ขับรถบนทางหลวงและทางด่วน อย่างไรถึงปลอดภัย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัยบนทางหลวง-ทางด่วน แนะหลักการขับรถบนทางด่วนและทางหลวงอย่างปลอดภัย
ทางด่วนและทางหลวงเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงกว่าเส้นทางทั่วไป เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงมาแนะหลักการขับรถบนทางด่วนและทางหลวงดังนี้
การเข้าทางร่วมหรือทางหลัก
ผู้ขับขี่ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้า รอให้รถที่ขับในเส้นทางตรงไปก่อน พร้อมมองให้รอบด้านจนช่องทางขวาของผู้ขับขี่ไม่มีรถ ค่อยเปลี่ยนช่องทาง ไม่หยุดรถบริเวณสุดเส้นทางของช่องจราจร ไม่ขับแทรกเข้าไปในเส้นทางที่มีรถวิ่งมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ขับรถริมไหล่ทางคู่ขนานไปกับรถคันอื่น เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อเข้าช่องทางได้แล้ว ให้ขับรถในช่องทางด้านซ้าย รอจนสามารถเร่งความเร็วได้เหมาะสม ค่อยเปลี่ยนไปใช้ช่องทางขวา จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้าย
ต้องมองเส้นทางข้างหน้าในระยะไกล
หากมีรถให้สัญญาณขอเข้าเส้นทาง ควรชะลอความเร็ว ไม่เร่งความเร็วแข่งกับรถที่กำลังเข้าเส้นทาง หากช่องจราจรด้านขวาไม่มี รถ ให้เปลี่ยนช่องจราจร เพื่อให้รถคันอื่นสามารถเข้าช่องทาง ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
ผู้ขับขี่ควรมองกระจกมองหลังและกระจกมองข้างเป็นระยะ เพื่อประเมินสถานการณ์ จะช่วยให้สามารถบังคับพวงมาลัย ควบคุมทิศทางรถและตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
การรักษาระยะห่าง
เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าเส้นทางปกติ 2-3 เท่า หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้สามารถหยุดรถได้ทัน ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
ควรขับรถให้อยู่ในกึ่งกลางช่องจราจร ไม่ขับรถคร่อมช่องทาง หากเป็นเส้นทางที่มีสองช่องจราจร ควรใช้ช่องทางด้านซ้ายเสมอ เพราะช่องทางขวาใช้สำหรับแซงรถ หากเป็นถนนที่มีมากกว่าสองช่องจราจร ควรขับชิดซ้าย พร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ช่องจราจรที่สอง เพราะเป็นช่องทางที่รถบรรทุกใช้แซง
การเปลี่ยนช่องทาง
ไม่เปลี่ยนช่องทางไปมา โดยไม่จำเป็นเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากเปลี่ยนช่องทางควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร พร้อมมองกระจกมองหลังและกระจกมองข้างให้รอบคอบทุกครั้ง รอจนเส้นทางด้านหลังไม่มีรถหรือรถอยู่ในระยะไกล ค่อยเปลี่ยนช่องทาง
การขับแซงรถ
ก่อนขับแซงรถคันอื่น ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้า พร้อมประเมินสถานการณ์จากสภาพการจราจร บนเส้นทาง สมรรถนะรถ ความเร็วของรถคันหลัง และระยะทางที่เหมาะสำหรับแซงรถ ไม่ใช้ช่องทางซ้ายหรือไหล่ทางในการแซงรถ เพราะหากมีรถจอด อาจเกิดอุบัติเหตุได้ เมื่อขับแซงพ้นแล้ว ควรเว้นระยะห่างจากรถที่แซงก่อนให้สัญญาณเบี่ยงเข้าสู่ช่องทางเดิม
ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการหยุดรถให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมระยะทางในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย ก่อนหยุดรถควรมองกระจกหลัง เพื่อประเมินสถานการณ์ ชะลอความเร็ว
เหยียบเบรกเป็นจังหวะและสัมพันธ์กับสถานการณ์ ไม่เหยียบเบรกกะทันหัน
เพราะรถที่ขับตามหลังมาด้วยความเร็วสูง อาจหยุดรถไม่ทัน ทำให้ถูกชนท้ายได้ การขับรถลงทางด่วนหรือออกจากทางหลัก ตรวจสอบสภาพเส้นทางด้วยการมองกระจกมองหลังและกระจกมองข้าง พร้อมให้สัญญาณไฟล่วงหน้า เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงค่อย ๆ เปลี่ยนช่องทางจราจรทีละช่องทางไปทางด้านซ้ายสุด
เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อขับรถออกจากทางด่วนหรือทางหลักแล้ว ควรลดความเร็วให้สัมพันธ์กับสภาพการจราจร เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้ การเรียนรู้หลักการขับรถบนทางด่วนและทางหลวง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งหมดนี้เป็นหลักง่าย ๆ ที่คนขับรถทุกคนปฏิบัติตาม และเมื่อมาจับพวงมาลัยแล้วก็ควรมีสติและสมาธิการขับรถร่วมด้วย รับรองว่าการเดินทางไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหน ๆ ก็จะปลอดภัยแน่นอนครับ