กว่า Toyota จะรู้ว่าถ่านก้อนไหนคือเพชรก็สูญเสียไปมาก เพราะ Toyota มองไม่ออกว่าอะไรคือรถ Crossover SUV เหมือนกับที่ Honda มองเห็น หลักฐานที่ชัดเจนคือ Toyota RAV4 (ยุค 90) เกมที่ Toyota เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยความไม่เข้าใจว่าเทรนด์ของรถประเภทนี้ไม่ได้ต้องการ 4WD แท้ ๆ ที่ใช้แรงงานลง Terrain และยังเดินหน้าบลัฟแหลกว่าระบบขับเคลื่อน 4WD ของ Toyota RAV4 เหนือกว่า Honda CR-V ที่เป็นแบบ 4WD on demand หรือ Real-time (ยุคนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่) ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมา Toyota คงซาบซึ้งแล้วว่าลูกค้ารถ Crossover SUV ต้องการอะไร เพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่
Toyota C-HR Hy-Power Concept เปรียบเสมือนแฟนซีไดมอนด์จาก Toyota ที่โชว์ความงามของ "เพชร" อีกระดับด้วยการตกแต่งพิเศษภายใต้คอนเซ็ปต์เดิมแต่ลึกซึ้งกว่าโดยได้แรงบันดาลใจของกระบวนการทางธรรมชาติที่เปลี่ยนคาร์บอนให้เป็นเพชร อย่างการใช้สีตัวถังดาร์ก คาร์บอน ซิลเวอร์ (Dark Carbon silver) ที่เป็นเนื้อด้านมีประกายแต่ไม่มันเงา ตัดกับสีดำเงา (Gloss Black) ในส่วนของคิ้วรอบคัน
ขณะที่หลังคาเพิ่มความโดดเด่นด้วยการติดฟิล์มลายกราฟิก Diamond-cut สีส้มไล่เฉดจนเป็นสีดำเงา (Gloss Black) เหมือนลาวาที่ค่อย ๆ เย็นลงจนกลายสภาพจากของเหลวเป็นของแข็งในที่สุด พร้อมกับล้ออัลลอยลาย 5 ก้าน ดีไซน์เฉียบคม ขนาด 20 นิ้ว ทั้งนี้ Toyota ยุโรป ไม่ต้องการดัดแปลงตัวถังเดิมของ Toyota C-HR เพราะต้องการโชว์ความสมบูรณ์แบบของพื้นผิวที่มีมากอยู่แล้ว
ส่วนแนวคิดการออกแบบภายในของ Toyota C-HR Hy-Power Concept ยังคงใกล้เคียงกับภายนอก คือคงไว้ซึ่งดีไซน์หลักของ Toyota C-HR 2017 แต่เล่นกับการตกแต่งในรายละเอียดด้วยการใช้สีดำและสีส้ม เบิร์นนิ่ง ออเรนจ์ (Burning Orange) โดยเบาะนั่งก็หุ้มด้วยหนังทั้งสองสีตัดกันและเย็บตะเข็บลายตารางเหมือนกับสานปลาตะเพียน ซึ่งทำให้อารมณ์ที่แตกต่างจาก Toyota C-HR เวอร์ชั่นที่จำหน่ายจริงพอสมควร คล้ายกับ Toyota จงใจบอกว่า Toyota C-HR 2017 ใหม่ ได้ทุกแนว ไม่ว่าจะน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้แบบไฮแฟชั่น หรือจัดจ้านแค่ไหนก็ดูดีเพราะนี่คือไลฟ์สไตล์ครอสโอเวอร์ของคนเมืองที่ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ
แต่ไม่ว่าจะเฟี้ยวฟ้าวอย่างไรประเด็นที่ทุกคนสงสัยคือทำไมต้องชื่อ Hy-Power และ Toyota ต้องการบอกอะไรในเมื่อในยุโรปมี Toyota C-HR เวอร์ชั่น Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 122 แรงม้า จำหน่ายอยู่แล้ว (ในอเมริกาไม่มีเวอร์ชั่นไฮบริด แต่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 144 แรงม้า แบบเดียวเท่านั้น)
โดยเรื่องนี้ Toyota ยังกั๊กข้อมูลไว้และแค่บอกว่า Toyota C-HR Hy-Power Concept ถูกออกแบบมาให้พร้อมรองรับขุมพลังไฮบริดที่มีพละกำลังสูงกว่า 122 แรงม้า ซึ่งพร้อมจะเฉลยในช่วงต้นปี 2018 เท่านั้น
เราได้แต่คิดว่า Toyota C-HR Hybrid อาจมีกำลังน้อยเกินไปไม่สะใจลูกค้าในยุโรปเหมือนหน้าตาหรือเปล่า และเวอร์ชั่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบ ก็ให้กำลังแค่ 115 แรงม้า ผิดกับตลาดอเมริกาที่ถึงแม้จะมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบเดียวแต่ก็แรงกว่าเห็น ๆ โดยนี่เป็นการยืนยันว่าอนาคตอันใกล้ Toyota C-HR จะมีขุมพลังไฮบริดใหม่ให้กำลังมากกว่าเดิมแน่ ๆ ส่วนไทยรอต่อไปอีกนิดคาร์บอนเกือบจะตกผลึกเป็นเพชรแล้ว