Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera ซูเปอร์คาร์ทรง GT 4 ที่นั่ง จากปี 1966 ที่ผลิตขึ้นมาเพียง 224 คัน ถูกฟื้นฟูสภาพใหม่ทั้งคัน โผล่ขายโดยตัวแทนจำหน่ายรถคลาสสิกในอังกฤษ
เปลี่ยนบรรยากาศจากซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่มีรูปทรงทันสมัยลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ด้วยโปรแกรมออกแบบในคอมพิวเตอร์จนคล้ายกันไปเสียหมดมาเป็นซูเปอร์คาร์จากยุค 60 ที่เปี่ยมเสน่ห์ด้วยจินตนาการของนักออกแบบอย่าง Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera ซึ่งถูกนำมาฟื้นฟูสภาพใหม่และวางขายผ่านตัวแทนจำหน่ายรถคลาสสิกในอังกฤษกันดูบ้างว่าระหว่างซูเปอร์คาร์จากค่ายกระทิงดุรุ่นใหม่กับรุ่นเก๋าทรงคุณค่าถ้ามีเงินเหลือใช้จะอยากซื้อแบบไหนไปครอบครองมากกว่ากัน
Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera นั้นถือว่าเป็นรถสปอร์ตทรง GT ที่ไม่ธรรมดาและพัฒนามาจาก Lamborghini 350 GT ซึ่งรถต้นแบบนั้นออกแบบโดยนักออกแบบระดับตำนานอย่าง Franco Scaglione (Lamborghini 350 GTV คันต้นแบบที่ออกมาโชว์ตัวไม่มีเครื่องยนต์เพราะติดคาร์บูเรเตอร์ที่วางแนวตั้งยังจับยัดลงไปใต้ฝากระโปรงไม่ได้) โดย Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera นั้นผลิตขึ้นมาทั้งหมดแค่ 224 คัน โดยสำนักออกแบบตัวถังชื่อดังอย่าง Touring ของอิตาลี
อันที่จริงยังมีอีก 23 คัน ก่อนหน้าเพียงแต่จะเป็น Lamborghini 400 GT ซึ่งเป็นการนำเอารุ่น 350 GT มาใส่เครื่องยนต์ V12 ขนาด 3.9 ลิตร บล็อกเดียวกับ Lamborghini Miura ในตำนานซึ่งพื้นที่ด้านหลังเบาะแถวหน้ามีจำกัดสำหรับวางกระเป๋าเดินทางหรือเต็มที่คือผู้โดยสารเพียงคนเดียวก็แย่แล้ว จึงทำให้เกิดเป็น Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera ที่เพิ่มเนื้อที่ด้านหลังให้เพียงพอสำหรับการเดินทางอย่างสะดวกสบายพร้อมกัน 4 ที่นั่ง
ส่วนคำว่า Superleggera ในภาษาอิตาลีนั้นแปลว่า “เบาเป็นพิเศษ” เนื่องจากใช้ตัวถังแบบอะลูมิเนียม (อันที่จริง Lamborghini 400 GT ก็เป็นตัวถังอะลูมิเนียมเช่นกัน) โดยคันที่ได้รับการฟื้นฟูและขายผ่านทาง J.D Classic นั้นพ่นด้วยสีเทาดำ Grio st Vincent และเป็นรุ่นพวงมาลัยขวาที่ผลิตออกมาน้อยมาก (ทาง J.D Classic ระบุว่ามี 4 คัน แต่บางข้อมูลบอกว่าผลิตขึ้นมาทั้งหมด 5 คัน) จึงกลายเป็นแรร์ไอเทมแบบไม่ต้องสงสัย
ทางด้านภายในของ Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera คันนี้นั้นตกแต่งห้องโดยสารด้วยโทนสีแดง สามารถรองรับผู้โดยสารสำหรับการเดินทางได้ทั้งหมด 4 ที่นั่ง ซึ่งได้รับการฟื้นฟูใหม่เช่นเดียวกับภายนอก ส่วนเครื่องยนต์เป็นแบบ V12 ขนาด 3.9 ลิตร นั้นให้กำลัง 320 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิด 275 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ 5 จังหวะของ ZF เดิมทั้งหมด ระบบกันสะเทือนเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ที่เคยเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.5 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม. โดยในยุคนั้นต้องถือว่าเป็นคู่แข่งระดับเดียวกับ Jaguar E-Type 2+2 กับ Ferrari 330 GT รวมถึง Maserati 3500 GTi แต่สำหรับยุคนี้ก็ต้องเรียกว่ากลายเป็น rich man\'s toy หรือของสะสมสำหรับคนมีเงินเยอะแบบไม่ต้องสงสัย
ในส่วนของเรื่องราคาของ Lamborghini 400 GT 2+2 Superleggera ที่ได้รับการฟื้นฟูใหม่หมดนั้นทาง J.D Classic ไม่ได้เปิดเผยผ่านหน้าเว็บไซต์แต่คาดว่าคงต้องเตรียมไว้หลายแสนดอลลาร์แน่นอน
ภาพจาก jdclassics
