Aspark Owl ว่าที่รถยนต์ไฟฟ้าญี่ปุ่นอัตราเร่งดีที่สุดในโลก เพราะตอนนี้ Aspark Owl คันโปรโตไทป์สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 1.92 วินาที มีใครจะไวไปกว่านี้อีกไหม...อะไรนะ อาจจะมีเหรอ !
ลองทดสอบให้ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า Aspark Owl ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น ที่เคยโชว์ตัวในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์ โชว์ 2017 สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 1.92 วินาที ได้จริง ด้วยรถโปรโตไทป์ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ดีไซน์โหดแบบรถแข่งในสนาม ซึ่งเร็วกว่า Tesla Model S P100D แต่ Aspark Owl จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกได้หรือไม่
คำตอบคือตอนนี้ยัง "ไม่ใช่" Aspark Owl แน่ เพราะถ้าหากว่ายึดตามบันทึกของกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ ออฟ เรคคอร์ด ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เร็วสุดในโลก และถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการคือ Grimzel ของ AMZ Racing โดยทำเวลาไว้เพียง 1.513 วินาที แต่อย่างไรก็ตาม Grimzel ไม่ใช่รถที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (Commercial) แบบ Aspark Owl
ดังนั้นซูเปอร์คาร์อย่าง Aspark Owl ก็คงพอจะเคลมได้ว่าเป็น "ว่าที่" รถไฟฟ้าแบบ Commercial ที่เร็วสุดในโลก (อย่างไม่เป็นทางการ) เพราะเร็วกว่า Tesla Moedel S P100D ค่อนข้างแน่นอนแล้ว แต่ก็อีกนั่นแหละ Aspark Owl อาจครองตำแหน่งได้ไม่นานถ้า All-new Tesla Roadster คันจริงซึ่งพร้อมจำหน่ายในปี 2020 สามารถทำเวลาได้ 1.9 วินาที จริง ตามที่นายอีลอน มัสก์ คุยไว้ ซึ่งมักจะเลือกพูดเฉพาะจุดที่ฟังแล้ว...ว้าว เสมอ อย่างเช่น แรงบิดที่ล้อ 10,000 นิวตันเมตร รวมถึงอัตราเร่ง 1.9 วินาที โดยไม่มีหมายเหตุ (ซึ่งอาจเป็น 1.99 วินาทีก็ได้ใครจะรู้)
อย่างไรก็ตาม Aspark Owl คือรถสปอร์ต 2 ที่นั่ง ที่ฮาร์ดคอร์ตั้งแต่แนวคิด ส่งผลให้รูปร่างหน้าตาออกมาใกล้เคียงรถแข่ง โดย Aspark Owl จะเน้นความบันเทิงเริงใจในการขับขี่เป็นหลัก ไม่แคร์ระยะทางวิ่ง (ได้ไกลนัก) หรือความสะดวกสบาย และด้วยแนวคิดอันสุดโต่งนี้ Aspark รู้ดีว่าจะมีคนจำนวนมากหันมามองและข้ามไป (ก็มันไม่ใช่รถใช้งานในชีวิตประจำวัน) ซึ่ง Aspark ต้องการคัดคนที่สนใจในคุณค่าของ Aspark Owl จริง ๆ ในแบบที่มันเป็นเท่านั้น เรียกว่าติสต์สุด
ดังนั้นทุกอย่างของ Aspark Owl จึงไม่ธรรมดา โครงตัวถังของ Aspark Owl เป็นเฟรมเหล็กท่อน้ำหนักเบา เปลือกตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มีประตูเปิดแบบปีกนก (เพราะโครงตัวถังแทบจะล้อมรอบห้องโดยสาร การใช้ประตูแบบนี้จึงเหมาะกว่า เหมือน Mercedes-Benz 300 SL Gullwing) และการออกแบบแน่นอนว่า Aspark Owl เน้นอากาศพลศาสตร์แบบสุด ๆ ดีไซน์จึงออกมาคล้ายรถแข่งอย่างที่เห็น ภายใต้มิติตัวถังยาว 4,830 มม. กว้าง 1,935 มม. สูง 990 มม. และที่พีคคือ Aspark Owl หนักเพียง 850 กก.
ในส่วนขุมพลัง Aspark ระบุว่า Aspark Owl คันโปรโตไทป์จะใช้มอเตอร์ 40 กิโลวัตต์ 2 ตัว บวกกับซูเปอร์คาปาซิเตอร์ (ตัวเก็บประจุยิ่งยวด) และแบตเตอรี่ ที่ให้ Output รวมกันประมาณ 435 แรงม้า และแรงบิด 764 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงทำให้ Aspark Owl ที่มีน้ำหนักตัวเบาหวิว เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 1.92 วินาที สำหรับรถโปรโตไทป์ (คันจริงระบุว่า 2.0 วินาที) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 280 กม./ชม. และวิ่งได้ระยะทางไกล 150 กม.
ก็อย่างที่บอก Aspark Owl เน้นประสบการณ์ในการขับขี่สุดวิเศษ ไม่ใช่ปริมาณหรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยไม่สนว่าคุณจะชอบ (ซื้อ) หรือไม่ และ Aspark Owl ก็มั่นมากรวมถึงรู้ตัวว่ามีความพิเศษพอที่จะเลือกเฉพาะคนที่ใช่สำหรับ Aspark Owl จริง ๆ แม้จะมีเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ บนโลกนี้ ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับ Aspark