ดัดแปลงสภาพรถ แค่ไหนต้องขอและไม่ต้องขอกรมขนส่ง

ดัดแปลงสภาพรถแบบไหนบ้างเข้าข่ายต้องแจ้งขออนุญาตที่กรมการขนส่งบางบก แบบไหนดัดแปลงสภาพรถได้โดยไม่ต้องแจ้ง รวมถึงขั้นตอนการยื่นขออนุญาตต้องทำอย่างไรบ้าง

ดัดแปลงสภาพรถ

ภาพจาก : shutterstock.com / nop16

ตามระเบียบกรมการขนส่งทางบก การแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงสภาพรถที่จดทะเบียนไว้ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การกระทำผิดอื่น ๆ ดังนั้น หากมีทำการดัดแปลงสภาพรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ในส่วนที่กำหนด เจ้าของรถจะต้องแจ้งขออนุญาตต่อนายทะเบียน แต่การดัดแปลงสภาพรถแบบไหนต้องขอหรือไม่ต้องขออนุญาตมีอะไรบ้าง และถ้าต้องขอมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร ไปดูกันเลย

ดัดแปลงสภาพรถอะไรบ้างต้องขออนุญาต

การแก้ไขดัดแปลงสภาพรถที่ต้องแจ้งขออนุญาตต่อนายทะเบียน จะต้องเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่ได้จดทะเบียนไว้ ได้แก่

  • เปลี่ยนเครื่องยนต์

  • เปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง

  • ดัดแปลงตัวถังรถ

  • ดัดแปลงระบบรองรับน้ำหนัก ระบบกันสะเทือน (เช่น เสริมแหนบ โหลดเตี้ย ยกสูง เปลี่ยนถุงลมเป็นสปริง หรือสปริงเป็นถุงลม)

  • ติดตั้งโครงหลังคา หรือโครงเหล็กด้านข้างรถ

  • ฝาปิดด้านท้ายติดตั้งอุปกรณ์ทุ่นแรงเพื่อยกสิ่งของ

  • ดัดแปลงระบบบังคับเลี้ยว หรือระบบขับเคลื่อน

  • เปลี่ยนสีรถ

ดัดแปลงสภาพรถอะไรบ้างไม่ต้องขออนุญาต

ส่วนการดัดแปลงสภาพรถที่ไม่ต้องแจ้งขออนุญาต จะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เป็นการเสริมอุปกรณ์เพียงเล็กน้อย โดยไม่ทำให้สภาพของรถเปลี่ยนแปลงไป หากขนาดและตำแหน่งในการติดตั้งเหมาะสม และมีความแข็งแรงปลอดภัยในการใช้งาน รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น เช่น

  • แร็คหลังคา

  • โรลบาร์

  • กันชน

  • สปอยเลอร์

  • พื้นรองกระบะ

ดัดแปลงสภาพรถไม่ขออนุญาตปรับเท่าไหร่

การดัดแปลงสภาพรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 2,000 บาท และไม่เกิน 5,000 บาท หากเป็นรถขนส่ง

ดัดแปลงสภาพรถมีขั้นตอนอย่างไร

ขั้นตอนการแจ้งขออนุญาตทำได้ทั้ง 2 แบบ คือ ขออนุญาตก่อนแก้ไขดัดแปลงสภาพรถ และ ขออนุญาตหลังแก้ไขดัดแปลงสภาพรถ โดยการแจ้งขออนุญาตทั้ง 2 แบบ การดำเนินการจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนตรวจสภาพรถ และ ส่วนของงานทะเบียน ดังนี้

ส่วนตรวจสภาพรถ

กรณีแจ้งขออนุญาตก่อนแก้ไขดัดแปลงสภาพรถ (สำหรับการดัดแปลงที่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย เช่น โครงแชสซีส์ ตัวถัง ระบบบังคับเลี้ยว ระบบกันสะเทือน และช่วงล้อ)

  1. ยื่นคำขอพร้อมเอกสาร

  2. ตรวจสอบเอกสาร / ถ่ายภาพรถ / ลอกเลขตัวถังเก็บไว้เป็นหลักฐาน

  3. หากไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคงแข็งแรงจะให้ยื่นขออนุญาตใช้รถ โดยจะมีการตรวจสอบเอกสารและตรวจสภาพรถอีกครั้ง เพื่อยื่นขอแก้ไขรายละเอียดในการจดทะเบียน (ลงเล่ม) ในส่วนของงานทะเบียนต่อไป

กรณีแจ้งขออนุญาตหลังแก้ไขดัดแปลงสภาพรถ

  1. ยื่นคำขอพร้อมเอกสาร

  2. ตรวจสอบเอกสาร / ตรวจสภาพรถ

  3. หากผ่านการตรวจสอบจะทำการบันทึกข้อมูลการตรวจสภาพรถ เพื่อยื่นขอแก้ไขรายละเอียดในการจดทะเบียน (ลงเล่ม) ในส่วนของงานทะเบียนต่อไป

  4. หากไม่ผ่านการตรวจสอบจะมีการแจ้งข้อบกพร่องและคืนเรื่อง

ส่วนงานทะบียน

  1. ยื่นคำขอพร้อมเอกสาร

  2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบและคำขอ พร้อมผลการตรวจสภาพ

  3. หากเข้าข่ายต้องชำระภาษีสรรพสามิตและมีหลักฐานการชำระภาษีแล้ว หรือไม่ต้องชำระภาษีสรรพสามิต เจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกรายละเอียดการดัดแปลงลงเล่ม

  4. ชำระค่าธรรมเนียมและรับเล่มทะเบียนคืน

กรณียังไม่ยื่นภาษี ให้จัดทำหนังสือนำส่งเอกสารหลักฐานไปยังสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือกรมสรรพสามิต ทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนตอบรับ

ดัดแปลงสภาพรถ

ภาพจาก : shutterstock.com / Car Spotter

ดัดแปลงสภาพรถใช้เอกสารอะไรบ้าง

การแจ้งดัดแปลงสภาพรถเพื่อเปลี่ยนแปลงรายการที่จดทะเบียนในเล่มทะเบียน หรือการขออนุญาตใช้รถที่ทำการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลง ต้องยื่นใบคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนรถพร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

  1. บัตรตัวประชาชนเจ้าของรถ

  2. กรณีนิติบุคคล ใช้หนังสือรับรองนิติบุคคลและเอกสารประจำตัวของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของนิติบุคคล พร้อมหนังสือมอบอำนาจและเอกสารประจำตัวผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (ถ้ามี)

  3. เล่มทะเบียนตัวจริง

  4. รายละเอียดของการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลง

  5. หลักฐานการได้มาของชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่นำมาเปลี่ยนและเอกสารหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบรับรองการนำเข้ากรณีเป็นชิ้นส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ใบเสร็จรับเงินค่าเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ และใบเสร็จรับเงินค่าทำสี ค่าดัดแปลงรถ เป็นต้น

กรณีรถที่บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนและเข้าถือสิทธิแทนผู้เอาประกันภัย ให้แนบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ดังนี้

  1. สำเนาบันทึกประจำวันแจ้งความเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุ

  2. ภาพถ่ายความเสียหายของรถที่เกิดอุบัติเหตุทั้ง 4 ด้าน

  3. บันทึกถ้อยคำเจ้าของรถรับรองเป็นหลักฐานว่าเป็นการซ่อมแซมหรือแก้ไขดัดแปลงจากรถคันเดิมจริง

  4. หนังสือบันทึกรับรองสภาพความเสียหายจากบริษัทผู้รับประกันภัย

สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมส่วนควบ หรืออุปกรณ์สำหรับรถ หรือการดัดแปลงรถ หรือการเพิ่มสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้าไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น เจ้าของรถต้องแจ้งยื่นขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลง ก่อนดำเนินการ และต้องแนบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ดังนี้

  1.  หนังสือรับรองความมั่นคงแข็งแรงของรถและส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์ของรถจากผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเครื่องกล ระดับสามัญวิศวกรขึ้นไป

  2. แบบแปลนและรายการคำนวณ พร้อมด้วยรายละเอียดการตรวจสอบในส่วนที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลง ของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเครื่องกล ระดับสามัญวิศวกรขึ้นไป

  3. ภาพถ่ายตัวรถทั้ง 4 ด้าน ระบุวันเวลา ก่อน ระหว่าง และหลังดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงรถ รวมทั้งภาพถ่ายอุปกรณ์ส่วนควบของรถที่จะทำการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลง

  4. หนังสือรับรองของสถาบันหรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือให้ทำการตรวจสอบ กรณีมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงแชสซีส์ หรือห้องโดยสาร

  5. ภาพถ่ายวิศวกรที่ถ่ายคู่กับรถในระหว่างทำการควบคุมดูแลการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงรถ โดยต้องบันทึกวัน-เวลาให้ปรากฏในภาพถ่าย

อย่างไรก็ตาม การยื่นแจ้งดัดแปลงสภาพรถที่อาจมีผลต่อความมั่นคงปลอดภัยในบางกรณีอาจต้องใช้หลักฐานเพิ่มเติมในกรณีดังต่อไปนี้

  1. กรณีการตรวจสอบเบื้องต้นไม่สามารถยืนยันความถูกต้องแท้จริงของรถได้ ต้องใช้หนังสือยืนยันผลการตรวจพิสูจน์รถจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

  2. กรณีที่มีความสงสัยที่มาของชิ้นส่วนอุปกรณ์ ต้องมีหลักฐานการตรวจสอบดัชนีของหายจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

  3. กรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงรถ ในลักษณะที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นรถคันเดียวกันกับที่จดทะเบียนไว้แล้ว ต้องใช้หนังสือยืนยันความถูกต้องแท้จริงตัวรถของผู้ผลิตหรือประกอบรถ

  4. กรณีที่เข้าตามหลักเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี หรือหลักฐานการได้รับยกเว้นภาษี ต้องมีหลักฐานการเสียภาษีสรรพสามิต

  5. หลักฐานอื่นตามที่ระบุไว้ในการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงรถแต่ละกรณี

ทั้งนี้ สำหรับการดัดแปลงสภาพรถทั่วไป มีทั้งต้องแจ้งและไม่ต้องแจ้งขออนุญาตกรมการขนส่งทางบก และกรณีที่การดัดแปลงนั้นไม่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยจะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่หากต้องการดัดแปลงส่วนใดของรถที่กระทบต่อความปลอดภัยต้องแจ้งขออนุญาตกับกรมการขนส่งทางบกก่อนเท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน่ารู้รถยนต์

ขอบคุณข้อมูลจาก : dlt.go.th
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดัดแปลงสภาพรถ แค่ไหนต้องขอและไม่ต้องขอกรมขนส่ง อัปเดตล่าสุด 21 กันยายน 2566 เวลา 17:14:56 37,554 อ่าน
TOP
x close