จากการสำรวจตลาดของเชฟโรเลตพบว่าความสะดวกสบายของเบาะที่นั่งเป็น 1 ใน 10 ปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าในประเทศไทยใช้พิจารณาในการเลือกซื้อใหญ่อย่างแคปติวาและเทรลเบลเซอร์ รวมถึงรถยนต์นั่งขนาดกลางอย่างครูซ
จากผลการศึกษาของคาสตรอล บริษัทผู้ผลิตน้ำมันเครื่องจากอังกฤษ พบว่า กรุงเทพฯ ติดอันดับ 8 ใน 10 เมืองใหญ่ที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดในโลก โดยผู้ขับขี่รถจะต้องจอดติดเครื่องยนต์อยู่บนท้องถนนในกรุงเทพฯ เฉลี่ย 36 เปอร์เซ็นต์ของการเดินทาง
ด้วยเหตุนี้ ทีมวิศวกรพัฒนาเบาะที่นั่งของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จึงมุ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยการพัฒนาเบาะที่นั่งสำหรับรถเชฟโรเลตที่ผ่านการทดสอบตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อความสบายสูงสุด ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นสูง ประเมินด้วยการขับขี่จริงและการรับฟังเสียงของลูกค้าเพื่อการออกแบบเบาะรองนั่งและโครงสร้างที่นั่งอย่างดีที่สุด แตกต่างกันไปตามโครงการพัฒนารถในแต่ละรุ่น
ช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาเบาะที่นั่ง วิศวกรจะใช้ ออสการ์ (Oscar) เครื่องมือจำลอง แบบสามมิติรูปทรงเหมือนมนุษย์สำหรับการกำหนดมิติในภาพรวมของห้องโดยสารรถยนต์เพื่อให้แน่ใจว่า มีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง
เสริมด้วยเทคโนโลยีการร่างแผนผังแรงกดแบบดิจิตอล ที่สามารถวัดการกระจายแรงกดด้านหลังของมนุษย์บนพื้นผิวเบาะที่นั่งซึ่งสามารถสร้างแผนผังการวัดได้มากกว่า 4,600 จุด ข้อมูลดังกล่าวจะถูกถ่ายโอนไปยังคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถสร้างภาพกราฟฟิกให้เห็นว่าผู้โดยสารนั่งอยู่บนเบาะอย่างไรขณะขับขี่
นอกจากการวัดแรงกดที่เบาะนั่ง วิศวกรยังอาจใช้หุ่นยนต์ทดสอบที่สามารถจำลองผลกระทบ จากแรงกดและแรงหักเหที่กระทำบนเบาะที่นั่งซึ่งเครื่องมือดังกล่าวจะช่วยประเมินว่าเบาะที่นั่งมีความแข็งหรือนุ่มเกินไป
วิศวกรของจีเอ็มไม่ได้พึ่งพาเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว พวกเขายังทดสอบนั่งและทดลองใช้งานจริงด้วยการให้อาสาสมัครนั่งบนเบาะรถที่ขับเคลื่อนจริงรวมระยะทางหลายพันกิโลเมตรและใช้เวลานานหลายวันเพื่อให้แน่ใจว่าได้ข้อมูลมากเพียงพอต่อการพัฒนาเบาะที่นั่งตัวต้นแบบ
และทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงการออกแบบ โดยใส่ใจลูกค้าจากรถยนต์เชฟโรเลต ซึ่งจะนั่งสบายแค่ไหน ถูกใจหรือปล่าวก็อยู่ที่คุณไปลองสัมผัสและตัดสินใจเองแล้วครับ
