x close

MINI Driving Experience 2016 สัมผัสการขับขี่ที่มีความเอ็นจอยแบบสุด ๆ

MINI Driving Experience 2016

            มินิ ประเทศไทย (MINI Thailand) พาสื่อมวลชนให้ไปลองสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบรถโกคาร์ทของรถ MINI ทั้ง 5 รุ่น กันบนสนามปทุมธานี สปีดเวย์
           
            เมื่อวันพุธที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทีมงานกระปุก คาร์ ได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรม MINI Driving Experience 2016 ซึ่งจัดโดย มินิ ประเทศไทย (MINI Thailand) ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เพื่อร่วมสัมผัสกับสมรรถนะและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดมาจาก Mini รุ่นดังในอดีตของอังกฤษ จนปัจจุบัน MINI ในยุคของ BMW ได้แตกไลน์ขยายร่างออกมาอีกหลายรูปแบบและเราจะได้ทดสอบกันทั้งหมด 5 รุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย
MINI Driving Experience 2016

MINI Hatch 3 Door JCW  -  231 แรงม้า/320 นิวตันเมตร
MINI Hatch 3 Door Cooper S (JCW Dress up+Tuning Kit)  -  211 แรงม้า/300 นิวตันเมตร
MINI Hatch 5 Door Cooper S (JCW Dress up)  -  192 แรงม้า/280 นิวตันเมตร
MINI Clubman Cooper S  -  192 แรงม้า/280 นิวตันเมตร
MINI Countryman Cooper SD All4  -  143 แรงม้า/305 นิวตันเมตร
 
          โดย MINI Driving Experience 2016 ครั้งนี้จะแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 รูปแบบตามลำดับคือ

          1. Figure 8 ทดสอบระบบควบคุมการทรงตัว DSC (สนามเปียก)
          2. Elk Test ทดสอบการเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน (สนามแห้ง)
          3. Handling Course ทดสอบการบังคับควบคุม (สนามแห้ง)
 
          และเนื่องจากรถ MINI ที่นำมาให้ทดสอบครั้งนี้มีถึง 5 รุ่น แต่ด้วยระยะเวลาจำกัดแค่ครึ่งวันบ่าย (MINI Thailand จัดเป็น 2 รอบ เช้าและบ่าย) ดังนั้นในช่วงการทดสอบ Figure 8 และ Elk Test จะไม่มีการสับเปลี่ยนรถ ใครได้รุ่นไหนก็ขับคันนั้นตลอดและโชคชะตาก็นำพาให้ MINI Clubman Cooper S กลายมาเป็นรถคู่ใจ (ชั่วคราว) ของทีมงานกระปุก คาร์ (แน่ล่ะใครก็อยากขับ MINI Hatch 3 Door JCW เพราะเราทดสอบกันบนสนามแข่งไม่ได้ทดลองขับไปช้อปปิ้งสยามพารากอน) แต่เอาเถอะเราดันไปยืนอยู่ใกล้เจ้า MINI คันโตนี้เอง อย่างน้อยการทดสอบสุดท้าย Handling Course ก็ได้ผลัดเปลี่ยนกันขับจนครบทุกรุ่นที่เตรียมไว้อยู่ดี

MINI Driving Experience 2016
 
          สำหรับ มินิ คลับแมน (MINI Clubman) นั้นเป็นรถ MINI พลัสไซส์จนมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา MINI ด้วยมิติตัวถังยาว 4,253 มม. กว้าง 1,800 มม. และสูง 1441 มม. ระยะฐานล้อจากหน้าถึงหลังยาว 2,670 มม. ฐานล้อหน้ากว้าง 1,564 มม. หลัง 1,565 มม. คงกะว่าเอาใจลูกค้ากลุ่มสาวนักช้อป พ่อบ้านลูกดกหรือไม่ก็คนโสดเพื่อนเยอะโดยเฉพาะ เพราะมีเนื้อที่ภายในที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ ซึ่ง MINI Clubman คันที่เราบังเอิญได้มานั้นเป็นรุ่นย่อยสูงสุด Cooper S Hightrim ซะด้วย ราคาจำหน่าย 3.28 ล้านบาท ต่างจาก Clubman Cooper S ราคา 3.08 ล้านบาท ตรงที่จะได้เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้ากับจอ Head-Up display
 
MINI Driving Experience 2016

          เมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสารของ MINI Clubman Cooper S สัมผัสได้เลยว่าการตกแต่งและคุณภาพของวัสดุนั้นดูดีมีราคาน่าประทับใจมากที่สุดในบรรดา MINI ทั้งหมด เบาะนั่งทรงสปอร์ตซึ่งกระชับลำตัวดีแต่แข็งเป็นกระดานมาตามแนวทางของ BMW ชัดเจน (กลิ่นนี่ใช่เลย) รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดที่ดูหนาและหนักแน่นนั้นให้อารมณ์ไปในสไตล์รถเยอรมันมากกว่าเลยไม่ค่อยรู้สึกถึงความเป็นอังกฤษตามแบบฉบับ Mini ดั้งเดิมเท่าไร
 
          แต่ถ้าใครจะบอกว่าจอแสดงผลทรงกลมตรงกลางยังคงเหมือนมาตรวัด Mini MK I มันก็ใช่ถ้าพูดกันในระดับดีเทล อันที่จริงมันไม่ได้มีอะไรเลวร้ายและเราก็ค่อนข้างชอบภายใน MINI Clubman Cooper S มากพอสมควร แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า “มันเป็นรถอังกฤษนะ”  ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวที่แวบเข้ามาระหว่างนั่งรอให้รถน้ำพ่นน้ำบนสนามจนเปียกชุ่มก่อนการทดสอบแรกจะเริ่มต้นแค่นั้น

MINI Driving Experience 2016

การทดสอบที่ 1 : Figure 8 (MINI Clubman Cooper S Hightrim)
 
          "รถทุกคันปิดการทำงาน DSC (Dynamic Stability Control : ระบบควบคุมการทรงตัว) ในรถด้วยนะครับ” คำสั่งที่ฟังแล้วชวนประหม่าดังมาจากวิทยุสื่อสารอันเป็นสัญญาณว่าการทดสอบกำลังจะพร้อมแล้วหลังจากจอดมองทีมงานขับ MINI Countryman SD All4 วิ่งทดสอบวนไพลอนที่นำมาวางเป็นเลข 8 บนสนามเปียกพร้อมกับเสียงยางรถที่ดังอยู่ตลอดเวลาให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน 1 รอบ
 
          "ลองเหยียบ (คันเร่ง) ได้เต็มที่เลยครับหากหน้ารถไถลออกจากโค้ง (Understeer) ให้ยกคันเร่งแล้วหน้ารถจะดึงกลับเข้ามาเอง" เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องในการแก้ไขอาการดังกล่าวแต่ก็อดตื่นเต้นอยู่หน่อย ๆ ไม่ได้เมื่อต้องขับบนสนามเปียก ปิด DSC (คิดว่าระบบ DTC หรือ Dynamic Traction Control ก็รวมอยู่ในฟังก์ชั่นนี้ด้วย) ไหนจะเรื่องที่ MINI Clubman ฐานล้อกว้างและยาวกว่าเค้าเพื่อน แถมไม่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All4 อีก
 
MINI Driving Experience 2016

          เพื่อเรียกความมั่นใจเลยถามทีมงาน MINI ท่านหนึ่ง ที่ยืนอยู่แถวนั้นว่า “Clubman ยาวกว่ารุ่นอื่นมันจะยังโอเคใช่ไหมครับ” ทีมงาน MINI ท่านนั้นตอบกลับ “นั่นล่ะครับต้องลองดู” โอ้เยี่ยมเลย จากนั้นไม่นานก็ถึงคิว MINI Clubman Cooper S ของเราที่จุดสตาร์ทเพื่อวิ่งเข้าสู่ลานทดสอบ “รถเบอร์ 09 ไปครับ”
 
          MINI Clubman Cooper S เคลื่อนออกไปยังกลางวงไพลอนที่วางเป็นเลข 8 ด้วยความเร็วในระดับลังเล แต่ด้วยสุ้มเสียงของเครื่องยนต์ที่ดังราวกับเพลงปลุกใจนั้นสร้างบรรยากาศให้ฮึกเหิมได้ง่ายมาก เป็นไงเป็นกัน...เลยตัดสินใจเหยียบคันเร่งหนักขึ้นตัวรถก็วนขึ้นมาอยู่ตำแหน่งหัวเลข 8 ตามแรงยุของเสียงเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว หน้ารถแถบานออกและไม่ไปตามทิศทางพวงมาลัยด้วยแรงที่พาตัวรถพุ่งออกจากโค้งไปข้างหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
 
          เราเริ่มถอนคันเร่งให้หน้ายางกลับมามีแรงยึดเกาะอีกครั้ง หัวรถมุดกลับเข้ามาที่จุดตัด x ของเลข 8 อย่างไม่ยากเย็น ตอนนี้ความกังวลหายไปหมดเหลือแต่ความรู้สึกสนุกกับการทดสอบ เราขับวนเป็นเลข 8 บนสนามที่เปียกแบบนี้ด้วยความเร็วที่มากขึ้นอยู่ประมาณ 2-3 รอบ ก่อนที่อินสตรักเตอร์จะเริ่มสั่งให้ “เปิด” ใช้งานระบบควบคุมการทรงตัว (DSC)
 
MINI Driving Experience 2016

          เราหยุดรถตรงจุดตัดกลางเลข 8 พอดี เปิดระบบควบคุมการทรงตัว (DSC) เรียบร้อย จากนั้นเท้าก็เหยียบคันเร่งส่งเจ้า MINI Clubman Cooper S พุ่งเข้าโค้งอย่างรวดเร็วตอนนี้ระบบ DSC เข้ามาทำหน้าที่แก้อาการ Understeer ทันทีขณะที่หมุนพวงมาลัยโดยเท้าไม่ได้ยกออกจากคันเร่งและผู้ขับจะรับรู้ถึงการทำงานของระบบ DSC จากการที่รถจะมีอาการหน่วงเนื่องจากล้อถูกลดกำลังจากเบรกและแรงบิดของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติจนสามารถวิ่งวนเป็นเลข 8 ได้โดยไม่หลุดโค้งไปเสียก่อน แน่นอนมันเกาะโค้งได้ดีกว่าปิด DSC เยอะ
 
สรุปการทดสอบแรก Figure 8

          อันที่จริงในสนามทดสอบเรารู้สึกสนุกกับการขับ MINI Clubman Cooper S ที่ปิดระบบควบคุมการทรงตัว (DSC) มากกว่า แต่มันคงไม่สนุกหากเกิดบนถนนจริงและคงไม่มีใครอยากปิดระบบ DSC แน่เพราะมันเป็นเรื่องของความปลอดภัย ซึ่ง DSC ทำงานได้ฉลาด รวดเร็วและเนียนกว่าก่อนที่จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น

MINI Driving Experience 2016

การทดสอบที่ 2 : Elk Test (MINI Clubman Cooper S Hightrim)
 
          Elk Test คือการทดสอบการทรงตัวและการบังคับควบคุมด้วยการหักหลบในระยะกระชั้นชิด (เกิดจากการตั้งชื่อตามสถานการณ์ที่ผู้ขับขี่รถยนต์ในต่างประเทศมักต้องเจอกวางเอลก์โผล่มาบนถนนและต้องหักหลบ) เริ่มจากทางตรงด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. ในรอบแรกและเพิ่มเป็น 60 กม./ชม. ในรอบที่สอง ก่อนถึงจุดที่ต้องหักหลบไปทางซ้ายและดึงกลับขวาทันทีเพื่อเข้าช่องทางเดิมจากนั้นเบรกจนหยุดนิ่งโดยจะมีไพลอนวางกันไว้เป็นแนวบนสนามแห้งและ “ไม่ปิด” ระบบควบคุมการทรงตัว (DSC)
 
          ที่ความเร็วทั้ง 2 ระดับ MINI Clubman Cooper S ผ่านไปได้ด้วยดีตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัยซึ่งคล่องแคล่ว ว่องไวและแม่นยำ การพลิกเอียงตัวของรถนั้นมีพอให้ได้รู้สึก (และมากที่สุดในกลุ่มทดสอบ) เนื่องจากระบบกันสะเทือนน่าจะเซตมาให้นุ่มนวลกว่ารุ่นอื่น ๆ แม้จะมีระยะยืด-ยุบไม่มากรวมถึงแชสซีส์ที่ออกแบบมาแข็งจึงทำให้ MINI Clubman คล่องแคล่วและออกแนวนุ่มแบบหนึบแน่นไม่ย้วยหรือยวบยาบ (สไตล์เดียวกับ BMW) แม้จะมีฐานล้อที่ยาวกว่า MINI รุ่นอื่น ๆ
 
สรุปการทดสอบที่สอง Elk Test

          MINI Clubman Cooper S พาเราผ่านการทดสอบนี้ด้วยการบังคับควบคุมน่าประทับใจ (แต่ไม่สุดในแบบ MINI) ระบบกันสะเทือนที่ออกแนว “นุ่มและแน่น” ทำให้นึกถึง BMW ที่ครอบด้วยตัวถัง MINI ซึ่งเราคิดว่าไม่ใช่ “ความผิดพลาด” แต่เป็น “ความตั้งใจ” ที่ MINI อยากให้ Clubman เป็นมากกว่า

MINI Driving Experience 2016

การทดสอบที่ 3 : Handling Course

          การทดสอบสุดท้ายนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง บนสนามแห้งและเปิดการทำงานระบบควบคุมการทรงตัว (DSC) เราจะได้สัมผัสทั้งอัตราเร่ง เบรกและการบังคับควบคุมของรถ MINI ทุกรุ่น ซึ่งทีมงานจะปล่อยรถทดสอบทีละคันออกตัวจากจุดสตาร์ท เหยียบคันเร่งให้มิดพรมและกระทืบเบรกตรงจุดที่กำหนดไว้ (น่าจะราว ๆ สัก 400 เมตร)

          จากนั้นวิ่งไปต่อขบวนเพื่อขับทดสอบรอบสนาม ผ่าน Elk Test (อีกครั้ง) วนกลับมาที่จุดสตาร์ทและเปลี่ยนรถจนครบทุกรุ่น โดยจะมีรถของอินสตรักเตอร์วิ่งนำขบวนเพื่อควบคุมความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่ให้เร็วหรือช้าจนเกินไป
 
MINI Driving Experience 2016

อัตราเร่งและเบรก (Acceleration and Braking)

          ไม่ต้องทดสอบใครก็เดาได้ว่า MINI Hatch 3 Door JCW (John Cooper Works) ต้องมีอัตราเร่งดีที่สุดเพราะมีพละกำลังถึง 231 แรงม้า แต่พอได้สัมผัสของจริงจะยิ่งประทับใจโดยเฉพาะเมื่อปรับเป็นโหมดสปอร์ต เครื่องยนต์และท่อไอเสียแผดเสียงออกมาได้หวานหูมาก พละกำลังจากเครื่องยนต์ถูกส่งมายังล้ออย่างต่อเนื่อง เร็ว แรงและมีชีวิตชีวา

          ในขณะที่ MINI Hatch 3 Door Cooper S ซึ่งติดตั้ง JCW Tuning Kit ทำให้มีกำลังเพิ่มจาก 192 เป็น 211 แรงม้า ก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันมาก (และควักกระเป๋าจ่ายน้อยกว่า) ส่วน MINI Hatch 5 Door Cooper S และ Clubman Cooper S ที่มีกำลัง 192 แรงม้า ก็ลดระดับความจัดจ้านลงมาเพียงนิดเดียวจนทำให้ MINI Countryman Cooper SD ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 143 แรงม้า ซึ่งเป็นคันสุดท้ายที่เราได้ทดสอบรู้สึกอืดขึ้นมาทันที ทั้งที่เราคาดหวังว่าแรงบิดระดับ 305  นิวตันเมตร จะเร้าใจกว่านี้ อาจเป็นเพราะจังหวะการเปลี่ยนเกียร์นั้นห่างอารมณ์สปอร์ตพอสมควรด้วยอาการหน่วงและไม่ต่อเนื่องเท่า MINI คันอื่น ๆ แบบรู้สึกได้
 
          ส่วนเรื่องการเบรกแบบกะทันหันและสุดแรงที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. จนหยุดนิ่ง MINI ทุกคันทำได้ดีโดยไม่มีอาการเซหรือไถลอาจด้วยความสมดุลที่ดีของตัวรถบวกกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยจัดการไว้ก็ตาม และถ้าจะต้องหาข้อติกันจริง ๆ ก็คงมีเพียง MINI Clubman Cooper S ที่มีระบบกันสะเทือนนุ่มกว่าทุกรุ่น เมื่อเบรกอย่างรุนแรงน้ำหนักจึงเทมาด้านหน้ากดสปริงให้ยุบตัวจนสุดและมีอาการกระแทกรอยต่อของสนามในขณะที่รุ่นอื่น ๆ ไม่พบอาการนี้

MINI Driving Experience 2016
 
การบังคับควบคุม (Handling)

          สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นหรือจะเท่าได้ลองขับเองกับมือมันคือเรื่องจริง MINI ไม่ได้มีแค่หน้าตาสุดชิคเท่านั้น การทดสอบ Handling Course รอบสนามที่มีโค้งวนไปมาทั้งหักศอกและแฮร์พินกลายเป็นความบันเทิงเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ทุกอย่างควบคุมได้ สนุก เริงร่าตราบเท่าที่อยู่ในลิมิตของรถ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องมีกำลังแรงเสมอไป ข้อนี้ MINI Countryman Cooper SD พิสูจน์แล้วว่ายังทำให้ผู้ขับยิ้มได้ด้วยความคล่องแคล่ว แม่นยำของพวงมาลัยและช่วงล่างที่หนึบแน่น ระยะยุบ-ยืด (Traveling) เมื่อระบบกันสะเทือนทำงานมีไม่มากรวมถึงแชสซีส์ที่มีความแข็งแกร่งทำให้รถมีอาการโคลงน้อยถึงจะเป็นรถ SAV (Sport Activity Vehicle) ที่ยกสูงกว่า MINI ทุกรุ่น
 
          แต่รถที่ขับได้ฟินสุดคงต้องยกให้ MINI Hatch 3 Door JCW โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในโหมด Sport ระบบกันสะเทือนที่แข็งขึ้นอีกใกล้เคียงรถโกคาร์ทมาก ผ่านจุด Elk Test ที่ความเร็ว 50 กม./ชม. ได้พลิ้วและง่ายดายกว่า Clubman Cooper S ชัดเจน นอกจากนี้เครื่องยนต์ตอบสนองจัดจ้านรวมถึงเสียงที่แผดออกมาจากท่อไอเสียเป็นอะไรที่เร้าใจสุด ๆ หากไม่อยากจ่ายแพง MINI Hatch 3 Door Cooper S ที่ติดตั้ง JCW Tuning Kit ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและขับสนุกอยู่ดี แต่ถ้าคุณมีเงื่อนไขว่าต้องมี 5 ประตู MINI Hatch 5 Door Cooper S และ MINI Clubman Cooper S ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งสองรุ่นยังวิ่งได้ว่องไว กระฉับกระเฉงในบุคลิกของรถขับสนุก พวงมาลัยคมแบบมีน้ำหนัก ระบบกันสะเทือนหนึบแน่น เพียงแต่ Clubman จะออกไปทางนุ่มกว่าบ้างเพื่อความสบายเรารู้สึกอย่างนั้น

MINI Driving Experience 2016
สรุปการทดสอบ Handling Course

          บนสนามในการทดสอบ Handling Course รถ MINI ทุกคันมีบุคลิกของความสปอร์ตที่ทำให้ขับสนุกอยู่ในตัวชัดเจน ด้วยการบังคับควบคุมที่แม่นยำ คล่องแคล่วและว่องไว ทั้งจากเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ช่วงล่างตั้งแต่ระบบกันสะเทือน ล้อน้ำหนักเบากับยางแก้มเตี้ย รวมถึงการออกแบบแชสซีส์

          สุดท้ายแล้วคุณอาจคิดว่าถ้าอย่างนั้นจะเลือก MINI คันไหนก็ได้สิ “ใช่เลย” ถ้าคุณต้องการรถที่ดูชิคและขับสนุก MINI ทุกคันที่ทดสอบเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่เราเชื่อว่าเมื่อคุณได้สัมผัสครบทุกรุ่น ความต้องการของคุณจะเปลี่ยนไปทันที คุณจะหลงรักความแรงแบบ JCW คุณจะปลื้มความหรูและสบายของ Clubman คุณจะชอบความอเนกประสงค์และประหยัดของ Countryman และเมื่อคุณตัดสินใจแล้วคุณก็จะอยากได้นู่น นี่ นั่น เพิ่มอีกไม่จบไม่สิ้น...นี่แหละ MINI
 
          บอกได้เลยว่า MINI ทุกคันมีความชิค มีความบันเทิงในการขับขี่และบังคับควบคุม ใต้การทดสอบ MINI Driving Experience 2016 ใต้ความแซ่บซ่าของ MINI

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016

MINI Driving Experience 2016




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
MINI Driving Experience 2016 สัมผัสการขับขี่ที่มีความเอ็นจอยแบบสุด ๆ อัปเดตล่าสุด 12 สิงหาคม 2564 เวลา 16:56:08 4,858 อ่าน
TOP