x close

เรื่องเล่าจากประสบการณ์ เครื่องดี แต่สตาร์ทไม่ติด ??



เครื่องดี แต่สตาร์ทไม่ติด (หนังสือยานยนต์ )

          ปกติถ้าเครื่องยนต์ดีก็ไม่มีปัญหากับการใช้งาน แต่สมัยนี้ก็ไม่แน่ซะแล้ว เครื่องยนต์ที่มีสุขภาพสมบูรณ์อาจจะไม่ยอมทำงานก็ได้ เพราะรถสมัยนี้มีพวกอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์มาวุ่นวายค่อนข้างเยอะ ซึ่งบางครั้งก็ไม่รู้ว่าตัวไหนเกิดขี้เกียจไม่ยอมทำงาน และการตรวจเช็ก ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีเครื่องมือกับข้อมูลที่ใช้สำหรับตรวจเช็กโดยเฉพาะ

          วันก่อนตอนที่นั่งทำงานอยู่บริษัท ก็มีพรรคพวกโทรศัพท์มาบอกว่ารถจอดเสียอยู่สตาร์ทไม่ติด ก็เลยถามกลับไปว่าเป็นรถคันไหน เพราะเพื่อนคนนี้มีรถใช้อยู่หลายคัน อย่างรถหรูประเภท "หน้าเป็นห่วง" ก็มี หรือ “หน้าแปะดาวสามแฉก” ก็มีใช้อยู่ ตามประสาเจ้าของบริษัทก่อสร้างใหญ่โต แต่รถคันที่เจ้าเพื่อนใช้ประจำอยู่จะเป็นรถญี่ปุ่นเก่า ๆ ซึ่งเพื่อนตั้งชื่อมันว่า “ซาลาเปา” วิ่งจนเปลี่ยนเครื่องไปหนนึงแล้ว ตอนนั้นก็มาให้ช่วยแนะนำว่าควรเปลี่ยนเป็นเครื่องรุ่นไหนดี ซึ่งรถคันที่เสียก็คือเจ้า “ซาลาเปา” นั่นเอง เจ้าเพื่อนคนนี้ก็แปลก มีรถหรูหราราคาแพงหลายคันก็ไม่ใช้ เจอที่ไรก็เห็นควบแต่ไอ้ “ซาลาเปา” รถญี่ปุ่นเก่า ๆ นาน ๆ ถึงจะเอารถหรูออกมาวิ่งชาร์จไฟซะที

          สำหรับอาการรถเสียก็ไม่มีอะไร เจ้าเพื่อนขับไปธุระแล้วระหว่างทางรถก็มีอาการเครื่องสำลัก ต่อจากนั้นเครื่องยนต์ก็ดับ แล้วสตาร์ทไม่ติดเท่านั้นเอง โดยตอนแรกที่เครื่องดับ เมื่อสตาร์ทใหม่เครื่องก็ติด แต่พอเข้าเกียร์จะขยับตัวออกรถเครื่องก็ดับ เป็นอยู่ 2-3 ครั้ง แล้วตอนหลังนี่ก็สตาร์ทไม่ติดอีกแล้ว เจ้าเพื่อนก็เลยโทรศัพท์มาถามว่ารถเป็นอะไร จะทำการแก้ไขได้อย่างไร

          เท่าที่ฟังจากคำบอกเล่าของเพื่อน รู้สึกว่างานนี้การแก้ไขคงไม่ง่ายเท่าไหร่นัก จากอาการที่ขับมาดี ๆ แล้วเครื่องยนต์มีอาการสะดุดหรือสำลัก ก็อาจจะเป็นที่คอยล์จุดระเบิดเริ่มเสื่อมทำให้เกิดปัญหาได้ แบบนี้ทิ้งไว้ให้เครื่องเย็นอีกซักพัก อาจจะสามารถสตาร์ติดได้โดยไม่ต้องซ่อมอะไร ส่วนอาการที่บอกว่าเครื่องยังสตาร์ทติด แต่ออกรถแล้วดับ ลักษณะเช่นนี้หากเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบหัวฉีด มักเกิดขึ้นจากท่อทางเดินอากาศรั่วที่จุดใดจุดหนึ่ง แต่ที่ผิดสังเกตคือในที่สุดตอนหลังก็สตาร์ทไม่ติด ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาเรื่องน้ำมันไม่จ่าย ซึ่งตัวการอาจอยู่ที่ตัวปั๊มเอง หรือไส้กรองอากาศอุดตันก็ได้ ซึ่งคิดว่ารถ คันนี้น่าจะมีปัญหาเรื่องระบบจุดระเบิด รวมทั้งปัญหาที่เกิดจากการรั่วของท่ออากาศก็ไม่น่าใช่ ทางที่ดีน่าจะไปเห็นด้วยตาตนเองมากกว่า จึงถามเพื่อนว่ารถเสียอยู่ที่ไหน แล้วจอดตายขวางทางคนอื่นหรือเปล่าเจ้าเพื่อนก็บอกว่ารถเสียอยู่ที่ซึ่งไม่ห่างจากบริษัทที่ทำงานมากนัก น่าจะพอแว่บไปดูอาการรถของเพื่อนได้โดยไม่เสียเวลาส่วนเรื่องจอดรถไม่กีดขวางการจราจร แถวนั้นสามารถจอดรถข้างทางได้ จึงบอกเพื่อนให้รออยู่ที่รถเดี๋ยวจะไป

          เมื่อไปถึงสถานที่ที่เพื่อนรถเสียก็เห็นไอ้ “ซาลาเปา” จอดสงบเสงี่ยมอยู่ข้างทางเลยควบ “ไอ้ตัวดูด” เข้าไปจอดต่อท้าย แล้วมองหาเพื่อนก็ไม่เห็นจึงนั่งรอในรถอยู่ครู่ใหญ่ เจ้าเพื่อนก็ไม่โผล่มาซักที ก็เลยโทรศัพท์ไปตาม ปรากฏว่าเจ้าเพื่อนนั่งจิบ “วุ้น” รออยู่ที่ร้านแถว ๆ นั้น ให้รออยู่ที่จอดรถจะเดินไปหาเอง

รถสตาร์ทไม่ติด

          พอเพื่อนเดินมาถึงก็ขอกุญแจเพื่อนไปทดลองสตาร์ทติดเครื่องยนต์ พร้อมกับคิดอยู่ในใจว่าถ้าปัญหาเกิดจากคอยล์จุดระเบิดเสื่อมอาจจะสตาร์ทติดเครื่องได้เพราะรถจอดนานจนเครื่องเย็นแล้ว แต่ผลปรากฏว่าเครื่องยนต์หมุนแต่ไม่ยอมติดจึงให้เพื่อนช่วยสตาร์ทรถแล้วมาที่ห้องเครื่องเช็คดูว่าเวลาสตาร์ทมีไฟมาหรือเปล่า ก็ปรากฏว่ามีไฟมา ดังนั้นก็เป็นไปตามที่คิดคือปัญหาน่าจะเกิดขึ้นจากระบบเชื้อเพลิงมากกว่า

          ดีที่รถคันนี้เป็นเครื่องหัวฉีดรุ่นเก่า ตัวไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่ในท้องเครื่องหาไม่ยาก ต่างกับรถรุ่นใหม่ที่นิยมเอาไปเก็บไว้ในถังน้ำมัน จะทำอะไรทีก็มักจะต้องรื้อเบาะหลังกัน เพราะนิยมเก็บถังน้ำมันไว้ แถวนั้น ทำให้ยุ่งยากมากเรื่อง แค่เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงก็ลำบากแล้ว ก็คิดอยู่ว่าปัญหาอาจจะเกิดขึ้นจากไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน ซึ่งการแก้ไขก็จะทำ “บายพาส” น้ำมันวิ่งตรงไม่ผ่านตัวรกองน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องมือก็มีในท้ายรถของ “ไอ้ตัวดูด” แล้ว

          เห็นหน้าตาของไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ในสภาพค่อนข้างใหม่ก็เลยถามเพื่อนว่าเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เจ้าเพื่อนนิ่งไปครู่หนึ่งก็บอกว่าเพิ่งเปลี่ยนได้ไม่กี่เดือนเอง

          ลักษณะเช่นนี้คิดว่าตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงคงไม่มีปัญหา เพราะเป็นของยังใหม่อยู่ไม่น่าจะอุดตัน อีกทั้งยี่ห้อก็บอกให้ทราบว่าเป็นของแท้คุณภาพสูง คงไม่ใช่ของปลอมหรือของเลียนแบบ ที่อาจเกิดการอุดตันได้โดยง่าย คราวนี้ก็คงเหลืออยู่ว่าปัญหาอาจเกิดขึ้นจากตัวเรกกูเลเตอร์ที่ควบคุมแรงดันน้ำมัน หรือเป็นที่ตัวปั๊มน้ำมันเสียเลยก็ได้เหมือนกัน

          จากการทดสอบแรงดันน้ำมันอยู่พักใหญ่ พบว่าไม่มีน้ำมันมาเลยแสดงว่าปั๊มน้ำมันที่ติดตั้งอยู่ในถังน้ำมันน่าจะเสีย ซึ่งหมายความว่างานนี้ชักจะวุ่นวาย เพราะต้องรื้อเอาตัวปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในถังน้ำมันออกมาเปลี่ยนหรือทดลองจี้ไฟตรงดูว่าทำงานหรือเปล่า

รถสตาร์ทไม่ติด

          ช่วงที่กำลังคิดว่าจะรื้อปั๊มออกมาทดสอบการทำงาน แล้วถ้าพบว่าเสียก็ต้องไปหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน แบบนี้คงใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ พอนั่งคิดอยู่ครู่ก็เข้าเค้าอยู่เหมือนกัน ก็เลยเปิดสวิทช์กุญแจดูที่แผงมาตรวัด ต่อจากนั้นก็ปิดสวิทช์กุญแจแล้วเดินไปท้ายรถ ยกเบาะหลังออกก็เห็นด้านบนของถังน้ำมัน จึงจัดการถอดรองเท้าออกแล้วเคาะแรง ๆ ไปที่ถังน้ำมันนั่นแหละ เคาะหนัก ๆ อยู่หลายครั้งเหมือนกันจนกระทั่งพอใจ ก็ใส่รองเท้าแล้วเดินกลับมาเปิดสวิทช์กุญแจอีกครั้ง พอเห็นการทำงานของแผงมาตรวัดก็รู้สึกดีใจ จัดการปิดสวิทช์กุญแจแล้วเดินกลับไปหลังรถ ใส่เบาะนั่งด้านหลังให้กลับเข้าที่เหมือนอย่างเดิม ต่อจากนั้นก็บอกเพื่อนว่าจะไปหาซื้ออะไหล่มาซ่อมให้เพื่อนนั่งเฝ้ารถเอาไว้เฉย ๆ อย่าขับรถไปไหนอย่างเด็ดขาด ??!!

          เพียงครู่เดียวก็ควบ “ไอ้ตัวดูด” กลับมา พร้อมกับอะไหล่ที่ซื้อหากลับมาซึ่งเป็นแกลลอนที่มีน้ำมันเต็มเปี่ยมนั่นเอง ต่อจากนั้นก็จัดการเติมน้ำมันเข้าไปในถังน้ำมันของรถเพื่อนจนหมด เรียบร้อยแล้วก็ทดลองสตาร์ทติดเครื่องยนต์ ก็สตาร์ทอยู่ไม่กี่ครั้งเครื่องยนต์ก็ติดขึ้นมา สามารถเร่งได้ตามปกติ

          ไอ้ “ซาลาเปา” รถของเพื่อนคันนี้เครื่องยนต์หรือระบบไม่ได้เสียอะไรหรอก สาเหตุที่สตาร์ทไม่ติดเป็นเพราะน้ำมันหมดเท่านั้นเอง

          สาเหตุที่เพื่อนไม่รู้ว่าน้ำมันหมดเป็นเพราะลูกลอยน้ำมันเกิดค้างทำให้เข็มวัดน้ำมันโชว์ว่ามีน้ำมันเหลืออยู่ใน เพื่อนมีรถใช้หลายคันสลับกันก็เลยจำไม่ได้ว่าเติมน้ำมันนานขนาดไหนแล้ว จึงไม่ได้เอะใจว่าที่รถสตาร์ทไม่ติดเป็นเพราะรถน้ำมันหมดเท่านั้นเอง

          มาเอะใจตอนที่นึกถึงคำพูดของเพื่อนตอนเล่าอาการของรถให้ฟังว่า รถมีอาการเครื่องสะดุดหรือสะอึกแล้วดับ แล้วหลังจากนั้นก็สตาร์ทไม่ติดลักษณะอาการแบบเดียวกันกับรถน้ำมันหมด และอาการรถสตาร์ทไม่ติดเพราะน้ำมันหมดก็เคยเจอมาหลายครั้ง ซึ่งบางครั้งก็เจอว่าเป็นเพราะลูกลอยค้างทำให้ไม่รู้ว่าน้ำมันหมด หรือน้ำมันไม่ถ่ายเทจากถังมาอีกข้าง ก็เลยทดลองเคาะถังน้ำมันแรง ๆ ดู เนื่องจากแรงสะเทือนจะทำให้ลูกลอยที่ค้างขยับหลุดได้ ซึ่งก็ได้ผล เพราะหลังจากการเคาะแล้วไปเปิดสวิทช์กุญแจ ก็พบว่าเข็มของมาตรวัดระดับเชื้อเพลิงชี้มาที่ตัว E พร้อมกับมีไฟเตือนน้ำมันติดโชว์ขึ้นมา ก็เลยแน่ใจว่าปัญหาของไอ้ “ซาลาเปา” รถเพื่อนคันนี้เป็นเพราะน้ำมันหมด จึงควบ “ไอ้ตัวดูด” ไปซื้อน้ำมันมาเติม

          ยังเคยเจออาการรถเสียสตาร์ทไม่ติด ทั้ง ๆ ที่เครื่องยนต์ดีไม่มีอะไรบกพร่องเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการจุดระเบิดหรือการจ่ายน้ำมันก็ตาม พวกระบบ อิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่บกพร่องหรือผิดปกติ แต่กลับเป็นตรงกันข้าม สาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดเป็นเพราะระบบ อิเล็กทรอนิกส์ทำงานเที่ยงตรงเกินไปต่างหาก...!!??

          เมื่อเดือนก่อนมีพรรคพวกเพื่อนสนิทคนหนึ่งมาชวนไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัด คือ ที่บ้านพ่อซึ่งอยู่ต่างจังหวัดนั้นพวกลูก ๆ ได้ช่วยกันออกตังค์สร้างใหม่ให้พ่อ พอเสร็จก็ตามประสาคนต่างจังหวัด ก็มีการทำบุญขึ้นบ้านใหม่เป็นงานใหญ่โต มีเลี้ยงญาติเลี้ยงเพื่อนบ้าน ซึ่งผมก็รู้จักกับพ่อแม่ของเพื่อนเป็นอย่างดี เคยหลบไปนอนจิบ “วุ้น” หลายครั้งแล้ว เพราะที่นั่นอากาศดีเกือบทั้งปี อันที่จริงละแวกนั้นเหมาะจะทำรีสอร์ทมากกว่าไร่ลำไยแบบที่พ่อเพื่อนทำอยู่ พอดีช่วงนั้นรู้สึกเครียดกับการทำงาน ไปนอนเล่นจิบ “วุ้น” พักผ่อนสมองหน่อยก็ดีเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วอยากไปคุยกับน้องสาวคนเล็กของเพื่อนมากกว่า หน้าตาดีผิวขาวผมยาว เพิ่งเรียนจบปีนี้เองและกำลังสอบเป็นครู ตามค่านิยมของคนต่างจังหวัดที่มีความคิดว่าเป็นข้าราชการชีวิตนั่นคงและมีเกียรติ อย่างเพื่อนสนิทคนนี้ก็รับราชการมีตำแหน่งใหญ่โตพอตัวเลยทีเดียว แต่เงินเดือนไม่ค่อยจะชนเดือน อาศัยมีอาชีพเสริมที่ทำรายได้สูงกว่าเงินเดือนก็เลยสบายหน่อย ใจจริงเพื่อนก็อยากออกมาทำอาชีพเสริมเต็มตัว แต่เพื่อเอาใจพ่อก็เลยต้องทำงานรับราชการต่อไป

รถสตาร์ทไม่ติด

          ช่วงนี้การขับรถเดินทางออกจะอึดอัดหน่อย เพราะเค้าห้ามดื่มตอนขับรถเดินทางไม่ว่าจะเป็นคนขับหรือคนโดยสารก็ตาม ถึงจะแน่ใจว่ายังมีประสิทธิภาพสูงในการขับ  แม้จะมีรายการจิบ “วุ้น” กันบ้างก็ตามแต่ก็ต้องทนอดเปรี้ยวปากอยู่หลายชั่วโมงระหว่างเดินทาง เพราะรู้ว่าที่เค้าห้ามก็ด้วยความปรากรถนาดี ให้เกิดความปลอดภัยในการขับรถเดินทางจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคนเดือดร้อนจะเป็นคู่กรณีที่ไม่รู้เรื่องด้วย ก็เลยตัดไฟแต่ต้นลมโดยการห้ามขาดชะเลยเอาชัวร์ดีกว่า

          เพียงแค่ไม่ได้ไปบ้านเพื่อน 2-3 ปีเท่านั้น คราวนี้รู้สึกถนนหนทางเปลี่ยนไปเยอะ ที่เคยเป็นถนนแคบ ๆ ก็กลายเป็นถนน 4 เลน แม้บางช่วงยังไม่เสร็จดีก็ขับได้สะดวกและไปได้เร็วกว่าเดิม แต่ตามประสาคนต่างจังหวัด ที่ขับรถด้วยความเคยชินและเอาสะดวกเข้าว่า ไม่ค่อยจะสนใจเรื่องกฎจราจรซักเท่าไหร่ จึงเจอรถวิ่งสวนทาง หรือจอดอยู่กลางถนนเพ่อรอเลี้ยวโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวเป็นสัญญาณไม่สนใจรถที่ตามหลังมาแต่ประการใด ทำให้การขับต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น ถ้าขับตามหลังรถที่ใช้ป้ายทะเบียนจังหวัดนั้น หรือพวกป้ายไม่ค่อยสมบูรณ์ ตัวรถมีอุปกรณ์ไฟไม่ครบถ้วน อันนี้ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ

          เรื่องแบบนี้พูดยากเหมือนกัน เคยมีอยู่ครั้งขับรถมาตามถนนอยู่ดี ๆ ขณะที่กำลังเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางของชนบทยามเย็นอยู่นั้น ก็ต้องรีบกระทืบเบรกของ “ไอ้ตัวดูด” อย่างเต็มที่จนกระทั่งมีเสียงยางร้องดังลั่น เพราะรถมอเตอร์ไซค์โผล่พรวดจากข้างทางด้านซ้าย แล้วพุ่งตัดหน้าข้ามถนนไปยังฟากตรงข้าม ผลก็คือ “ไอ้ตัวดูด” หมุนคว้างอยู่กลางถนน ดีที่ถนนปลอดโปร่งไม่มีรถวิ่งสวนหรือขับตามหลัง ไม่งั้น “ไอ้ตัวดูด” อาจมีรายการกระจาย ด้วยความตกใจและโมโหพอรถหยดหมุนก็ขับไปจอดไว้ข้างทาง แล้วเดินไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น ที่จอดดูอยู่ริมถนน

          พอไปถึงก็พูดขึ้นว่า ลุงขับรถไม่ระวังแบบนี้ ผมก็แย่น่ะซี่ หากหลบ หรือเบรกไม่ทันชนลุงเข้าก็จะเดือดร้อนลุงก็บาดเจ็บอีกด้วย

          ฝ่ายตาลุงกลับพูดเสียงดัง โดยพูดว่าคนแถวนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่าตาลุงคนนี้จะขับรถข้ามถนนในเวลานี้ทุกวัน มีแต่ผมเป็นคนต่างถิ่นไม่รู้อะไร...อ้าว ผมกลายเป็นฝ่ายผิดที่ไม่รู้ตาลุงต้องขับรถข้ามถนนเวลานี้...??!!

          จากประสบการณ์ที่เจอะเจอ การขับรถตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะตอนเย็นและเป็นถนนที่ไม่ค่อยมีรถ จะเพิ่มความระมัดระวัง ยิ่งเห็นรถมอเตอร์ไซค์หรือรถอีแต๋นอยู่ข้างทาง ก็ต้องใส่ใจดูท่าทีเป็นพิเศษ เพราะอาจโผล่พรวดข้ามถนนโดยไม่สนใจรถอื่นที่วิ่งมาก็ได้ แบบนี้ระวังเอาไว้ก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะเป็นเรื่องยาวขึ้นมาแล้วจะยุ่ง

          สำหรับการเดินทางครั้งนี้ใช้รถของเพื่อนเป็นพาหนะในการเดินทาง เพราะความมีอายุของ “ไอ้ตัวดูด” ทำให้ไม่มีใครไว้ใจในการเดินทาง กลัวว่าจะไปก่อนเหตุด่วนเหตุร้ายกลางทาง แม้จะยืนยันแล้วว่า “ไอ้ตัวดูด” สามารถพาไปได้ทั่วประเทศก็ไม่ยักจะมีใครเชื่อ ซึ่งในการเดินทางก็ผลัดกันขับ โดยรับภาระช่วงการเดินทางระหว่างจังหวัด พอเริ่มเข้าตัวเมืองก็ปล่อยให้เพื่อนขับไปเพราะชำนาญทางมากกว่า

          เมื่อไปถึงที่บ้านเพื่อนก็เห็นผู้คนคับคั่ง มีรายการ “ตั้งวง” อยู่หลายโต๊ะ ก็คงเป็นธรรมเนียมของชาวบ้านละแวกนั้น พอเจอะเจอหน้ายังไม่ทันทักทายอะไรมากนัก ก็ถูกดึงไปนั่ง “ร่วมวง” ซะแล้ว แม้ปากจะพูดคุยทักทายหมู่ญาติของเพื่อน แต่สายตาก็สอดส่ายมองหาน้องสาวเพื่อน แต่ก็หาไม่เจอคิดว่าคงจะอยู่ในครัวมากกว่า จนกระทั่งพักใหญ่น้องสาวเพื่อนทั้งสองคนถึงได้เดินเข้ามาสวัสดี ซึ่งน้อยสาวคนโตเพิ่งแต่งงานออกเรือนไป เหลือแต่น้องสาวคนสวยคนเล็กที่ยังเป็นโสดอยู่ แม้จะไม่ได้เจอหลายปีก็ยังดูน่ารักสดใสเหมือนเดิม

          การพูดคุยของบรรดาญาติสนิทมิตรสหายของพ่อเพื่อนก็ไม่มีอะไรมากก็เป็นการพูดคุยสอบถามถึงอาชีพการงานมากกว่า ต่อจากนั้นก็เป็นการคุยเรื่องใกล้ตัว เรื่องของคนที่เราไม่ค่อยรู้จัก ก็เลยแอบแว่บหลบไปคุยกับน้องสาวคนเล็กของเพื่อนที่อยู่ในครัว

          จนกระทั่งประมาณสองทุ่มกว่า ๆ เท่านั้น งานเลี้ยงก็เริ่มเลิกรา ต่างก็ขอตัวกลับบ้านกัน งานเลี้ยงไม่ยืดเยื้อเหมือนพวกเราที่ว่ากันดึกกว่าจะเลิก หรือบางทีสว่างแล้วยังไม่ยอมเลิกกันเลยก็มี

รถสตาร์ทไม่ติด

          ตอนแยกย้ายกันกลับนี่เองที่เกิดเป็นเรื่องขึ้นเมื่อรถกระบะของญาติคนหนึ่งสตาร์ทไม่ติด ตอนแรกก็ทำเฉย จนกระทั่งเพื่อนมาตามให้ช่วยไปดูรถหน่อยจากการสอบถามในตอนแรกระหว่างเดินไปที่รถ จับความได้นิดหน่อยว่ารู้สึกเหมือนกับมีปัญหาที่กุญแจรถอะไรนี่แหละ ไม่ค่อยชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น คิดว่าคงมีปัญหากับพวกรีโมทเปิดประตูรถอะไรนี่

          พอไปถึงที่รถก็มีคนเล่าเรื่องให้ฟังหลายคน แต่พูดสับสนจนไม่สามารถจับความว่ารถเป็นอะไรรู้แต่ว่ารถสตาร์ทไม่ติดเท่านั้นเอง จึงบอกให้พวกช่วยเลื่อนกระจกลงด้วย เพราะหากเป็นปัญหาจากรีโมท อาจจะทำให้เปิดประตูไม่ได้ ยังไงก็เลื่อนกระจกลงเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนดีกว่า หลังจากนั้นก็สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

          จากการพูดคุยอยู่ครู่ใหญ่ก็ยังสับสนอยู่ เพราะหลายคนขยันตอบเสียจริง จนกระทั่งไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่พอสรุปได้ว่ารถสตาร์ทไม่ติดเท่านั้นเอง

          การสตาร์ทเครื่องยนต์ที่เจ้าของรถแสดงให้ดูนั้น มอเตอร์สตาร์ทหมุนแรงตามปกติ แสดงว่าแบตเตอรี่ดีไม่มีปัญหา รถคันนี้เป็นเครื่องดีเซลจึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องไฟจุดระเบิด กำลังคิดอยู่ว่าปัญหาจะเป็นที่พวกวาล์ว EGR หรือวาล์ว SCV ที่เป็นวาล์วควบคุมแรงดันน้ำมันก็ได้

          บริเวณที่รถจอดอยู่ค่อนข้างมืดเพราะไม่มีไฟ ต้องอาศัยแสงไฟจากบริเวณบ้านสาดส่องมา แต่ในจังหวะหนึ่งมีโอกาสได้เห็นกุญแจรถ ก็พอจะทราบแล้วว่าสาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดเป็นเพราะอะไร

          กุญแจรถที่เห็นเจ้าของรถสตาร์ทมีเฉพาะตัวลูกกุญแจเล็ก ๆ ดอกเดียวเท่านั้น และเป็นเพียงแท่งและเขี้ยวกุญแจเท่านั้นเอง พลาสติคที่หุ้มหัวกุญแจนั้นไม่มี แบบนี้ก็ย่อมสตาร์ทไม่ติดเป็นธรรมดา เพราะระบบกันขโมยทำงานอยู่

          รถสมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะหรือรถเก๋งก็ตาม มีการป้องกันขโมยด้วยระบบกุญแจ Immobilizer ซึ่งมีสัญญาณรหัสติดตั้งเอาไว้ เป็นการป้องกันการสตาร์ทโดยใช้กุญแจปลอม คราวนี้รถของญาติเพื่อนคันนี้ เจ้าของบิดซะตัวหัวหุ้มกุญแจกับลูกกุญแจหลุดจากกัน ดังนั้นการสตาร์ทเฉย ๆ ย่อมไม่ติด เพราะที่ตัวกุญแจไม่มีรหัสสื่อสารกับแม่กุญแจมันจึงเข้าใจว่าเป็นกุญแจปลอมเครื่องก็เลยไม่ติด การแก้ทำได้ง่าย ๆ โดยการนำหัวลูกกุญแจมาใส่เข้ากับตัวกุญแจ เพื่อให้สื่อสารกับระบบ Immobilizer เพียงเท่านี้พอบิดกุญแจสตาร์ท เครื่องยนต์ก็ติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย

 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือยานยนต์
ปีที่ 45 เล่มที่ 565 มิถุนายน 2556


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sevacall เเละ pad2 whstatic





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ เครื่องดี แต่สตาร์ทไม่ติด ?? อัปเดตล่าสุด 17 มิถุนายน 2564 เวลา 10:41:37 31,848 อ่าน
TOP