ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Honda
หลังจากทีได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในงาน Tokyo Motor Show 2013 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า (Honda) ก็ได้เผยราคาและสเปคอย่างเป็นทางการของรถครอสโอเวอร์รุ่นเล็กสุดสวยที่หลายคนรอคอยอย่าง ฮอนด้า วีเซล (Honda VEZEL) โดยในครั้งนี้ยังคงเป็นราคาและรุ่นย่อยที่จะจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพอจะเป็นข้อมูลบอกได้ว่าฮอนด้า วีเซลจะอยู่ในตำแหน่งไหนเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ ในตลาดครับ
ฮอนด้า วีเซล เป็นรถครอสโอเวอร์สไตล์คูเป้ ที่ใช้พื้นฐานดัดแปลงมาจากฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) แฮตช์แบ็กยอดฮิต โดยการออกแบบตัวถังนำแรงบันดาลใจมาจาก ฮอนด้า เออร์เบิน เอสยูวี คอนเซ็ปต์ (Honda Urban SUV Concept) ซึ่งพกพารูปทรงที่โค้งมน แต่ลงตัวด้วยเส้นสายบนรถที่เฉียบคม โดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงยาวเชื่อมต่อกับกระจังหน้าตามแบบของฮอนด้าในปัจจุบัน ขนาดมิติตัวถังยาว 4,295 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร และสูง 1,605 มิลลิเมตร ฐานล้อกว้าง 2,530 มิลลิเมตร โดยตัวรถจัดอยู่ในกลุ่ม C-Crossover ถึงแม้จะใช้พื้นฐานจากรถ B-Segment ก็ตาม
ด้านระบบขับเคลื่อนของรถแบ่งออกเป็น 2 ระบบได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี i-VTEC ให้กำลังสูงถึง 132 แรงม้า แรงบิด 155 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ CVT ทำอัตราประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตรตามมาตรฐาน JC08 ส่วนอีกระบบหนึ่งคือ รุ่นไฮบริดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี i-VTEC กำลัง 120 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 30 แรงม้า ซึ่งสามารถให้กำลังรวมกันได้ถึง 152 แรงม้า และมีอัตราซดน้ำมันแบบเบา ๆ เพียง 27 กม./ลิตร เท่านั้นตามมาตรฐาน JC08 เช่นกัน โดยรุ่นไฮบริดจะจับคู่กับเกียร์ DCT 7 สปีดรุ่นใหม่เท่านั้น
ตัวรถมาพร้อมสีตัวถังสวยงามถึง 8 สี ได้แก่ สีฟ้า Morpho Blue Pearl, สีขาว White Orchid Pearl, สีเงิน Alabaster Silver Metallic, สีดำ Crystal Black Pearl และสีแดง Premium Deep Rosso Pearl ส่วนอีก 3 สี เป็นสีพิเศษสำหรับรุ่นไฮบริดเท่านั้น ได้แก่ สีเขียว Misty Green Pearl, สีดำ Ruse Black Metallic, และสีเงิน Tinted Silver Metallic ส่วนภายในมีวัสดุหลากหกลายให้เลือก ทั้งเบาะผ้าสีดำ, เบาะหนังสีดำ, เบาะผ้าสีทูโทนดำ, เบาะหนังสีทูโทนดำ และเบาะหนังสีทูโทนน้ำตาล ให้เลือกติดตั้ง
ส่วนราคาและรุ่นย่อยต่าง ๆ ของฮอนด้า วีเซลจะมีอะไรบ้างนั้น ก็ติดตามจากตารางด้านล่างได้เลยครับ
ส่วนกำหนดการจำหน่ายในต่างประเทศนั้น จะเริ่มต้นภายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2014 ที่ประเทศสหรัฐฯ แล้วจึงเริ่มจำหน่ายที่ยุโรปช่วงต้นปี 2015 ซึ่งในรุ่นจำหน่ายต่างประเทศ เบื้องต้นจะยังเป็นรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา ไม่มีวี่แววของรุ่นไฮบริดพร้อมเกียร์ DCT แต่อย่างใด โดยในยุโรปจะออกมาเพื่อแข่งกับ นิสสัน จู๊ค (Nissan Juke) และเปอโยต์ 2008 ส่วนกำหนดการในประเทศไทย คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี 2014 และไม่เกินต้นปี 2015 ครับ