Toyota Hilux เจนเนอเรชั่นที่ 1 ปี คศ. 1968-1972




Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 2 ปี คศ. 1972-1978



เจเนอเรชั่นที่สองของ Toyota Hilux มีให้เลือกทั้งแบบช่วงสั้นและช่วงยาวตั้งแต่เริ่ม เพราะ Toyota Hilux รุ่นแรกได้รับความนิยมสูง มีฐานล้อยาวขึ้นแต่กระบะท้ายรถนั้นยังมีพื้นที่และน้ำหนักบรรทุกเท่าเดิม ระบบเบรกได้รับการปรับปรุงใหม่
สำหรับตลาดโลกมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายขนาดทั้ง 2.0 และ 2.5 ลิตร (ในรุ่น SR5) จากนั้นในปี 1975 Toyota ได้ปลดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ออกจากทุกตลาด แล้วแทนที่ด้วยขนาด 1.6 ลิตร เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่ช่วงนั้น
Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 3 ปี คศ. 1978-1983


Toyota Hilux ในรุ่นที่ 3 เริ่มถูกปรับเพื่อการใช้งานแบบรถยนต์นั่งมากขึ้น มีการนำเสนอรุ่นย่อยใหม่ Super Deluxe ซึ่งมาพร้อมกับตัวถังแบบ Extended Cab (แค็บยาวกว่ารุ่นมาตรฐาน 90 มม. เพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารแค่เล็กน้อย ยังไม่ได้กว้างจนมุดเข้าไปนั่งได้แบบปัจจุบัน) จากนั้นจึงมีรุ่น Double-Cab 4 ประตู เบาะ 2 ตอน ตามออกมา เพราะตลาดรถกระบะเพื่อการโดยสารกำลังบูมในสหรัฐฯ
Toyota Hilux รุ่นที่ 3 ได้เปลี่ยนระบบกันสะเทือนหน้าจากปีกนกสองชั้นคอยล์สปริงมาเป็นทอร์ชั่นบาร์ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร (R-Series) จากรุ่นก่อนหน้า และเป็นครั้งแรกที่ Toyota Hilux มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (เปิดตัวในปี 1979) ชุดเกียร์ยกมาจาก Toyota Land Cruiser J40 ใช้ขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร และดีเซล (L-Series) 2.2 ลิตร
Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 4 คศ. 1983-1988



ถ้าคนไทยคงรู้จักในชื่อติดปากอย่าง Toyota Hilux Hero และเป็นโฉมที่ฮิตมากในตลาดโลก โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมีขุมพลังเบนซินให้เลือก ตั้งแต่ 1.6, 1.8, 2.2 ลิตร และดีเซล 2.4 ลิตร ขณะที่รุ่นขับ 4 ล้อ มีเบนซิน 2.0 ลิตร และดีเซล 2.4 ลิตร ให้เลือก
นอกจากนี้ Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 4 ยังเป็นช่วงที่ขยับเข้าไปในกลุ่ม SUV ด้วยการเปิดตัว Toyota Hilux Surf (หรือ 4Runner) ตัวถังแบบ 3 ประตู ช่วงสั้น เบาะ 2 แถว (เบาะหลังพับได้) มีหลังคาครอบท้ายกระบะ พร้อมความสามารถในเชิงออฟ-โรดแบบ Toyota Land Cruiser มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบ และเบนซิน วี 6 สูบ 3.0 ลิตร ให้เลือก
Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 5 คศ. 1988-1997


ยุคของ Toyota Hilux Mighty-X ในไทย ซึ่งรถกระบะให้ความสะดวกสบายแบบรถยนต์นั่งได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในแง่การใช้งานและดีไซน์ (เช่นแผงหน้าปัด) กระจกมองข้างถูกย้ายขึ้นไปรวมกับกรอบกระจก หนึ่งในดีเทลที่แสดงความเป็นรถกระบะยุคใหม่และยุคนี้มีมาตรฐานการป้องกันการเกิดสนิมสูงขึ้น
นอกจากนี้ Toyota Hilux โฉมนี้สำหรับตลาดโลกมีทางเลือกหลากหลายทั้งระบบขับเคลื่อนและขุมพลัง อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานของ Toyota Hilux Surf (4Runner) เจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งมีทั้งแบบตัวถัง 5 ประตู และ 3 ประตู (ซึ่งแบบหลังจัดเป็นแรร์ไอเทม หายากมาก เพราะมีผลิตแค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น) ระบบกันสะเทือนหลังยังเป็นแบบคอยล์สปริงด้วย (เฉพาะ Toyota Hilux Surf /4Runner)
Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 6 คศ. 1997-2004


ในไทยใช้ชื่อทำตลาดว่า Toyota Hilux Tiger ชูโครงสร้างนิรภัย GOA ระบบกันสะเทือนไทเกอร์เบอร์ลินอาย ติดตั้งเบรก ABS ขนาดตัวก็ใหญ่โตขึ้น สูงขึ้นและภายในห้องโดยสารก็เงียบขึ้นด้วย ดีไซน์โดยรวมมีความเป็นรถ SUV ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง
ส่วนขุมพลัง Toyota Hilux รุ่นที่ 6 (ตลาดโลก) มีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน 2.0 และ 2.7 ลิตร ขณะที่ดีเซลมีแบบ 2.4 และ 3.0 ลิตร ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกครบทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ นอกจากนี้ Toyota Hilux โฉมนี้ ยังถือเป็นต้นกำเนิดของรถ PPV ของ Toyota ในไทย ซึ่งใช้ชื่อว่า Toyota Sport Rider และได้รับความนิยมมากพอสมควรก่อนจะกลายเป็น Toyota Fortuner ในรุ่นต่อมา


Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 7 คศ. 2004-2015


Toyota Hilux เจเนอเรชั่นที่ 8 คศ. 2015-ปัจจุบัน



Toyota Hilux โฉมนี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับ Toyota จากความสำเร็จของรุ่นก่อนหน้า โดยการพัฒนา Toyota Hilux ใหม่ หรือ Toyota Hilux Revo ต้องเก็บข้อมูลจากลูกค้าทั่วโลกและทดสอบการขับขี่ในสภาพถนนที่มีความหลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งานมากที่สุด
นอกจากความทนทาน Toyota Hilux รุ่นนี้ ยังถูกกำหนดให้เป็นรถกระบะที่ขับสบายไม่เครียดสำหรับการเดินทางไกล เสียงรบกวนภายในห้องโดยสารต่ำ ซึ่งเสียงจากเครื่องยนต์เข้ามาน้อยลงจากรุ่นก่อนหน้ามาก ส่วนเสียงลมทำได้ดีตั้งแต่สมัย Toyota Hilux Vigo แล้วและดีกว่ารถยนต์นั่งหลายรุ่น แม้ว่าภาพรวมของ Toyota Hilux รุ่นนี้ในไทย ความร้อนแรงอาจไม่เท่ากับตอนที่ Toyota Hilux Vigo เปิดตัวก็ตาม
ทั้งหมดก็เป็นภาพและรายละเอียดบางส่วนของ Toyota Hilux เจนเนอเรชั่นที่ 1-8 ซึ่งมีจำหน่ายในบ้านเรามาแล้วครบทุกโฉม แม้อาจไม่ครบทุกแบบ ทุกรุ่นย่อย รวมถึงขุมพลังอาจแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ใครทันรุ่นไหนหรือเคยมีความประทับใจกันเป็นพิเศษก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ Toyota Hilux จัดว่าเป็นรถกระบะที่ภาพลักษณ์แข็งแกร่ง อยู่คู่กับผู้ใช้รถมาหลายทศวรรษ อย่างน้อยที่สุดก็ในแง่ของการเป็นรถที่คนไทยและทั่วโลกไว้วางใจเป็นอันดับต้น ๆ
ภาพจาก Toyota