รีวิว มิตซูบิชิ แอททราจ ออปชั่นแน่นแบบเหนือกว่า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          มองหารถยนต์ดี ๆ ไว้ใช้งานสักคัน ช่างเลือกยากเสียจริง ด้วยจำนวนเงินก้อนใหญ่ที่ต้องจ่าย เป็นใครก็อยากให้ความคุ้มค่าที่สุด แต่แค่นั้นยังคงไม่พอในยุคนี้ค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงก็แพง เพราะฉะนั้นรถที่ประหยัดน้ำมันอย่างอีโคคาร์เป็นทางเลือกที่ดูตอบโจทย์ได้มากที่สุด

          และครั้งนี้เราก็ได้โอกาสอันดีที่ทดสอบ มิตซูบิชิ แอททราจ (Mitsubishi Attrage) อีโคคาร์อีกรุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ถึงแม้จะเปิดตัวมาได้ร่วมปี (มิถุนายน 2556) แต่เรื่องความสดใหม่นั้นยังมีเต็มเปี่ยม เพราะเป็นรถที่พัฒนาขึ้นเพื่อลงโครงการอีโคคาร์เฟส 1 ในบ้านเรา

          มิตซูบิชิ แอททราจ (Mitsubishi Attrage) สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดีในความเป็นอีโคคาร์ที่ให้อัตราประหยัดน้ำมัน แต่ขนาดของรถอยู่ในกลุ่มบี-เซกเมนต์ด้วย ความยาว 4,245 มม. ความกว้าง 1,670 มม. และความสูง 1,515 มม. และระยะฐานล้อ 2,550 มม. รูปลักษณ์และดีไซน์ดูสวยงามและให้ความรู้สึกเป็นวัยรุ่นนิด ๆ
          ความโดดเด่นของ มิตซูบิชิ แอททราจ ที่เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันต้องยกให้เรื่อง อุปกรณ์และออปชั่นของรถที่จัดเต็มตั้งแต่ **ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยว LED ที่กระจกมองข้าง กล้องถอยหลัง เบาะหนัง จอทัชสกรีนขนาด 6.5 นิ้ว พวงมาลัยพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง แอร์อัตโนมัติ กุญแจ Keyless พร้อมปุ่ม push start ฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายมากกว่า อาทิ กระจกมองข้างพับ-กางอัตโนมัติ ระบบตัดไฟหน้าอัตโนมัติ ประตูล็อกอัตโนมัติ ระบบหน่วงเปิดกระจกหลังจากดับเครื่อง

**ในรุ่นท็อป Attrage GLS Ltd.

          สัมผัสจริงภายในห้องโดยสารใหญ่กว่าคิดไว้เยอะ เพราะเฮดรูมที่สูง ทำให้รู้สึกโปร่งไม่อึดอัดแถมพื้นที่ตรงเข่าก็ยังเหลือ ๆ (ผู้ทดสอบสูง 178 ซม.) ประตูเข้าออกห้องโดยสารก็กว้างคนที่ตัวใหญ่เข้า-ออกไม่น่ามีปัญหา ช่องเก็บของท้ายรถใหญ่โตจุของได้เยอะจริง


          การตกแต่งภายในทำออกมาได้สวยงาม ฐานเกียร์ Gate Type ตกแต่งแบบ Piano Black พร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์หรูหราและมองเห็นชัดเจน พวงมาลัยหุ้มหนัง มือจับประตูโครเมียม มีช่องเก็บของและวางแก้วน้ำคู่หน้า ช่องเก็บของบนลิ้นชักฝั่งผู้โดยสารหน้าที่ใช้งานได้สะดวกมาก มองภาพรวมทั้งความสะดวกสบายและดีไซน์ลงตัวมากทีเดียว

          หลังจากที่คลุกคลีกับ มิตซูบิชิ แอททราจ อยู่หลายวันมีความชื่นชอบเบาะนั่งเป็นพิเศษ เพราะรู้สึกกระชับและไม่มีอาการปวดเมื่อยแม้นั่งขับเป็นเวลานานเลยสักครั้ง ระบบเนวิเกเตอร์ของรถยนต์ถือว่ายอดเยี่ยมใช้งานง่ายและแม่นยำ ระบบกล้องถอยหลังทำได้ดีแม้จะอยู่ในที่มืดหรือสว่างภาพก็ชัดเจนและมั่นใจขึ้นด้วยเส้นกะระยะ

          มาถึงเรื่องของการขับขี่ เครื่องยนต์ MIVEC สามสูบ ขนาด 1,200 ซีซี ให้พลัง 78 แรงม้า ในการใช้จริงในเมืองแบบสบาย ๆ สามารถเร่งแซงได้ไม่ยาก ยิ่งคิกดาวน์สักหน่อยรถจะพุ่งได้อีกเยอะ ส่วนความเงียบในห้องโดยสารอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยได้ 22 กม./ลิตร^_** สมกับสโลแกนไปได้ไกลกว่า

           _{*ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานยุโรป UNECE Reg.101 Rev.01 Combine Mode}