อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องเหนือการคาดการณ์เสมอ และทุกครั้งที่เราขึ้นบนรถก็จะเจอความเสี่ยงเสมอ ไม่ว่าจากรถของเราเอง หรือบุคคลอื่นที่ร่วมใช้เส้นทางบนท้องถนน นั่นทำให้ระบบพาสซีฟ เซฟตี้ (Passive Safety) เป็นเรื่องจำเป็น และผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสำคัญในอันดับต้น ๆ
หุ่นดัมมี่ THUMS การพัฒนาไม่หยุดยั้ง เพื่อระบบเซฟตี้พาสซีฟของโตโยต้า
การกำเนิดหุ่น THUMS นั้นเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1997 โดยทีม Toyota Central R&D Labs, Inc. ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อทดสอบชน เพื่อการพัฒนาในส่วนเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เซฟตี้ทั้งหมด อาทิ เข็มขัดนิรภัย ชุดถุงลมนิรภัย รวมไประบบโครงสร้างนิรภัยของรถ
หุ่นดัมมี่ THUMS นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับเวลาเกือบ 20 ปี ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 100 ล้านเยน (เฉพาะค่าวิจัย) ปัจจุบันมีหุ่น THUMS พัฒนามาแล้ว 5 เจเนอเรชั่นดังนี้
ค.ศ. 2000 เจเนอเรชั่น 1 (เริ่มต้นการพัฒนาปี 97)
ค.ศ. 2003 เจเนอเรชั่น 2 พัฒนาให้เก็บข้อมูลรายละเอียดของกะโหลกและกระดูกร่างกาย
ค.ศ. 2008 เจเนอเรชั่น 3 พัฒนาให้เก็บข้อมูลรายละเอียดของสมอง
ค.ศ. 2010 เจเนอเรชั่น 4 พัฒนาให้เก็บข้อมูลรายละเอียดอวัยวะภายใน
ค.ศ. 2015 เจเนอเรชั่น 5 พัฒนาให้เก็บข้อมูลรายละเอียดกับกล้ามเนื้อ
วัสดุที่ใช้ทำหุ่น THUMS นั้นเป็นซิลิโคนประเภทหนึ่ง เมื่อก่อนนำไปทดสอบต้องเอาหุ่นไปพักห้องปรับอุณหภูมิประมาณ 45 นาที เพื่อให้หุ่นมีความใกล้เคียงมนุษย์ที่สุดแม้กระทั่งอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ โดยหลักการจะติดเซ็นเซอร์ไว้ตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ เพื่อเก็บค่าแรงกระแทกหลังจากทดสอบชน และนำค่าตัวเลขไปเทียบข้อมูลทางการแพทย์ว่าแรงที่ได้รับจะทำให้เกิดอันตรายประมาณไหนแก่อวัยวะ
หุ่น THUMS จะมีทั้งหมด 6 ขนาดที่สามารถเทียบได้กับมนุษย์ 6 ประเภท ได้แก่ หุ่นส่วนสูง 94 ซม. แทนเด็กอายุไม่เกิน 3 ขวบ, หุ่นส่วนสูง 118 ซม. แทนเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ, หุ่นส่วนสูง 138 ซม. แทนเด็กอายุไม่เกิด 10 ขวบ, หุ่นความสูง 153 ซม. แทนผู้หญิงขนาดเล็ก, หุ่นส่วนสูง 179 ซม. แทนผู้ชายขนาดปรกติ และหุ่น 189 ซม. แทนผู้ชายขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีหุ่นพิเศษอีก 4 รุ่นที่จำลอง คนตั้งครรภ์, คนอ้วน (ค่าดัชนีมวลกาย 35), ผู้หญิงตัวใหญ่ และหุ่นเด็กนักวิ่งอายุเฉลี่ย 6 ขวบ
และนี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ จากระบบเซฟตี้ของรถยนต์โตโยต้า เพื่อให้ทุกชีวิตที่นั่งอยู่บนรถโตโยต้านั้นปลอดภัยมากที่สุด