ราคา : 37,125 ดอลลาร์สหรัฐ (1.16 ล้านบาท)
ถึงแม้ว่า Ford Mustang GT รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี เพิ่งจะเปิดตัวในปีนี้ แต่ทางด้าน Hagerty Insurance ก็คิดว่า GT performance package เป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อสำหรับ นักขับอย่างแท้จริง
ซึ่งโปรเจคนี้ Ford ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2005-2014 ราวกับ Ford ตั้งใจให้ Mustang เกิดมาเพื่อเป็นรถคลาสสิกและ Hagerty คิดว่า Ford นั้นทำสำเร็จเสียด้วย
มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 มิอาตะ รุ่นฉลองครบรอบ 25ปี (Mazda MX-5 Miata 25th Anniversary Edition)
ราคา : 33,000 ดอลลาร์สหรัฐ(1.03 ล้านบาท)
Mazda MX-5 Miata เป็นหนึ่งในรถญี่ปุ่นยอดนิยมของเหล่านักสะสม ซึ่งปรากฎการณ์นี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ Mazda Miata โรดสเตอร์เจเนอเรชั่นแรก ออกวางจำหน่ายด้วยรูปทรงโมเดิร์นในปี 1990 และ Mazda MX-5 Miata 25th Anniversary Edition ปี 2014 เป็นรุ่นพิเศษรุ่นสุดท้ายสำหรับตัวถัง NC หรือ MX-5 เจเนอเรชั่นที่ 3
ผลิตจำนวนจำกัดแค่ 100 คัน เท่านั้น ก่อนที่ Mazda MX-5 เจเนอเรชั่นที่ 4 จะเปิดตัว (ซึ่ง Hagerty คิดว่ามันคือ มินิ Jaguar F-Type) จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Hagerty คิดว่า Mazda MX-5 Miata 25th Anniversary Edition มีโอกาสที่จะมีชีวิตที่สองในโลกรถยนต์คลาสสิกต่อไป
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ฮาร์ดท็อป (MINI John Cooper Works Hardtop)
ราคา : 24,950 ดอลลาร์สหรัฐ (7.8 แสนบาท)
Mini John Cooper Works Hardtop เป็น MINI ที่มีพละกำลังมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาอีกทั้งยังมีสมรรถนะการขับขี่ที่น่าประทับใจ แต่สิ่งที่ทำให้นักสะสมอยากได้จนต้องอ้าปากค้างและอาจมีคุณค่าต่อไปในอนาคตคือแนวคิดด้านการออกแบบ นอกจากนี้ MINI รุ่นใหม่ยังมีภายในที่น่าหลงไหลรวมถึงผู้เป็นเจ้าของยังสามารถตกแต่งรถของตนเองได้อย่างไม่สิ้นสุดอีกด้วย
ซูบารุ ดับบลิวอาร์เอ็กซ์ เอสทีไอ (Subaru WRX STI)
ราคา : 38,190 ดอลลาร์สหรัฐ (1.19 ล้านบาท)
ด้วยตัวถังที่แข็งแกร่ง ระบบกันสะเทือนที่สุดยอดและเครื่องยนต์ 4 สูบนอนแบบบ็อกเซอร์ เทอร์โบ ทำให้ Subaru WRX STI เป็นรถแรลลี่แท้ ๆ จากโรงงานที่คนทั่วไปสามารถซื้อหาได้จากโชว์รูมโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มอีกเลย และอัตราเร่งของ Subaru WRX STI นั้นเปรียบเสมือนการปล่อยสารที่สามารถกระตุ้นรอยยิ้มและความเพลิดเพลินให้กับผู้ขับขี่ได้ด้วย
รวมถึงจำนวนการผลิตที่จำกัดนั้นย่อมเพิ่มความกระหายเพื่อให้ได้มาครอบครองของเหล่านักสะสมโดยปราศจากเงาของคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Mitsubishi Evoluton ทำให้ Subaru WRX STI ได้ครองอาณาจักรที่เต็มไปด้วยทางฝุ่นนี้แต่เพียงผู้เดียว
โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ อาร์ (Volkswagen Golf R)
ราคา : 36,595 ดอลลาร์สหรัฐ (1.14 ล้านบาท)
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ "4Motion", 292 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 4.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ด้วยเครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ
ทำให้ Golf R เป็นรถฮอตแฮตช์จาก Volkswagen ที่ทรงพลังมากที่สุดซึ่งพร้อมจะพานักสะสมในปัจจุบันหรือในอนาคตเข้าสู่อาณาเขตอันน่าตื่นเต้นเร้าใจได้ทันทีที่ขับ และนี่แหละคือสิ่งที่สาวกของ Golf GTi เคยได้แต่ฝันถึงให้มันเกิดขึ้นจริงเสียที
ขอแสดงความยินดีด้วยหากรถของใครได้ขึ้นทำเนียบว่าที่รถคลาสสิกในอนาคต แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องรอกันอีกนานหลายปีจนกว่าจะแก่ทั้งคนทั้งรถกันเลยทีเดียว
ภาพจาก Hagerty Insurance