แม้จะมียอดขายดีขึ้น แต่โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ก็ยังประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียนอยู่ไม่น้อยทีเดียว จึงทำให้ต้องหาทางลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ออกไปให้ได้ ซึ่งวิธีหนึ่งที่ทางโฟล์กกำลังพิจารณาคือการยุติการขายรถยนต์บางรุ่น โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของ โฟล์กสวาเกน บีเทิล (Volkswagen Beetle) และโฟล์กสวาเกน โปโล (Volkswagen Polo) รุ่น 3 ประตูรวมอยู่ด้วย
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ข่าวสปีเกลของประเทศเยอรมนี รายงานว่า โฟล์กสวาเกนมีแผนจะยุติการพัฒนาโฟล์กสวาเกน โปโล รุ่น 3 ประตู โฉมใหม่ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2017 โดยแผนนี้จะช่วยให้โฟล์กลดค่าใช้จ่ายลงไปถึง 200 ล้านยูโร (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พออยู่ดีเนื่องจากโฟล์กสวาเกนตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงไปมากถึง 5 พันล้านยูโร (ประมาณ 176,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ทางเว็บไซต์ดังกล่าวยังระบุอีกว่า ยอดขายของรถยนต์แฮตช์แบ็ก 3 ประตูทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้โปโลรุ่น 3 ประตูจะทำยอดขายได้สูงติดอันดับ 4 ของโลก แต่คงไม่คุ้มค่าการพัฒนาเป็นแน่ ซึ่งโฟล์กสวาเกนก็มีรถอีกรุ่นหนึ่งที่เข้าข่ายเป็นแฮตช์แบ็ก 3 ประตู ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็คือ โฟล์กสวาเกน บีเทิล นั่นเอง
โฟล์กสวาเกน บีเทิล โฉมปัจจุบันเปิดตัวเมื่อปี 2011 ซึ่งมันไม่สามารถสร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มทลายได้เหมือนกันโฉมก่อน ในปี 1998 ทั้งยังไม่ได้ใช้โครงสร้าง MBQ ซึ่งเป็นโครงสร้างรถยนต์หลักในโฟล์กสวาเกน กอล์ฟ (Volkswagen Golf) และพาสสาท (Volkswagen Passat) รุ่นปัจจุบัน ทำให้ค่าการพัฒนาของมันสูงมาก แม้จะพ่วงกับโฟล์กสวาเกน เจ็ตต้า (Volkswagen Jetta) อยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่พอจะสร้างความคุ้มค่าให้กับทางค่ายอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม แม้โฟล์กจะประเมินว่ายอดขายของแฮตช์แบ็ก 3 ประตูนั้นไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่สำหรับค่ายรถยนต์ที่มีแฮตช์แบ็ก 3 ประตู เป็นสัญลักษณ์อย่าง มินิ (Mini) และเฟียต (Fiat) เองก็ยังประสบความสำเร็จกับการขายรถยนต์ในกลุ่มนี้อยู่ ซึ่งหากโฟล์กคิดจะตัดบีเทิลออกไปจริง ๆ ก็คงพลาดโอกาสเข้าร่วมในตลาดที่มีแต่ 3 ค่ายนี้เท่านั้นที่จะเข้าถึงได้ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าโฟล์กสวาเกนจะทำอย่างไรต่อไปครับ
