ช่วยได้อีกทาง...ใช้รถเท่าที่จำเป็น ลดสภาวะค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่นละออง PM2.5 หลายพื้นที่สูงเกินมาตรฐาน ทุกคนช่วยได้เริ่มจากใช้รถยนต์เท่าที่จำเป็น บำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เพราะเขม่าไอเสียจากรถยนต์โดยเฉพาะดีเซลเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เข้าขั้น “ไม่ปลอดภัย”

เข้าขั้นวิกฤตมากขึ้นทุกทีที่สูดอากาศหายใจสำหรับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถเล็ดลอดเข้าไปตามระบบทางเดินหายใจและเป็นอันตรายกับมนุษย์ เสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “รถยนต์” โดยเฉพาะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ เพราะฉะนั้นนอกจากการป้องกันแล้ว ทุกคนสามารถช่วยลดค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานลงได้ เริ่มจากที่ตัวเองง่าย ๆ ดังนี้

• ลดจำนวนการใช้งานหรือใช้เท่าที่จำเป็น ซึ่งจะช่วยลดมลพิษในภาพรวมไม่ใช่แค่ค่าฝุ่นละออง
• ไม่เร่งเครื่องยนต์ขณะสตาร์ตโดยไม่จำเป็น
• ขับรถอย่างนุ่มนวล ไม่ออกตัว-เบรก อย่างรุนแรงหรือรวดเร็วจนเกินจำเป็น ซึ่งเปลืองพลังงานและยังเพิ่มปริมาณไอเสีย
• ขับรถให้ช้าลง ยิ่งขับเร็ว ยิ่งเปลืองและเพิ่มอัตราการปล่อยมลพิษ
• ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด
• รถรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องวอร์มเครื่องยนต์แล้ว สามารถใช้งานได้ทันที เพียงแต่ช่วงก่อนเครื่องยนต์จะถึงอุณหภูมิทำงานให้ขับอย่างนุ่มนวลก็เพียงพอ

นอกจากนี้ควรตรวจเช็กหรือสังเกตอัตราสิ้นเปลืองเป็นประจำ หากพบว่ารถยนต์กินน้ำมันมากกว่าปกติอาจมีความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น รวมถึงการนำรถเข้าตรวจเช็ก บำรุงรักษาตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด (ระบุในคู่มือประจำรถยนต์) เช็กแรงดันลมยางให้ถูกต้อง ไม่ขนของที่ไม่จำเป็นติดไว้ในรถยนต์ เพื่อให้รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ซึ่งเมื่อรถยนต์ใช้เชื้อเพลิงสูงก็จะปล่อยมลพิษสูงเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซลที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยจะปล่อยอนุภาคขนาดเล็กจำนวนมาก (เขม่า ส่วนหนึ่งของปัญหา PM2.5) ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ออกมามากกว่ารถยนต์เบนซิน แม้รถยนต์ดีเซลรุ่นใหม่จะมีตัวกรองไอเสีย ไปจนถึงระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation) เพื่อเอาไอเสียวนกลับไปเผาไหม้ใหม่ด้วยแล้วก็ตาม (ที่กระบะแต่งชอบอุด EGR หวังให้รถแรงขึ้นโดยไม่สนมลพิษ)

จริงอยู่ว่าปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤตตอนนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย แต่ที่แน่ ๆ ส่งผลโดยตรงกับสุขภาพ เพราะคนเราต้องการอากาศหายใจตลอดเวลา ซึ่งมีรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้นในเมื่อตอนนี้ยังเลิกที่จะไม่ใช้ไม่ได้ก็ควรใช้เท่าที่จำเป็นอย่างระมัดระวังมากที่สุด

ข้อมูลอ้างอิง : lbhf.gov.uk