x close

ค่าต่อภาษีรถ 2567 ทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ราคาเท่าไร มีวิธีดำเนินการอย่างไร

ค่าต่อภาษีรถ 2567 รวมข้อมูลรายละเอียดค่าต่อภาษีรถยนต์ ค่าต่อภาษีรถจักรยานยนต์แต่ละประเภทต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ต้องเตรียมเอกสารอะไร และสามารถต่อภาษีได้ที่ไหนบ้าง

 

ในทุก ๆ ปี เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีรถ หรือมักเรียกกันว่า ต่อภาษีรถยนต์ ไม่ก็ต่อทะเบียนรถ แน่นอนว่าสิ่งที่เจ้าของรถจำเป็นต้องเตรียมคือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีว่าะต้องเสียภาษีเท่าไหร่ เพราะรถแต่คันแต่ละประเภทมีอัตราการคำนวณที่ต่างกัน หากใครยังไม่ทราบว่ารถของตนเองนั้นแต่ละปีต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ คิดอย่างไรลองไปดูกันเลย

ภาษีรถยนต์แต่ละประเภท

สำหรับรถยนต์แต่ละประเภทนั้นมีกำหนดอัตราค่าภาษี และวิธีจัดเก็บ คำนวณภาษีแตกต่างกันไป ดังนี้

จัดเก็บตามความจุกระบอกสูบ (ซีซี) ได้แก่

  1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

จัดเก็บเป็นรายคัน ได้แก่

  1. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
  2. รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
  3. รถพ่วงของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
  4. รถพ่วงประเภทอื่น ๆ คันละ 100 บาท
  5. รถบดถนน คันละ 200 บาท
  6. รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท

จัดเก็บตามน้ำหนัก ได้แก่

  1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
  2. รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์บริการ
  3. รถยนต์รับจ้าง
  4. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถลากจูง รถแทรกเตอร์ที่มิได้ใช้ในการเกษตร

การจัดเก็บภาษีรถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า

  1. หากเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้เก็บภาษีตามน้ำหนักของรถในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
  2. กรณีเป็นรถประเภทอื่นให้จัดเก็บเป็นรายคันหรือจัดเก็บตามน้ำหนักในอัตราครึ่งหนึ่ง

ต่อภาษีรถยนต์ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ในส่วนของรถยนต์นั่งทั่วไป หรือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่งนั้น จะจัดเก็บภาษีตามความจุกระบอกสูบ (ซีซี) ดังนี้

  • ความจุกระบอกสูบ 600 ซีซี แรก คิด ซีซี ละ 0.50 บาท
  • ความจุกระบอกสูบ 601-1,800 ซีซี คิด ซีซี ละ 1.50 บาท
  • ความจุกระบอกสูบ เกินกว่า 1,800 ซีซี คิด ซีซี ละ 4.00 บาท

หมายเหตุ : หากเป็นรถของนิติบุคคลที่มิได้เป็นผู้ให้เช่าซื้อ จะต้องเสียภาษีในอัตราสองเท่า

ทั้งนี้หากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อ ๆ ไป ดังนี้

  • ปีที่ 6 ร้อยละ 10
  • ปีที่ 7 ร้อยละ 20
  • ปีที่ 8 ร้อยละ 30
  • ปีที่ 9 ร้อยละ 40
  • ปีที่ 10 และปีต่อ ๆ ไป ร้อยละ 50
ตัวอย่างการคำนวณภาษีรถกระบะ 4 ประตู เครื่องยนต์ขนาดความจุกระบอกสูบ 2,755 ซีซี
  1. 600 ซีซี แรก คิด ซีซี ละ 0.50 บาท วิธีคิด 600 x 0.5 = 300 บาท
  2. 601-1,800 ซีซี คิด ซีซี ละ 1.50 บาท วิธีคิด (1,800 - 600) = 1200 x 1.50 = 1,800 บาท
  3. 1,801-2,755 ซีซี คิด ซีซี ละ 4 บาท วิธีคิด (2,755-1,800) = 955 x 4 = 3,820

นำตัวผลลัพธ์ของแต่ละช่วง ซีซี มาบวกกัน - 300+1,800+3,820 = 5,920 บาท

กรณีที่รถมีอายุการใช้งานเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป ก็จะได้รับการลดหย่อนภาษีตามเกณฑ์ เช่น

  • เมื่ออายุรถเข้าปีที่ 6 นำ 5,920-10% = 5,328 บาท
  • เมื่ออายุรถเข้าปีที่ 7 นำ 5,920-20% = 4,736 บาท
  • เมื่ออายุรถตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป 5,920-50% = 2,960 บาท

ต่อภาษีรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง

  1. คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนา
  2. หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เรียกว่า หาง พรบ.
  3. หากเป็นรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพให้นำเข้าตรวจกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งได้แก่
    - รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
    - รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
    - รถที่ติดตั้งแก๊สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนด

ต่อภาษีรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง

ในปัจจุบันเจ้าของรถสามารถดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ได้หลากหลายช่องทาง ดังนี้

  • สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ (ไม่ว่ารถจะจดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ตาม)
  • ที่ทำการไปรษณีย์
  • ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ "ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)"
  • จุดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ

    ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ต่อภาษีรถยนต์ 2567 ที่ไหนได้บ้าง 

ต่อภาษีรถยนต์ มีขั้นตอนอย่างไร

          สำหรับขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ประจำปีนั้นสิ่งแรกที่จะต้องเตรียมให้พร้อมก็คือ พ.ร.บ.รถยนต์ หากเป็นรถใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี และยังไม่มี พ.ร.บ. สามารถนำเอกสาร สำเนาทะเบียนรถ หรือเล่มจริง และสำเนาบัตรประชาชน ซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ ได้ที่จุดให้บริการต่าง ๆ เช่น บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทั่วประเทศ, ตัวแทนประกันภัย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 หากรถมีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน เมื่อมี พ.ร.บ. หรือใบตรวจสภาพรถเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดดำเนินการชำระภาษีประจำปีได้ที่จุดให้บริการต่าง ๆ ได้เลย

ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

การต่อภาษีรถประจำปีปัจจุบันมีหลากหลายวิธีมากขึ้น และการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ก็น่าจะเป็นช่องทางที่สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้รถทุกประเภท โดยกรมการขนส่งทางบก ได้เปิดให้บริการชำระภาษีรถประจำปี ผ่านเว็บไซต์ eservice.dlt.go.th ซึ่งรวมเอาการต่อ พ.ร.บ. และภาษีรถให้ครบจบในทีเดียวด้วย คลิกเพื่อดูรายละเอียดได้ที่ วิธีต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

ต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้กี่วัน

กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ 90 วัน ก่อนครบอายุภาษี โดยเมื่อเตรียมเอกสารหลักฐานเรียบร้อยแล้วสามารถเลือกใช้บริการช่องทางต่าง ๆ ได้โดยมีเงื่อนไขคือ

  • หากเป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ได้ทันที
  • ส่วนรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพก่อนชำระภาษี แนะนำให้ใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax), บริการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) ที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์, ที่ทำการไปรษณีย์ หรือธนาคารที่ร่วมโครงการกับกรมการขนส่งทางบก หรือที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ

ต่อภาษีรถยนต์ช้า ค่าปรับเท่าไหร่

การชำระภาษีรถประจำปีล่าช้าจะมีค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน และหากขาดการติดต่อกันเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียน อย่างเช่น การโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถได้ 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ค่าต่อภาษีรถ 2567 ทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ราคาเท่าไร มีวิธีดำเนินการอย่างไร อัปเดตล่าสุด 4 มกราคม 2567 เวลา 15:58:33 629,948 อ่าน
TOP