กรมการขนส่งทางบก เปิด ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เตรียมรถให้พร้อมก่อนเดินทางไกลช่วงปีใหม่ พร้อมให้บริการตรวจเช็กฟรี 20 รายการ ที่ศูนย์บริการภาครัฐและเอกชน วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2565
กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรม "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย" โดยเป็นการให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ฟรี 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง ลมยาง แบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัตช์ ความตึงของสายพาน ไฟสัญญาณต่าง ๆ เป็นต้น โดยสามารถนำรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เข้าตรวจสภาพได้ ณ ศูนย์บริการที่เข้าร่วมทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย" ตลอดเดือนธันวาคม 2565
สำหรับศูนย์บริการภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมในครั้งนี้ มีทั้งผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ สถานตรวจสภาพรถเอกชน บริษัทประกันภัย และสถานีบริการน้ำมัน ได้แก่
-
สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย
-
สมาคมการค้าไทย-ยุโรป (TEBA)
-
สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย
-
สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
-
สถาบันยานยนต์
-
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
-
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
-
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
-
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด
-
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ - ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
-
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
-
บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
-
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
-
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
-
บริษัท บี-ควิก จำกัด
-
บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ศูนย์บริการ AUTO QUIKS)
-
บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด
-
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
**สามารถสอบถามรายละเอียดและสาขาให้บริการกับหน่วยงานได้โดยตรง ส่วนใครที่ไม่สะดวกหรือไม่มีเวลานำรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เข้าไปตรวจสภาพ สามารถเช็กรถก่อนเดินทางไกลด้วยตัวเองง่าย ๆ ก่อนเดินทางช่วงปีใหม่ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมสมบูรณ์แล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขับรถทางไกลเช่นกัน โดยควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หากมีอาการเหนื่อยล้าระหว่างการเดินทางควรหยุดพักรถในจุดที่ปลอดภัย วางแผนและศึกษาเส้นทางล่วงหน้า ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง เพิ่มความระมัดระวังในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย และงดการใช้โทรศัพท์มือถือทั้งแชตหรือโทร. เพื่อความปลอดภัยกันด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก, (2)