ซื้อรถป้ายแดง แต่ไม่ได้รถใหม่ อุทาหรณ์ หากพบปัญหาข้อบกพร่อง อย่าเพิ่งรับรถ!!

รถใหม่ป้ายเเดง

ซื้อรถป้ายแดง แต่ไม่ได้รถใหม่ อุทาหรณ์ หากพบปัญหาข้อบกพร่อง อย่าเพิ่งรับรถ!! (หนังสือยานยนต์ )


          ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ว่าสมัยนี้ยังมีการขายรถย้อมแมวกันอีก ถ้าเป็นรถมือสองก็จะรู้สึกเฉย ๆ เพราะเป็นเรื่องธรรมดา แต่นี่เป็นรถป้ายแดงออกห้างแท้ ๆ ยังไม่ได้รถใหม่มาใช้ แบบนี้มันก็เกินไปหน่อยแล้ว แม้เรื่องนี้น่าจะเป็นฝีมือของเซลส์แต่ทางบริษัทก็ควรจะดูแลสอดส่องด้วย เพราะว่าอีตอนเสียชื่อนั้นเค้าไม่ได้ด่าเฉพาะเซลส์ แต่จะว่าถึงบริษัทเลยเชียว ดังนั้นเป็นหน้าที่ของทางบริษัทต้นสังกัดว่าจะดูแลรักษาชื่อเสียงหรือเปล่า

          อย่างเรื่องนี้จะเป็นตัวอย่างของคนที่ควักกระเป๋าซื้อรถป้ายแดง แต่ไม่ได้รถใหม่มาใช้ตามที่ต้องการ ทั้งสองเรื่องเป็นรถที่มาจากบริษัทยี่ห้อเดียวกัน และยังทราบว่ามีคนโดนอีกหลายรุ่นแสดงว่าเซลส์บริษัทนี้เยี่ยมมาก แต่ทางบริษัทไม่ได้เรื่องเพราะถูกเซลส์หลอกเป็นประจำ จะว่าบริษัทรถสมรู้ร่วมคิดกับเซลส์ก็คงไม่ใช่ อย่างมากก็เป็นแค่พวกบริหารรู้เห็นเป็นใจเท่านั้นเอง


          จากตัวอย่างนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงข้อสังเกตว่าเป็นรถใหม่หรือไม่นั้นเป็นอย่างไร และมีอะไรเป็นข้อพิจารณากันบ้าง เผื่อใครจะออกรถใหม่ก็ควรจะสังเกตเอาไว้มั่งก็ดีเหมือนกัน ของแบบนี้โดนได้ทั้งรถผลิตในประเทศและรถนำเข้าจากต่างประเทศ

โดนย้อมเเมว

          ระวัง...ใหม่ย้อมแมว

          เรื่องแรกนี้เป็นรถซื้อจากในกทม.นี่เอง ไม่น่าเชื่อว่าเซลส์จะกล้าปานนี้ งานนี้คงมีผลประโยชน์สูงเลยทีเดียวถึงกล้าทำแบบนี้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และไม่อยากบอกว่าทางบริษัท (น่าจะ) รู้เห็นเป็นใจด้วย

          รถคันที่กำลังมีเรื่องร้องเรียนเป็นรถที่ผู้ซื้อไปรับรถที่โชว์รูมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตอนรับรถก็สงสัยตงิด ๆ เหมือนกันเพราะมีจุดบกพร่องและผิดสังเกตอยู่หลายประการ ตั้งแต่ไม่มีพลาสติกหุ้มเบาะหรือพลาสติกที่ใช้ชีลพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ปกติในรถใหม่เอี่ยมจะต้องมี คันนี้กลับไม่มีมาเลย และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นรถใหม่ นอกจากนี้ยังใจดีติดคิ้วบันไดสเตนเลสมาให้ 1 ชุดมี 4 ชิ้น ราคาขายก็หลายบาทอยู่ ทางพนักงานขายกลับบอกหน้าตาเฉยว่าแถมให้เพราะ “มองรถแล้วเห็นว่าโล่ง ๆ ก็เลยใส่มาให้ฟรี ๆ”

          นอกจากนี้ยังมีน้ำมันให้มาอีกเกินครึ่งถัง ซึ่งไม่มีในโลกนี้และโลกหน้าที่โชว์รูมจะเติมน้ำมันมาให้เยอะขนาดนี้ แล้วยังพบจุดน่าสงสัย (ที่ตอนนั้นยังไม่สงสัย) เช่น เจอแว่นกันแดดอยู่ในช่องเก็บแว่น และยังพบจุดบกพร่องของตัวรถอีกมากมาย เช่น กันชนหน้าไม่สนิท, ยางขอบประตูหลังเป็นรอยครูด, พลาสติกยางแร็คหลังคาหลุด, ผ้าบุคอนโซลประตูหน้าซ้ายหลุด แต่ทางฝ่ายขายบอกว่าให้นำรถออกไปก่อนตามฤกษ์ แล้วค่อยนำมาเก็บส่วนบกพร่องเหล่านี้ทีหลัง

          แต่พอเริ่มใช้งานในวันรุ่งขึ้น ระบบสัญญาณกันขโมย, ระบบไฟฟ้ามีปัญหา รถไม่สามารถสตาร์ทได้ เจ้าของรถโทร.แจ้ง Call Center ซึ่งได้รับคำแนะนำว่าให้รถยกไปที่ศูนย์ เพื่อ Reset Code ใหม่ ทั้ง ๆ ที่แถวนั้นก็มีศูนย์ของบริษัทรถแบรนด์นี้อยู่ใกล้ ๆ แต่ทางฝ่ายขายบอกให้มาเข้าศูนย์ที่ออกรถเพราะ “ไปศูนย์อื่นอาจจะให้บริการไม่ดี” และแนะนำให้ลองสตาร์ทด้วยกุญแจสำรอง เป็นธุระเดือดร้อนย้อนกลับบ้านไปเอากุญแจสำรองมาใช้ปรากฏว่าสัญญาณกันขโมยดังลั่นแต่ก็สามารถสตาร์ทได้เลยโทร.แจ้ง Call Center ว่าไม่ต้องมาแล้ว

          เหตุการณ์ระทึกต่อมาคือ กำลังขับอยู่ดี ๆ รถเกิดมีสัญญาณเตือนดัง ปี๊บ ถี่ ๆ แล้วหน้าจอมีตัวหนังสือขึ้นว่า “Energy...???” อะไรสักอย่างแล้วเครื่องก็ดับไป เจ้าของรถต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายบังคับรถที่เครื่องดับและพวงมาลัยหนักจากเลนขวาไปเข้าจอดริมทางด้านซ้ายให้ได้ ท่ามกลางรถใหญ่น้อยที่ใช้ความเร็วสูง ๆ เพราะเป็นมอเตอร์เวย์ คงไม่ต้องบอกว่านาทีนั้นจะระทึกขนาดไหน

          จากการคาดเดาเบื้องต้นคิดว่าน้ำมันหมดแต่เกจ์น้ำมันยังโชว์ว่าเหลืออยู่ครึ่งถัง โทร.แจ้งเซลส์ว่ารถมีปัญหา (อีกแล้ว) เซลส์บอกให้โทร.ไป Call Center เลยระหว่างรอก็จัดการหาน้ำมันมาเติม 1 แกลลอนคิดว่าพอแต่ปรากฏว่ายังสตาร์ทไม่ติดอยู่ดี แสดงว่าเกจ์ไม่ผิดแต่เครื่องยนต์นั่นแหละผิดเจ้าของรถโทร.แจ้งเซลส์อีกที เซลส์บอกว่าให้เอารถลากมาไว้ที่ศูนย์เพื่อจะทำการตรวจเช็คให้หมดทุกอย่าง จากนั้นโทร.ไปหา Call Center เค้าบอกว่าเดี๋ยวโทร.กลับมา สักพักมีคนโทร.กลับมาแจ้งว่ารถยนต์ของคุณรุ่น xxx หมายเลขเครื่อง xxx แล้วก็เรียกชื่อใครสักคนหนึ่งเป็นชื่อผู้หญิง เมื่อถามกลับทาง Call Center ก็ยังยืนยันชื่อเดิมซึ่งไม่ใช่ทั้งชื่อเจ้าของรถและชื่อภรรยา

          และเมื่อถามว่าทำไมชื่อเจ้าของรถจึงเป็นคนอื่น ทาง Call Center งงครับ บอกว่าในระบบมันแจ้งชื่อนี้มา อาจจะเป็นชื่อของเซลส์ก็ได้ หลังจากนั้นทางเจ้าของรถลองโทร.ไปเช็คที่ Call Center อีกที ซึ่งเจ้าหน้าที่รับไม่ใช่คนเดิมแล้ว เจ้าของรถจึงถามไปว่ารถที่มีปัญหาขณะนี้ เลขตัวถัง xxxxx ชื่อเจ้าของในระบบชื่ออะไร เจ้าหน้าที่คนนี้ก็แจ้งเป็นชื่อที่ได้ยินมาอีกครั้ง เป็นอันยืนยันแน่นอนแล้วว่ารถคันนี้มีปัญหาแน่นอน!!

          อีกจุดหนึ่งที่ไปเจอเมื่อค้นในที่เก็บของคอนโซลหน้าพบคู่มือประจำรถ ในนั้นมีเอกสารใบรับประกันฟิล์มระบุไว้ว่ารถคันนี้ไปติดตั้งฟิล์มเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งคำนวณดูแล้วเวลานั้นเป็นเวลาที่รถยังอยู่บนสายพานในโรงงานที่ระยอง

          จากนั้นก็เลยนำหลักฐานและข้อสงสัยต่าง ๆ ไป “คุย” กันฝ่ายขายและผู้บริหารของโชว์รูมนั้น เพราะดูท่าทางแล้ว “รถป้ายแดง” ที่ชื่อมาน่าจะไม่ใช่รถป้ายแดงมือหนึ่งอย่างที่ควรจะเป็น เรื่องนี้ยังไม่จบ และถ้าเป็นเรื่องจริง และคิดว่าถ้าเจ้าของรถคันนี้เป็นคุณเอง คุณจะทำอย่างไร???

ซื้อรถยนต์ใหม่

          ซื้อรถใหม่ได้รถใช้แล้ว

          อีกรายหนึ่งก็ควักกระเป๋าซื้อรถใหม่ จากตัวแทนผู้จำหน่ายรถยี่ห้อนี้ แต่เป็นคนละรุ่น และเป็นตัวแทนอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งมีผลลงเอยคล้าย ๆ กันโดยได้รถใช้แล้วไปขับแทน

          คุณผู้หญิงรายหนึ่งมาปรึกษาว่าได้ไปซื้อรถจากตัวแทนผู้จำหน่ายแล้วรถเกิดมีปัญหากินน้ำมันมากกว่าปกติ จึงเอารถเข้าศูนย์เพื่อจัดการแก้ไข แต่ทางศูนย์ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยบอกว่าตามประสารถใหม่ก็อาจจะกินเชื้อเพลิงบ้าง ใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะประหยัดเอง ก็เลยสอบถามมาทางนิตยสารว่าทำไมรถกินน้ำมันมากผิดปกติ ก็ได้ตอบไปว่าตอนรถวิ่งนั้นเร่งขึ้นหรือเปล่า (เข้าใจว่าเป็นรถเก่าแล้วคลัตช์เกียร์อาจจะใกล้หมด) เวลาเกียร์เปลี่ยนมีอาการกระตุกแรงกว่าปกติหรือไม่ แล้วรถวิ่งมากี่กิโลแล้ว เจ้าของรถก็ตอบว่าเป็นรถใหม่ป้ายแดงเพิ่งออกรถมา แล้วพบว่าค่อนข้างจะกินน้ำมันมากผิดปกติ ก็เลยแนะนำไปว่าเมื่อเป็นรถใหม่อยู่ในระยะรับประกัน ก็ควรจะให้ทางบริษัทจัดการแก้ไข เพราะหากให้ที่อื่นทำอาจมีปัญหาเรื่องรับประกัน เจ้าของรถก็บอกว่าเอารถเข้าศูนย์แล้วไม่หาย ตอนนี้รถก็มีอาการเบาสั่นและบางครั้ง ก็มีไฟรูปเครื่องยนต์เตือนขึ้นมาด้วยเลยตอบไปว่าหากลักษณะแบบนี้ แสดงว่ารถมีอาการผิดปกติแล้ว ถ้าทางศูนย์ต่างจังหวัดแก้ไขไม่ได้ ให้ติดต่อไปยังบริษัทแม่ที่กรุงเทพฯ โดยตรงเลยดีกว่า

          วันต่อมาเจ้าของรถก็ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ได้ติดต่อไปยัง Call Center ปรากฏว่าชื่อเจ้าของรถไม่ใช่ชื่อของเธอ แต่เป็นชื่อของคนอื่น ก็เลยสงสัยว่าเป็นรถเก่าเอามาย้อมแมวขายใหม่ เพราะสังเกตว่าฟิล์มที่ติดรถก็ไม่ได้เป็นแบบเดียวกันกับที่เธอสั่ง ก็เลยแนะนำไปว่าให้ติดต่อเรื่องนี้ไปทางสำนักงานใหญ่ และให้รอดูคู่มือจดทะเบียนรถว่าเป็นชื่อใคร หรือชื่อเธอเป็นลำดับที่เท่าไหร่ อันเป็นการแสดงว่ารถคันนี้ผ่านการจำหน่ายมารอบหนึ่งแล้ว

          ผลจากการติดต่อกับสำนักงานใหญ่ ทางบริษัทรถก็ยื่นเงื่อนไขว่าจะเปลี่ยนรถคันใหม่หรือเอาเงินคืน คุณผู้หญิงเจ้าของรถก็เลือกเอาเงินคืน เพราะเสียความรู้สึกกับทางบริษัทรถแล้ว คงไม่สามารถคบหากับรถของบริษัทนี้ต่อไปได้

          จากลักษณะอาการของรถทั้งสองคันนี้ ค่อนข้างแน่ใจว่าเซลส์ขายรถของบริษัทนี้น่าจะนำรถที่เคยขายไปแล้วมาย้อมแมวขายใหม่ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นรถที่มีปัญหาแล้ว ทางบริษัทไม่สามารถแก้ไขได้ เจ้าของเก่าเลยขอคืนรถหรือขอเปลี่ยนรถคันใหม่ เซลส์ก็เลยนำรถคันเก่ามาขายอีกครั้ง การมีรถคุณภาพห่วย ๆ ออกมาสร้างปัญหา ก็เป็นการบ่งบอกถึงระดับฝีมือการผลิต คุณภาพการบริการ ว่าอยู่ในระดับไหนอีกด้วย แต่จะว่าไปก็เป็นผลดีอยู่เหมือนกันเพราะจากอาการรวนของรถนี่เอง ทำให้คนซื้อรถทราบว่าเจอรถป้ายแดงถูกย้อมเข้าให้แล้ว

          ซึ่งการที่เซลส์ทำแบบนี้ได้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าเซลส์ของบริษัทตัวแทนจำหน่ายนี้ไม่ซื่อสัตย์แล้ว ยังชวนให้แน่ใจอีกว่าฝ่ายขายจะทำแบบนี้ไม่ได้หากบริษัทต้นสังกัด และบริษัทแม่ไม่รู้เห็นเป็นใจด้วย !!


 





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือยานยนต์
ปีที่ 45 เล่มที่ 565 มิถุนายน 2556



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก gasthai เเละ powergas


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ซื้อรถป้ายแดง แต่ไม่ได้รถใหม่ อุทาหรณ์ หากพบปัญหาข้อบกพร่อง อย่าเพิ่งรับรถ!! อัปเดตล่าสุด 24 มิถุนายน 2564 เวลา 17:25:57 19,810 อ่าน
TOP
x close