เมื่อวันที่ 23 กันยายน นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2558
ปริมาณการขายทั้งสิ้น 61,991 คัน ลดลง 9.9% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,790 คัน ลดลง 24.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 39,201 คัน เพิ่มขึ้น 0.9% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนต์นี้ จำนวน 31,746 คัน ลดลง 0.3%
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2558
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 61,991 คัน ลดลง 9.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,544 คัน ลดลง 13.9% ส่วนแบ่งตลาด 34.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,057 คัน ลดลง 10.8% ส่วนแบ่งตลาด 17.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 8,101 คัน ลดลง 7.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.1%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,790 คัน ลดลง 24.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,858 คัน ลดลง 33.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,388 คัน ลดลง 35.8% ส่วนแบ่งตลาด 23.6%
อันดับที่ 3 มาสด้า 2,472 คัน เพิ่มขึ้น 63.5% ส่วนแบ่งตลาด 10.8%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 31,746 คัน ลดลง 0.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,964 คัน เพิ่มขึ้น 5.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,929 คัน ลดลง 11.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,951 คัน ลดลง 15.0% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 5,728 คัน
โตโยต้า 3,359 คัน – มิตซูบิชิ 834 คัน – อีซูซุ 752 คัน – ฟอร์ด 672 คัน – เชฟโรเลต 111 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 26,018 คัน ลดลง 7.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,605 คัน ลดลง 11.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,177 คัน ลดลง 7.0% ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,117 คัน ลดลง 29.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,201 คัน เพิ่มขึ้น 0.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,696 คัน เพิ่มขึ้น 3.9% ส่วนแบ่งตลาด 34.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,057 คัน ลดลง 10.8% ส่วนแบ่งตลาด 28.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,951 คัน ลดลง 15.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%
จากตัวเลขที่เปิดเผย น่าจับตาดูที่มาสด้า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเร่งแรงด้านยอดขายกลุ่มรถยนต์นั่ง เริ่มเข้ามาติดอันดับ 3 แถมหากมองการเติบโตเฉพาะยอดขายในเดือนนี้พุ่งสูงกว่า 63.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทิ้งนิสสันที่ในเดือนนี้รถยนต์นั่งได้เพียง 1,456 คันซึ่งลงจากปีที่แล้ว -30.2% ครับ