แมวตกใส่รถ รถยนต์เกิดความเสียหาย เป็นรอยขีดข่วนจากสัตว์ หรือถูกสิ่งของหล่นใส่ต้องทำอย่างไร เคลมประกันได้ไหม และถ้ากรณีไม่มีประกันควรทำอย่างไร
จากเหตุการณ์ที่เป็นไวรัลบนโลกโซเชียลกรณีมีน้องแมวตกใส่รถ ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง แม้เจ้าเหมียวจะโชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ แต่รถยนต์ซึ่งจอดอยู่ด้านล่างได้รับความเสียหายกระจกบานหลังแตก ทำให้เกิดคำถามหรือข้อสงสัยตามมาว่า หากเกิดเหตุการณ์สัตว์เลี้ยงตกใส่รถจนเกิดความเสียหาย รวมถึงถูกสิ่งของร่วงหล่นใส่ ต้องทำอย่างไร แจ้งเคลมประกันได้หรือไม่ ถ้าหากไม่ได้ทำประกันไว้ต้องดำเนินการอย่างไร เรามีข้อมูลมาฝาก
แมวตกใส่รถ รถเกิดความเสียหายจากสัตว์ สิ่งของหล่นใส่ ทำอย่างไร ?
หากเกิดเหตุการณ์แมวตกใส่รถ รถยนต์เกิดความเสียหายจากสัตว์ หรือถูกสิ่งของหล่นใส่ ถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง หากรถยนต์คันดังกล่าวทำประกันภัยรถยนต์ไว้ (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1) เจ้าของรถสามารถแจ้งเคลมได้ตามปกติ หากทราบถึงคู่กรณีที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของที่ร่วงหล่นใส่รถ บริษัทประกันภัยรถยนต์จะเรียกเก็บค่าเสียหายจากบุคคลนั้น แต่ถ้าสัตว์หรือสิ่งของชนิดนั้น ๆ ไม่มีผู้ครอบครอง เจ้าของรถก็อาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ก่อนนำรถเข้าเคลมซ่อมที่อู่ หรือศูนย์บริการตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
กรณีที่ไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ ลำดับแรกให้หาตัวเจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของชิ้นนั้น ๆ ที่ทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย พร้อมแจ้งเหตุให้บุคคลนั้นรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เจ้าของสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงออกไปที่สาธารณะโดยไม่ควบคุม
หากเป็นสิ่งของที่ร่วงหล่นมาจากคอนโดหรืออาคารสูงต่าง ๆ เจ้าของห้องนั้น ๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายตามกฎหมาย มาตรา 436 บุคคลผู้อยู่ในโรงเรือนต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดเพราะของตกหล่นจากโรงเรือนนั้น หรือเพราะทิ้งขว้างของไปตกในที่อันมิควร และมาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับรถยนต์ที่ไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ และไม่สามารถตามหาเจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของดังกล่าวได้ เจ้าของรถก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าซ่อมแซมด้วยตัวเอง
ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร
การประกันภัยรถยนต์ จัดเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งประกอบไปด้วยความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ และความเสียหายที่รถยนต์ได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
การประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. ที่ทางภาครัฐบังคับให้รถทุกคัน ทุกประเภท ต้องทำเพื่อคุ้มครองตัวบุคคล
การประกันภาคสมัครใจ คือ การทำประกันที่เกิดขึ้นตามความสมัครใจของเจ้าของรถ ซึ่งก็คือแบบประกันที่เจ้าของรถเป็นผู้เลือกซื้อเพิ่มนอกเหนือจากประกันภาคบังคับนั่นเอง โดยส่วนมากประกันภาคสมัครใจจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งรถและผู้ประสบเหตุมากกว่าภาคบังคับ มีวงเงินคุ้มครองและสิทธิพิเศษอื่น ๆ มากกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายมากกว่าภาคบังคับด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ประกันภัยรถยนต์ มีกี่ประเภท
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ดียังไง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมในทุกกรณี และมากกว่าการประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ โดยจะคุ้มครองทั้งผู้เอาประกัน ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอก อีกทั้งยังคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ใช้รถทุกประเภท แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าเบี้ยประกันที่สูง โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก
-
ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ของบุคคลภายนอก (คู่กรณี)
-
ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกัน
-
คุ้มครองกรณีรถยนต์หาย ไฟไหม้รถ น้ำท่วมรถ
-
คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุเองโดยไม่มีคู่กรณี หรือไม่ได้เกิดการชนกับยานพาหนะทางบก เช่น ชนเสาไฟฟ้า ชนกำแพง ชนกระถางต้นไม้ เป็นต้น
ความคุ้มครองเพิ่มเติมอื่น ๆ
-
ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
-
ค่าชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก
-
เงินค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ทั้งนี้ เจ้าของรถยนต์ทุกคนควรที่จะทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้ เพื่อเป็นหลักประกัน รวมถึงให้ความคุ้มครองหากเกิดเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ขึ้นนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยรถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : azay.co.th, oic.or.th