เรื่องนี้ถูกรายงานผ่าน Blog ของเทสลาเองว่า Tesla Model S ปี 2017 นั้นมีรุ่นย่อยใหม่คือ P100D ที่สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.5 วินาที ตัวเลขนี้อาจทำให้ Ferrari หรือ Porsche รวมถึงเจ้าของ LaFerrari และ Porsche 918 Spyder ไฮเปอร์คาร์ไฮบริดราคาหลักล้านดอลลาร์รู้สึกหงุดหงิดได้ไม่น้อย
จริงอยู่ว่า Tesla Model S P100D ปี 2017ใหม่ ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมายในแง่ของตัวรถที่ไม่ต่างจากเดิม ยกเว้นแบตเตอรี่ใหม่ขนาด 100 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งทำให้ Tesla Model S P100D สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุดถึง 506 กม. โดยประมาณ ตามมาตรฐานการทดสอบ EPA (US Environmental Protection Agency) ของอเมริกา และ 613 กม. ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) ของยุโรป แต่ข้อดีของการรถพลังไฟฟ้าล้วนก็ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
รถไฟฟ้าล้วนที่มีแค่มอเตอร์กับแบตเตอรี่อย่าง Tesla Model S และ Model X นอกจากจะทำให้การจัด Packaging ของรถเป็นไปได้อย่างอิสระแล้ว ยังอัพเกรดสมรรถนะได้ง่ายพอ ๆ กับการเปลี่ยนมอเตอร์ให้กับรถ Tamiya เลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ได้เปรียบเปรยให้ดูสนุก ๆ เพราะลูกค้าที่สั่งซื้อ Tesla Model S หรือ X รุ่น P90D ไปก่อนแล้ว แต่ยังไม่ถึงกำหนดรับรถสามารถสั่งอัพเกรดแบตเตอรี่เป็น 100 วัตต์-ชั่วโมง ของรุ่น P100D ได้เลย
เพียงเพิ่มเงิน 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 แสนบาท) หรือเจ้าของเก่าที่ใช้รุ่น P90D อยู่แล้วก็ทำได้เช่นกัน แต่ต้องจ่าย 20,000 ดอลลาร์ โดย Tesla Motors จะนำแบตเตอรี่เก่านั้นไปรีไซเคิลต่อไป ฟังดูแล้วมันช่างเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ถ้าไม่พูดถึงราคา และค่าใช้จ่าย
เรื่องความน่าใช้คงไม่มีใครเถียงว่า Tesla Model S และ Model X P100D นั้นสุดยอด แต่ราคาค่าตัวคือปัญหาซึ่งอาจแพงกว่ากว่า 1.1 แสน ดอลลาร์ หรือเกิน 3.8 ล้านบาทในต่างประเทศ ถึงกระนั้นด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Tesla Model 3 ถึงมียอดจองถล่มทลายนัก
ภาพจาก Tesla
