x close

รีวิว Toyota C-HR 2018 หัวหอกใหม่ ไฮบริดรุ่น 4 ไม่เน้นพุ่ง มุ่งสู่ความประหยัด



          รีวิว Toyota C-HR 2018 รุ่นท็อป ขุมพลังไฮบริด HV Hi เจเนอเรชั่นที่ 4 เทสไดร์ฟ Toyota C-HR 2018 ใหม่ ขับบนเส้นทาง ลำปาง-น่าน ระยะทางร่วม 220 กม.
Toyota C-HR 2018

          โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ( Toyota C-HR) เป็นรถที่มีกระแสตอบรับดีเอามาก ๆ ตั้งแต่เป็นคอนเซ็ปต์คาร์ ในงาน Paris Motor Show ปี 2014 มีความหวือหวา ทรงดูแปลกมีความแตกต่าง ปีต่อมาที่งาน Frankfurt Motor Show 2015 คอนเซ็ปต์คาร์รุ่น 2 สู่สายตาชาวโลก พร้อมการอธิบายว่านี่แหละ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (Toyota C-HR) ที่ใกล้รุ่นโปรดักชั่นมากที่สุด อีกไม่นานก็ปล่อยโฉมจริงสำหรับจำหน่าย ใคร ๆ ที่ได้เห็นต้องมีเอ๊ะ นี่ใช่โตโยต้าแน่นะ

          จากนั้นก็รอกันกว่า 3 ปี กว่า ​โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (Toyota C-HR) เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 ก็เริ่มทำการส่งมอบรถล็อตแรกให้กับลูกค้า หลังจากที่ส่งรถล็อตแรกไปก็เริ่มจัดให้สื่อมวลชนได้ทดสอบ โดยกระปุกคาร์ก็ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมในทริปทดสอบเส้นทาง ลำปาง-น่าน ​ระยะทางร่วม 220 กม.

Toyota C-HR 2018

          C-HR ย่อมาจาก "Coupe High Ride" บ่งบอกสไตล์รถอย่างชัดเจน ที่เปิดประตูสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ถูกซ่อนไว้บริเวณเสาซีของรถอย่างแนบเนียนให้ดูเป็นรถยนต์ 2 ประตู คูเป้ ผสานเข้ากับความเป็นครอสโอเวอร์ยกสูง

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

​          สืบถอด​ Concept ดีไซน์แบบ เพชร ทำให้ตัวถังรถมีเส้นสายที่ลึกและชัด เป็นหลี่ยมสัน และไม่ใช่เพียงภายนอก ในห้องโดยสารก็ยังใช้ดีไซน์แบบเพชรเป็นกิมมิกซ่อนไว้ในหลายจุด เช่น สวิตช์ควบคุม การบุหลังคาภายใน ลวดลายที่เบาะ และการตกแต่งที่แผงประตู

โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (Toyota C-HR) มี 4 องค์ประกอบที่สำคัญ

          - แพลตฟอร์ม TNGA หรือ Toyota New Global Architecture  เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของนักกีฬา ความแข็งแรงด้านโครงสร้างจะทำให้เคลื่อนไหวได้ดีมั่นคง ให้จุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำอาการโคลงของรถก็น้อยตามไปด้วย ช่วงล่างหลังแบบ Double Wishbone หรือปีกนกคู่โดดเด่นเรื่องความนุ่มนวล นี่เป็นรถยนต์จากโตโยต้าที่จำหน่ายในไทยกับ  TNGA อนาคตจะได้เห็นใน Camry เจเนอเรชั่นใหม่ (เตรียมตัวทำตลาดเร็ว ๆ นี้)  และ Corolla Altis ในปีหน้า

Toyota C-HR 2018

          - ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่พัฒนาขึ้น เดิมเป็นเจเนอเรชั่น 3 ถูกใช้ใน Toyota Prius ให้การจัดการพลังงานแบตเตอรี่ดีขึ้น มีความทนทานขึ้น ด้วยการออกแบบให้ระบายความร้อนดีกว่าเดิม ช่วงความเร็วเสริมกำลังเครื่องยนต์ มีโหมด EV สามารถทำความเร็วด้วยพลังไฟฟ้าได้ ไม่เกิน 60 กม./ชม. โหมดปรกติโตโยต้าเคลมมาว่าให้สมองกลคำนวณเอง บางจังหวะถึง 110 กม./ชม. ระบบไฮบริดก็เสริมกำลังได้

          - ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ความปลอดภัยยุคใหม่ อยู่ในเกณฑ์ Autonomous car LV.1 ระบบช่วยเตือนก่อนชน Pre-Collision System หากความเร็วรถมากกว่า 50 กม./ชม. ขึ้นไประบบจะทำงานช่วยชะลอให้ความเร็วเหลือประมาณ 38 กม./ชม. ประมวลผลสั่งระบบเบรกเตรียมพร้อม แจ้งเตือน (Alert) และพร้อมให้เราควบคุมรถต่อเอง, ระบบ Dynamic Radar Cruise Control เมื่อตั้งความเร็วสามารถ ลด-เพิ่มความเร็วรถ รักษาระยะห่างคันหน้าไว้ให้ และ Lane Departure  with Steering Assist ตรวจจับรถออกนอกเลนถนน ช่วยหน่วงพวงมาลัย มีแรงดึงกลับเข้าเลนให้เล็กน้อย

Toyota C-HR 2018

          - T-Connect Telematics ที่ประยุกต์ระบบ GPS และอินเทอร์เน็ตเข้ากับรถ สร้างความสามารถหลากหลายและเชื่อมต่อ ส่งข้อมูลให้สมาร์ทโฟน

          โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (Toyota C-HR) ในประเทศไทย มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย 1.8 Entry และ 1.8 Mid เป็นเครื่องยนต์ สันดาปล้วน 1.8 ลิตร แบบเดียวกับใน  Corolla Altis ส่วน HV Mid และ HV Hi เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรผสานกำลังกับระบบไฮบริด

          ในการทดสอบครั้งนี้เป็น Toyota C-HR HV Hi รุ่นท็อปสุด ลองระบบไฮบริดและออปชั่น Toyota Safety Sense

          อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกที่น่าสนใจ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Full LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ และยังปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ที่เป็นไฟเลี้ยวไล่ระดับจากในมานอก บอกทิศทางและสวยงาม เสมือนรถยุโรปหรู ๆ

          ที่เปิดประตูผู้โดยสารตอนหลัง แม้จะไม่ใช้รถยนต์รุ่นแรกในไทย ที่วางดีไซน์ออกมาซ่อนบริเวณเสาซี แต่จัดวางที่เปิดเป็นแนวนอนรุ่นแรกเปิดสะดวกกว่าจริง ๆ ก็อยากชมในจุดนี้

Toyota C-HR 2018
 
          ภายในห้องโดยสาร ชอบดีไซน์ของเบาะ หนักพิงหัวดีไซน์ออกมาดูเหมือนเป็นชิ้นเดียวกับเบาะ ไม่มีก้านลอย ๆ ดูสปอร์ต ดูแพงดี ให้อารมณ์ Bucket Seat ขึ้นไปอีกขั้น

Toyota C-HR 2018

          ผู้ขับเป็นศูนย์กลาง ชุดคอนโซลจึงมีดีไซน์เอียงหน้ามาทางผู้ขับเล็กน้อย ตำแหน่งจากผู้ขับขี่ให้ทัศนวิสัยดีมาก ดูโปร่งด้วยโครงสร้างเสาเอของรถที่เพรียวเล็ก

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

          เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยมือทั้งหมด สำหรับผู้ขับมีที่ดันหลังไฟฟ้า หากต่ำแหน่งเบาะการปรับอยู่ปรกติ ผู้ทดสอบเข่าขวามีชนคอนโซลหน้าเล็กน้อย (ผู้ทดสอบความสูงประมาณ 176 ซม.)

          เบาะด้านหลังนั่งได้พอดีทั้งพื้นที่เหนือเข่า และพื้นที่เหนือศีรษะ มีความรู้สึกอึดอัดจากดีไซน์ที่กระจกบีบหด ดูทึบ รวมถึงหลังคาที่กำลังลาดลงมา ทั้งหมดนี้ก็แลกมากับภายนอกที่โฉบเฉี่ยวสไตล์คูเป้

Toyota C-HR 2018

          ถึงการขับขี่ ด้วยขุม Toyota C-HR HV Hi เป็นเครื่องยนต์เบนซินรหัส 2ZR-FXE ความจุ 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ และแรงบิดอีก 163 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮดรายความจุอยู่ที่ 6.5 แอมป์-ชั่วโมง  เมื่อทั้งสองระบบประสานการทำงานจะให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Toyota C-HR 2018

          เป็นปรกติของระบบไฮบริดที่ออกตัว เงียบ นิ่งและเร็ว ทุกอย่างดูราบรื่นไม่มีปัญหา...จนถึงจังหวะอยากเร่งแซง อย่างที่บอกไว้ว่าเส้นทาง ลำปาง-น่าน จะมีทางขึ้นเขา สองเลนสวนกันบ่อย เปิดช่วงแซงครั้งแรกผู้ทดสอบคิกดาวน์รถเต็มที่ เจ้ากรรมรถไม่ได้พุ่งอย่างที่คิด เหมือนขับเร่งปรกติ ด้วยช่วงนั้นเป้นความเร็วย่าน 100 กม./ชม. เร่งขึ้นช้าเหมือนรถกลุ่ม 1.2 ลิตร

          ซึ่งหากมองให้ดีมันก็มีเหตุอยู่เพราะในย่านความเร็วเพื่อแซงผ่านช่วงระบบไฮบริดไปแล้ว อยู่ที่กำลังเครื่องล้วน ๆ กับพลัง 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร และขนระบบไฮบริดรวมถึงแบตเตอรี่ไว้จึงมีน้ำหนักตัว 1,455 กก. เทียบกำลังต่อน้ำหนักตัวรถแล้วก็เหนื่อยเอาการ..

Toyota C-HR 2018

          เมื่อประเมินกำลังได้ชัด จะเร่งแซงทำได้ แต่โอกาสนั้นก็ยาก ต้องอาศัยจังหวะและระยะแซงมากขึ้น นี่เป็นจุดหนึ่งที่คุณควรมาได้ทดลองขับดูสักครั้ง ก่อนเลือก Toyota C-HR แบบไฮบริด

          แต่นั่นเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ ไปเลย เมื่อได้เห็นไซเคิลการทำงานของระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 นี้ เพราะมีการรีชาร์จ และดึงกำลังใช้เห็นผ่านหน้าจอ TFT เรือนไมล์ฝั่งซ้ายบอกการเร่งว่าเรากำลังขับขี่ในย่านไหน (แทนที่การบอกรอบเครื่องยนต์) ที่ทำได้อย่างดี

Toyota C-HR 2018
พักครึ่ง ผ่านระยะทาง 110 กม. น้ำมันแทบไม่ลด !

          ส่งผลให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงจริง ๆ ผู้ทดสอบขับ ได้เฉลี่ย 17.8 กม./ลิตร จากเส้นทางที่เป็นเขาคดเคี้ยวจบทริปใช้น้ำมันไม่ถึงหนึ่งในห้าของถัง !! พอเดาได้ว่าถ้าเป็นลักษณะนี้ขับขี่ในเมืองประหยัดกว่านี้อีกมากแน่ ๆ ซึ่ง

          ทางโตโยต้ามีการพูดคุยบอกไว้ด้วยว่า ระบบไฮบริดชุดนี้ดีแค่ไหน จะใช้ Toyota C-HR เป็นเรือธงที่ทำให้ทุกคนได้รู้จัก และปูทางสู่รถยนต์ไฮบริดอีกหลายรุ่น

          ด้านการควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ให้ฟีลลิ่งการควบคุมที่ดีมาก ๆ วงเลี้ยวธรรมชาติ น้ำหนักกำลังดี เบาเมื่อความเร็วต่ำและปรับให้สูงขึ้นช่วงความเร็วสูง ชอบจุดนี้

Toyota C-HR 2018

          ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบปีกนกคู่ Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สวมยางขนาด 215/60 R17 เส้นทางที่โค้งขึ้นลงเขา เจอถนนที่มีการปรับปรุง ความรู้สึกใกล้เคียงกับการขับรถเก๋งซีดานมาก ทั้งการโยนตัว หรือการโคลงของรถน้อย

          ผ่านรอยต่อถนนดูซับแรงเนียน ๆ ทางตรงก็เร่งนิ่งเรียบ ระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ โดยส่วนตัวผู้ทดสอบไม่ค่อยชอบฟีลลิ่งเบรกเท่าไหร่ กดแล้วทื่อ ๆ มีแรงต้านเป็นบุคลิกของเบรกระบบไฮบริด

Toyota C-HR 2018

          ความเงียบภายในห้องโดยสาร ตอนที่ได้ทดสอบ ได้ยินเสียงลมไหลดังวืด ๆ ตอนแรกก็สงสัยว่าทำมีเสียงแบบนี้ แต่มาจากด้านหลัง... ยิ่งฟังก็ถึงบางอ้อ เอาจริงแล้วเสียงภายนอกที่เข้ามาเก็บเงียบขับสบายไม่กวนใจ แต่มีระบบเอาอากาศในห้องโดยสารไประบายความร้อนแบตเตอรี่ไฮบริดนั้นเอง ! เป็นช่องอยู่บริเวณใต้เบาะที่นั่งโดยสารตอนหลัง และค่อนข้างชัดว่าส่วนใหญ่ได้ยินกันชัด มีการถามถึงในช่วง Q&A เอาเป็นว่าต้องยอมรับเรื่องเสียงในจุดนี้

          ด้านระบบ Toyota Safety Sense ได้ทดสอบ Pre-Collision System ระบบช่วยก่อนชน ที่ทำงานได้ดี ระยะกระชั้นเล็กน้อย มีไว้ช่วยได้แต่อย่าคิดทดสอบเล่น อันตรายอยู่ อีกระบบคือ Lane Departure with Steering Assist ตรวจจับรถออกนอกเลนถนน จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อถนนมีการตีเส้นที่ชัดเจน ช่วยหน่วงพวงมาลัยมีแรงดึงกลับทำได้ดี   

สรุปส่วนตัวจากผู้เขียน

          ไม่ชอบอยู่สองจุดคือฟีลลิ่งการเบรก และการเร่งแซงช่วงความเร็วสูง นอกนั้นคือการก้าวไปอีกขั้นของรถยนต์โตโยต้าจริง ๆ ทั้งการควบคุมและช่วงล่างให้อยู่อันดับแรก ๆ ในใจ เรื่องอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเว่อร์

          รวม ๆ แล้วรถ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (Toyota C-HR)  มีแรงดึงดูดให้อยากนั่งขับหลังพวงมาลัย และชื่อเสียงด้านบริการหลังการขายของโตโยต้าจะทำให้คุณตัดสินใจได้ไม่ยากเลย หากกำลังมองหารถครอสโอเวอร์ในขนาดเล็กอยู่

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

Toyota C-HR 2018

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิว Toyota C-HR 2018 หัวหอกใหม่ ไฮบริดรุ่น 4 ไม่เน้นพุ่ง มุ่งสู่ความประหยัด อัปเดตล่าสุด 1 กรกฎาคม 2564 เวลา 23:37:12 154,655 อ่าน
TOP