ยางรถยนต์ มีกี่ประเภท ยางประหยัดน้ำมัน หรือยางสปอร์ต แตกต่างกันอย่างไร
ยางรถยนต์ คือ ชิ้นส่วนของรถยนต์ที่จะต้องสัมผัสกับผิวถนนตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน หรือสไตล์การขับขี่ของเราเองด้วย เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด

เชื่อว่าผู้ขับขี่รถยนต์หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินการแบ่งยางรถยนต์ออกเป็นแบบต่าง ๆ เช่น ยางประหยัดน้ำมัน ยางนุ่มเงียบ หรือยางสปอร์ตที่เน้นเรื่องความเร็ว เวลาไปสอบถามตามร้านจำหน่ายใกล้บ้าน หรือเมื่อลองหาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ
แต่ความจริงแล้วการแบ่งประเภทของยางรถยนต์นั้น ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่ามีกี่ประเภท ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ใช้เป็นตัวแบ่งประเภทของยางมากกว่า อย่างเช่น แบ่งตามความแข็งแกร่งทนทาน, แบ่งตามลักษณะของดอกยาง, แบ่งตามประเภทของรถยนต์ หรือแบ่งตามสไตล์การขับขี่ เป็นต้น
โดยในที่นี้จะกล่าวถึงการแบ่งประเภทของยางรถยนต์ตามลักษณะการขับขี่เป็นหลัก เนื่องจากเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและผู้ขับขี่น่าจะทราบความต้องการของตนเองมากที่สุดว่าคาดหวังอะไรจากการขับขี่ ยางรถยนต์จะมีส่วนช่วยอย่างไรให้การขับขี่มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น มาดูกันว่าสไตล์การขับจะแบ่งประเภทของยางได้เป็นกี่แบบ

ประเภทของยางรถยนต์แบ่งตามสไตล์การขับขี่
-
ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง
-
ยางออฟโรด
-
ยาง RunFlat
1. ยางนุ่มเงียบ
เป็นยางรถยนต์แบบที่ใช้กันมากที่สุด มาตรฐานอยู่ในระดับกลาง ๆ ไปจนถึงดี ผิวสัมผัสหน้ายางที่มีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี มีการเสริมเนื้อยางพิเศษบริเวณแก้มยางช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือนทำให้รู้สึกถึงความนุ่มสบาย มีความเกาะถนนให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ เน้นขับกับสภาพถนนในเมืองมากกว่า
รถยนต์ที่เหมาะกับยางประเภทนุ่มเงียบ ได้แก่ Jaguar XJ, Lexus ES, Benz E Class และ A Class, BMW Series 3 และ Series 5, Audi A3 และ A4, Toyota Camry, Toyota Altis, Honda Accord, Honda City เป็นต้น
ยางนุ่มเงียบยี่ห้อต่าง ๆ
ยี่ห้อ |
รุ่นยาง |
Bridgestone |
Potenza RE003, Turanza T005A, Ecopia EP150, Ecopia EP300 |
Continential |
ComfortContact CC6, UltraContact UC6 |
Deestone |
Premium Tourer RA01, Carreras R702 |
Dunlop |
Direzza DZ102, Enasave EC300, SP Sport LM704-MAXX 050+ |
Goodyear |
Assurance Duraplus, Assurance Triplemax 2, Eagle NCT 5, Eagle F1 Directional 5 |
Maxxis |
I-Pro, ME3 |
Michelin |
Pilot Sport 3, Pilot Sport4, Primacy 4 |
Toyo Tires |
Proxes CF2-C1S |
Yokohama |
Advan Neova AD08R-Fleva V701-DB V552, BlueEarth-A AE50 |
2. ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง
เป็นยางที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นจากยางประเภทนุ่มเงียบเพื่อตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ต พร้อมกับเสริมจุดเด่นเรื่องความสวยงามของดอกยางที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละยี่ห้อ คุณสมบัติของยางประเภทนี้คือ การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม การควบคุมและการตอบสนองกับพวงมาลัยที่แม่นยำ เหมาะสำหรับการขับด้วยความเร็วและพื้นถนนที่เรียบ จึงอาจจะทำให้รับแรงกระแทกได้ไม่มากเท่าไหร่เมื่อขับบนสภาพถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ
รถยนต์ที่ใช้ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง อย่างเช่น Subaru WRX, Mitsubishi Lancer Evo, Honda Civic Type R, Mazda 3, Toyota Yaris, Honda Jazz, Benz AMG, Aston Martin DB9, Ferrari F430, BMW M2 Coupe, M3 Sedan และ M4 Coupe เป็นต้น
ยางสปอร์ตสมรรถนะสูงยี่ห้อต่าง ๆ
ยี่ห้อ | รุ่นยาง |
Pirelli | P Zero Corsa System |
Continential | ContiSportContact |
Dunlop | Sport Maxx RT |
Goodyear | Eagle F1 |
Bridgestone | Potenza S001, Soo7A, Adrenalin RE003 |
Yokohama | Advan Sport V105 |

3. ยางประหยัดน้ำมัน
มาตรฐานใหม่ของการใช้รถที่เน้นในเรื่องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยางประหยัดน้ำมันจึงเข้ามาเป็นอีกส่วนสำคัญของรถยนต์ Eco Car เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า และยังปลอดภัยมากขึ้นด้วยประสิทธิภาพของยางที่ยึดเกาะถนนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น
รถยนต์ที่ใช้ยางประหยัดน้ำมัน ได้แก่ Toyota และ Honda รุ่นต่าง ๆ, Nissan March และสำหรับรถประเภท SUV, MPV และ PPV ก็ใช้ยางประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Toyota C-HR, Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport, ISUZU MU X, Honda CR-V, Mazda CX-5, MG GS หรือแม้แต่รถกระบะอย่าง Toyota Revo, Isuzu D-Max ก็ใช้ยางประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน
ยางประหยัดน้ำมันยี่ห้อต่าง ๆ
ยี่ห้อ | รุ่นยาง |
Bridgestone | Ecopia EP300 |
Dunlop | Enasave EC300, Enasave EC300+, SP Touring T1, SP Touring R1 |
Otani | EK1000 |
Goodyear | Assurance Triple Max |
Firestone | TZ700 |
Apollo | Amazer 3G Maxx |
Pirelli | Scorpion Verde |
4. ยางออฟโรด
เป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับสไตล์การขับขี่แบบสมบุกสมบันบุกป่าฝ่าดงโดยเฉพาะ ประเภทรถยนต์ที่ใช้ยางออฟโรดมีตั้งแต่รถกระบะทั่วไปจนถึง SUV และ CUV เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ ยางประเภทนี้จะเป็นยางที่แข็งแกร่ง ขับได้ทุกพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นดินโคลน พื้นทราย ลุยน้ำ ฝนตก แดดออก ทางลาดชัน พื้นผิวขรุขระ มีแรงเกาะถนนเป็นเยี่ยมตอบสนองกับพวงมาลัยได้ดี
รถยนต์ที่ใช้ยางออฟโรด ได้แก่ รถกระบะต่าง ๆ เช่น Mitsubishi Triton, Chevrolet Colorado, Nissan Navara, Mazda BT-50 และรถยนต์ที่เน้นการใช้งานแบบสมบุกสมบัน อย่างเช่น Ford Ranger, Jeep Cherokee, Isuzu Rodeo เป็นต้น
ยางออฟโรดยี่ห้อต่าง ๆ
ยี่ห้อ | รุ่นยาง |
Hankook | Dynapro AT-M (RF10) |
Toyo Tires | Open Country AT II |
Yokohama | Geolander AT-S G012, Geolander AT G015 |
Michelin | LTX Force |
Dunlop | Grandtrek AT3, Grandtrek AT22 |
Maxxis | AT980, AT700 |
Bridgestone | Dueler AT 697 |
5. ยาง RunFlat
เทคโนโลยีล่าสุดของวงการยางรถยนต์ที่ช่วยในเรื่องของการคงสภาพของยางให้รถวิ่งต่อได้เมื่อประสบอุบัติเหตุ ที่ทำให้เกิดการรั่วซึมของยาง โดยในสภาวะปกตินั้นประสิทธิภาพการขับถือว่าดีเยี่ยมทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง และสมรรถนะที่จัดว่าอยู่ในระดับ Top ของยางทุกประเภทถ้าไม่นับออฟโรด แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงมาก
สำหรับยาง RunFlat ยังไม่มีรถยี่ห้อใดใช้มากนักนอกจาก BMW อย่างเช่นในรุ่น 520d, 523i, 525i, 318 และ 320 เป็นต้น
ยาง RunFlat ยี่ห้อต่าง ๆ
ยี่ห้อ | รุ่นยาง |
Pirelli | P Zero Runflat, Cinturato P7 Runflat |
Michelin | Primacy 3ZP Runflat |
Bridgestone | Potenza S001 RFT |
Continential | ContiSportContact 5 Run-flat, ContiSportContact 3 Run-flat, UltraContact UC6 SUV Run-flat |
GITI | GitiControl 288 RunFlat |
Goodyear | Eagle F1 Asymmetric 2 ROF |
Bridgestone | Dueler AT 697 |
Yokohama | Advan Sport V103S |
จะเห็นว่ายางรถยนต์ที่อยู่ในตลาดมากที่สุดคือยางประเภทนุ่มเงียบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยางนุ่มเงียบถือเป็นยางโรงงานที่ติดมากับรถยนต์ป้ายแดงอยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งคือความต้องการของผู้ขับขี่เองเมื่อต้องการเปลี่ยนยาง เพราะเป็นยางที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด การคำนึงถึงสไตล์การขับขี่รถยนต์ของเราเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันในการเลือกยางที่เหมาะสมกับรถยนต์ของเรา
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก bridgestone.co.th, yokohamathailand.com, michelin.co.th