x close

Ferrari F12tdf เผยโฉมม้าแข่งสายพันธุ์ดีที่มีแค่ 799 คันบนโลก

Ferrari F12tdf

          Ferrari เปิดผ้าคลุมซูเปอร์คาร์ตัวท็อปรุ่นพิเศษ F12tdf ซึ่งจะมีแค่ 799 คัน ให้เศรษฐีทั่วโลกได้ครอบครองเท่านั้น

          หาก Ferrari จะสร้างซูเปอร์คาร์ขึ้นมาสักคันเรื่องความแรงคงจะไม่ได้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเท่าไรนักเพราะใครๆ ก็รู้ดีว่านี่เป็นงานถนัดของ Ferrari แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน และ Ferrari ก็คงจะรู้ข้อนี้ดีจึงนำชื่อเสียงและภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งที่ Ferrari มีมาจากครั้งอดีตซึ่งเป็นอะไรที่สร้างกันไม่ได้ง่าย ๆ อย่างมาใช้เป็นไม้ตายในการสร้างความพิเศษให้เหนือกว่าในวาระต่าง ๆ ซึ่งผลงานล่าสุดจากแนวคิดนี้คือ Ferrari F12tdf


Ferrari F12tdf

Ferrari F12tdf

          ครั้งนี้ Ferrari เลือกใช้ชื่อเสียงของ Ferrari 250 GT Berlinetta ปี1956 ที่ชนะการแข่งขันในสนาม ตูร์ เดอ ฟรองซ์ (Tour de France) และโด่งดังจนคนทั่วไปเรียกว่า Ferrari 250 Tour De Fance มาเป็นจุดขายให้กับซูเปอร์คาร์ตัวท็อปอย่าง Ferrari F12 Berlinetta ด้วยการเติมคำว่า tdf หรือ Tour de France เข้าไปให้กลายเป็น Ferrari F12tdf ร่วมกับงานออกแบบตัวถังใหม่เน้นความสำคัญกับหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้นจนสามารถเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

          ตั้งแต่กันชนหน้าใหม่ถูกออกแบบช่องและครีบรีดอากาศให้ไหลผ่านออกไปทางด้านข้างและใต้ท้องรถอย่างเป็นระเบียบ ส่วนฝากระโปรงหน้าใหม่ถูกเจาะช่องเพื่อปล่อยให้อากาศที่ไหลเข้ามาจากช่องดักลมด้านหน้าไหลลอดบังโคลนออกไปทางด้านข้างตัวรถไปยังด้านท้าย

Ferrari F12tdf

Ferrari F12tdf

          โดยในส่วนด้านข้างนี้ Ferrari F12tdf ได้ติดตั้งสเกิร์ตแบบใหม่รวมไปถึงกระจกโอเปร่าที่เสา C ที่มีรูปทรงแตกต่างจาก Ferrari F12 Berlinetta ซึ่งมีขอบตัดตรงมากกว่า พร้อมทั้งติดแผ่นรีดอากาศเพื่อการจัดเรียงกระแสลมได้ดีขึ้น ในขณะที่บังโคลนหลังถูกเจาะช่องลักษณะเดียวกับ Ferrari 250 GT Berlinetta ปี 1956 ซึ่งในยุคนั้นเรียกว่า Louvre เพื่อระบายกระแสลมจากใต้ท้องรถผ่านเข้าซุ้มล้อและไหลออกไปยังช่องทั้ง 3 สู่ท้ายรถได้อย่างเป็นระเบียบด้วยเช่นกัน

          สำหรับด้านท้ายรถยิ่งเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนระหว่าง Ferrari F12tdf กับ F12 Berlinetta ตั้งแต่กระจกบานหลังทรงใหม่ขอบฝากระโปรงท้ายที่เชิดมากขึ้นและคาดแถบสีดำระหว่างไฟท้ายทรงกลมทั้งสองข้าง

          ส่วนกันชนท้ายได้รับการออกแบบใหม่หมดโดยเฉพาะดิฟฟิวเซอร์แบบปรับระดับได้ขนาดใหญ่อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางที่แยกส่วนท่อไอเสียคู่ไว้ทั้งสองฝั่งอย่างชัดเจนทั้งหมดจากการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านอากาศพลศาสตร์ทำให้ Ferrari F12tdf สร้างแรงกดตัวถังที่ความเร็ว 200 กิโลเมตรได้ดีกว่า Ferrari F12 Berlinetta อีกเท่าตัวจากเดิมที่ทำได้ 123 กิโลกรัม เป็น 230 กิโลกรัม

Ferrari F12tdf

Ferrari F12tdf

          ในขณะที่ห้องโดยสารของ Ferrari F12tdf ให้อารมณ์ที่แตกต่างไปจาก Ferrari F12 Berlinetta อย่างสิ้นเชิง พื้นผิวที่เคยหุ้มด้วยวัสดุอย่างหนังชั้นดีถูกแทนที่ด้วยอัลคันทาราและคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยโทนสีดำโดยสวิทช์ต่าง ๆ และช่องแอร์ตัดขอบด้วยสีแดง ส่วนเบาะนั่งแบบสปอร์ตนั้นมีโครงสร้างที่ทำจากอะลูมิเนียมและหุ้มด้วยผ้าสีดำคาดเหลืองเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งทำให้ห้องโดยสารของ Ferrari ให้บรรยากาศและความรู้สึกเหมือนอยู่ในค็อกพิทของรถแข่งและพร้อมที่จะแข่งขันในสนามได้ตลอดเวลา   

Ferrari F12tdf

          ทางด้านพละกำลัง Ferrari F12df รุ่นพิเศษนี้จัดเตรียมไว้ให้มาก ถึง 780 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที และแรงบิด 705 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ/นาที มากกว่ารุ่น F12 Berlinetta ที่มีเพียง 740 แรงม้ากับ แรงบิด 690 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ/ นาที แม้จะใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาดความจุ 6.2 ลิตร ตัวเดียวกันก็ตาม ซึ่งจะส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ แบบรถแข่ง F1

Ferrari F12tdf

          จนทำให้ Ferrari F12tdf มีอัตราเร่ง จาก 0-100 กม./ ชม. ด้วยเวลาเพียง 2.9 วินาที และภายใน 7.9 วินาที ก็จะสามารถทำความเร็วได้ถึง 200 กม./ ชม. ในขณะที่ความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ 340 กม./ ชม
 
          ซึ่งในการทดสอบในสนาม Fiorano ของ Ferrari ที่มีความยาวรอบสนามประมาณ 3 กิโลเมตรกับอีก 12 โค้ง นั้น Ferrari F12tdf ทำเวลาต่อรอบได้ 1 นาที 21 วินาที เทียบกับ Ferrari ที่เป็น Road Car ทั้งหมดจะเป็นรองแค่ไฮเปอร์คาร์อย่าง LaFerrari ที่ทำเวลาได้ 1 นาที 19 วินาที เท่านั้น

Ferrari F12tdf

          นอกจากพละกำลังจากเครื่องยนต์แล้วต้องยกความดีให้กับ ช่วงล่างของ Ferrari F12tdf ที่เพิ่มขนาดยางล้อหน้าให้กว้างขึ้นจาก 255 เป็น 275 เพื่อสมรรถนะในการเกาะถนนซึ่งถึงแม้ว่าจะทำให้ตัวรถเกิดอาการท้ายปัด (Oversteer) ได้ง่ายขึ้น แต่ Ferrari ได้ติดตั้งระบบ Passo Corto Virtuale หรือระบบเลี้ยว 4 ล้อ เป็นครั้งแรก (สำหรับ Ferrari) เพื่อแก้ดังกล่าวโดยองศาของล้อจะสัมพันธ์กับความเร็วและการหมุนพวงมาลัย ทำให้ผู้ขับสามารถเข้าโค้งที่คดเคี้ยวบนถนนหรือในสนามแข่งได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นด้วย

          สิ่งสำคัญที่สุดคือ Ferrari F12tdf รุ่นพิเศษนี้จะผลิตออกมาเพียงแค่ 799 คันทั่วโลกเท่านั้น ซึ่ง Ferrari ไม่ได้แจ้งราคาเอาไว้ทั้งนี้คงเห็นว่าไม่สำคัญสำหรับลูกค้าระดับนี้แต่เรามั่นใจว่าคงแพงกว่า Ferrari F12 Berlinetta ธรรมดาแน่นอน 

ภาพจาก Ferrari


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Ferrari F12tdf เผยโฉมม้าแข่งสายพันธุ์ดีที่มีแค่ 799 คันบนโลก อัปเดตล่าสุด 16 กรกฎาคม 2564 เวลา 15:42:48 10,167 อ่าน
TOP