ยางรถยนต์ มีวิธีดูแลรักษาอย่างไรเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น ไม่สึกหรอ หรือเสื่อมสภาพก่อนกำหนด มีขั้นตอนอะไรบ้าง มาดูกัน
ยางรถยนต์ ส่วนประกอบที่สำคัญของรถยนต์ หรือยานพาหนะอื่น ๆ ที่จะทำหน้าที่รองรับการกระแทก ช่วยให้รถขับเคลื่อนได้อย่างนุ่มนวล รวมถึงยึดเกาะทุกสภาพพื้นผิว ซึ่งยางรถยนต์จัดเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่มีอายุการใช้งานจำกัด และต้องมีการเปลี่ยนใหม่ ส่วนระยะเวลาจะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน วิธีการดูแลรักษายางรถยนต์เช่นกัน
โดยทั่วไปหากยึดตามบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์แล้ว ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณอยู่ที่ 3-5 ปี หรือ 30,000-50,000 กิโลเมตร จึงจะเปลี่ยนเส้นใหม่ แต่สำหรับรถของบางท่านยังไม่ถึงเกณฑ์ค่าเฉลี่ยก็ต้องเปลี่ยนยางแล้ว สาเหตุหนึ่งมักเกิดจากยางรถยนต์ขาดการดูแลรักษาหรือลักษณะของการขับขี่ที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธียืดอายุยางรถยนต์ให้ใช้งานได้นานขึ้น ไม่สึกหรอ หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด มาแนะนำกัน
ตรวจเช็กลมยาง และเติมลมยางให้อยู่ในอัตราเหมาะสม
สำหรับวิธียืดอายุยางรถยนต์ลำดับแรกและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเช็กลมยางว่าไม่อ่อนหรือแข็งจนเกินไปเพราะยางรถยนต์ที่มีลมอ่อนหรือแข็งเกินไปจะส่งผลต่อการสึกหรอของดอกยางไม่เท่ากัน ทำให้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
เราควรเติมลมยางให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม รถแต่ละชนิดจะมีระดับลมยางที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีระบุอยู่ในคู่มือรถ หรือบริเวณข้างประตู ส่วนใหญ่จะประมาณ 32-34 ปอนด์ (ขึ้นอยู่กับการใช้ความเร็วและบรรทุกสัมภาระ) โดยจะเป็นลมยางที่เหมาะสมกับยางรถยนต์ที่ติดมากับรถทุกรุ่น แต่ถ้าหากมีการเปลี่ยนขนาดยางใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ควรสอบถามลมยางที่เหมาะสมจากร้านหรือผู้ให้บริการเปลี่ยนยางอีกครั้งหนึ่ง
สลับยางรถยนต์
ยางรถยนต์ที่มักจะมีการสึกหรอเร็วที่สุดคือ ยางคู่หน้า เพราะเป็นจุดที่ต้องรองรับน้ำหนักของเครื่องยนต์ แรงกระชากในการออกตัว และเป็นจุดหมุนเมื่อต้องเลี้ยวรถ เพื่อให้ยางรถยนต์ทุกเส้นมีการสึกที่เท่ากัน เราควรทำการสลับยางรถยนต์ทุก 10,000 กิโลเมตร และทุกครั้งที่มีการสลับยางควรตรวจสอบปริมาณลมยางให้เหมาะสมด้วย
หลังจากที่มีการสลับยางรถยนต์แล้วอาจเกิดการกระจายน้ำหนักไม่ถูกต้องของยางรถยนต์ จะทำให้เกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นขณะที่รถวิ่ง ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานของยางรถยนต์ ระบบช่วงล่างของรถ ตลอดจนความสะดวกสบายในการขับขี่ จึงจำเป็นที่จะต้องถ่วงล้อเพื่อความสมดุลของตัวรถขณะขับขี่
ปรับตั้งศูนย์ล้อ
รถที่มีปัญหาศูนย์ล้อที่ไม่ตรง เช็กง่าย ๆ คือ เมื่อรถวิ่งทางตรงลองปล่อยพวงมาลัยดู ถ้ารถเกิดวิ่งเบี่ยงไปทางซ้ายหรือขวาแสดงว่าศูนย์ล้อไม่ตรง และเมื่อศูนย์ล้อไม่ตรง ยางรถยนต์ก็จะเกิดการสึกหรอผิดรูปและไม่เท่ากัน
ใช้งานยางรถยนต์ให้ถูกประเภท
การเลือกยางรถยนต์ควรคำนึงถึงจุดประสงค์ในการใช้งาน ปัจจุบันประเภทของยางรถยนต์มักจะแบ่งออกตามลักษณะของการขับขี่ เช่น ยางแบบสปอร์ต สำหรับผู้ที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ยางคอมฟอร์ต สำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวล หรือยางอีโค สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัด เราควรเลือกให้เหมาะสม เพราะถ้าหากเลือกยางผิดประเภทนอกจากจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ต้องเสียเงินเปลี่ยนยางใหม่โดยใช่เหตุอีกด้วย
ลักณะการขับรถที่ไม่ควรทำ
นิสัยการขับรถของแต่ละท่านจะมีผลต่อการสึกของยางก่อนกำหนด ฉะนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุควรเลี่ยงนิสัยการขับขี่ต่อไปนี้ คือ ออกรถและหยุดรถอย่างรุนแรง, การหักเลี้ยวอย่างรุนแรง, การขับรถปีนขอบถนน, ขับเบียดข้างทาง, การขับโดยไม่หลบหลุม ก้อนหิน หรือสิ่งกีดขวาง
ทั้งนี้ วิธียืดอายุการใช้งานยางรถยนต์ดังกล่าวเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ และเป็นการถนอมยาง ช่วยให้ยางไม่สึกหรอหรือเสื่อมสภาพเร็วได้ในระดับหนึ่ง แต่ก่อนการขับขี่ทุกครั้งควรตรวจสอบยางว่าดอกสึกหรือไม่ มีรอยแตกหรือเปล่า หากพบก็ไม่ควรฝืนใช้งานต่อ ให้รีบเปลี่ยนเส้นใหม่ในทันทีเพราะอาจเกิดระเบิดได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : lesschwab.com, ikehonda.com