แน่นอนว่ารถยนต์มือสองหาสภาพที่สมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นคงยาก แต่ก็มีบางสิ่งที่เราสามารถบำรุงรักษาได้ทันทีเมื่อซื้อรถมือสอง เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ลองมาดูสิ่งที่ต้องรีบทำหลังจากที่ซื้อมาแล้วกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
เปลี่ยนถ่ายของเหลวทุกชนิด
เราควรเปลี่ยน น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันเบรก, น้ำมันคลัตช์, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์, น้ำมันกระปุกพวงมาลัย, น้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ ฯลฯ เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า สิ่งที่อยู่ภายในมีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เพราะรถบางคันอาจจอดโชว์ไว้นานแล้ว ไม่ได้วิ่ง ไม่ได้สตาร์ทใช้งานเลย จึงทำให้ต้องรีบจัดการเปลี่ยนทันทีที่ได้รถมา เพื่อความสบายใจ และปลอดภัยในอนาคต
สายพานต่าง ๆ
ทั้งสายพานไทม์มิ่ง และสายพานหน้าเครื่อง เนื่องจากสิ่งของจำพวกนี้อาจะยังสามารถใช้ของเก่าได้อยู่ แต่อยากแนะนำให้เปลี่ยนทันทีเช่นกัน เพราะจอดไว้นานอาจเสื่อมสภาพหรือสภาพยางแข็งและขาดได้ง่าย
กรองอากาศ
อีกสิ่งที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นกรองเดิม หรือกรองเปลือย เพราะถ้ามันสกปรกมากเกินไป จะดูดอากาศเข้าได้ไม่เต็มที่ และหากมีจุดที่ขาด หรือเสียหาย เวลาดูดอากาศเข้าไปอาจทำให้มันนำพาเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ ผ่านเข้าไปในห้องเครื่องด้วย ซึ่งจะทำให้ห้องเครื่องเกิดปัญหาขึ้นได้
แบตเตอรี่
ควรเปลี่ยนใหม่ไปเลย ไม่ต้องรอให้ถึงเวลาที่ต้องการใช้งานแล้วมันเกเร สตาร์ทไม่ติด เพราะรถที่จอดนาน ๆ หากไม่ได้มีการสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้บ้าง ระบบต่าง ๆ ก็จะเกิดความเสียหาย หรือหมดอายุไปเองได้เช่นกัน
ระบบเบรก
เรื่องของความปลอดภัยควรมาเป็นอันดับต้น ๆ ที่แน่ ๆ เราแนะนำให้เปลี่ยนสายเบรกเป็นอย่างน้อยกันเบรกแตกและปัญหาอื่น ๆ เรื่องผ้าเบรก ถ้าไม่มีเสียงหรืออาการผิดปกติก็ข้ามไปได้
ท่อยาง ท่อเชื่อมต่าง ๆ
เปลี่ยนได้ก็ควรเปลี่ยนเลย อย่ารอให้มันแข็ง แห้งกรอบ หรือบวม เพราะถ้ามันแตก หรือหลุดออกกะทันหัน เตรียมเงิน ปาดเหงื่อตอนซ่อมแน่นอน
และนี่คือสิ่งจำเป็นที่ต้องรีบทำหลังจากที่ได้รถมือสองมาแล้ว แม้จะดูเป็นเรื่องยาก วุ่นวาย และต้องเสียเงินเพิ่ม แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งเหล่านี้ต้องรีบดู รีบแก้ไข ไม่มีใครรับประกันได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับรถมือสอง ดังนั้นตัวเราเองต้องใส่ใจกับมัน เพราะรถยนต์ก็คือเพื่อนคู่กาย ที่สามารถนำพาเราไปได้ทุกที่ที่ต้องการครับ