ในยุคที่รถยนต์กำลังจะอัจฉริยะมากขึ้น มากขึ้น จนในอนาคตสามารถทำหน้าที่ของมันเองได้โดยไม่ต้องใช้คนขับอย่างเราเพราะมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง (รถยนต์ทุกวันนี้ก็เหมือนสมาร์ทโฟนเข้าไปทุกทีแล้ว) แล้วเราจะวางใจได้อย่างไรว่าสมาร์ทคาร์ของเราจะปลอดภัยจากมัลแวร์ (Malicious Software) ที่แอบซ่อนอยู่ในแอปพลิเคชันมากหน้าหลายตาซึ่งถูกนำมาใช้ในรถยนต์ยุคใหม่ ลองคิดเล่น ๆ ดูก็ได้ว่าถ้ารถยนต์ของเราถูกแฮกและสั่งให้หยุดกะทันหันกลางสี่แยกจะระทึกกันแค่ไหน...นี่มันเรื่องสำคัญนะเนี่ย
ถ้าใครได้ดู Fast and Furious 8 (The Fate of the Furious 8) คงจะพอจำฉากที่ไซเฟอร์ตัวร้ายสายเซี้ยะโชว์เหนือสั่งแฮกเข้าระบบรถยนต์ในอาคารจอดรถให้ติดเครื่องแล้วเร่งเครื่องออกมาจนร่วงเป็นห่าฝนได้จากระยะไกลให้ลงมากองรวมกันบนถนน ซึ่งอนาคตมันอาจเกิดขึ้นได้แม้ว่ามันอาจจะดูเว่อร์เกินจริงไปสักหน่อย แต่เคสในลักษณะนี้เคยเกิดกับรถรุ่นใหม่ในต่างประเทศมาแล้ว (ถ้าเอ่ยชื่อและรุ่นก็รู้จัก) แค่ไม่ได้เว่อร์วังแบบในภาพยนตร์แต่ก็อันตรายอยู่ดี
ทั้งนี้ Jarvis ของ BlackBerry จะเป็นบริการซอฟท์แวร์ด้านความปลอดภัยใหม่พร้อมใช้ให้ลูกค้าดาวน์โหลด (แน่นอนว่าไม่ฟรี) ผ่านอินเทอร์เน็ต (Software as a Service หรือ Saas) เพื่อตรวจหามัลแวร์จากแอปพลิเคชันที่ยูสเซอร์ดาวน์โหลดมาใช้ในรถยนต์ โดย Jarvis จะทำการสแกนโค้ดและเมื่อเจอความผิดปกติก็จะส่งข้อมูลที่จำเป็นให้กับผู้ผลิตรถยนต์ตรวจสอบเพื่อหาทางปิดช่องโหว่นั้นเสียก่อนที่จะโดนโจมตีโดยแฮกเกอร์จนเกิดความเสียหาย (มากน้อยแค่ไหนก็ไม่อยากจะจินตนาการ)
บริการด้านความปลอดภัยใหม่จาก BlackBerry ถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้ผลิตรถยนต์พอสมควร เพราะปัจจุบันซอฟท์แวร์มหาศาลมากหน้าหลายตาได้ถูกนำมาใช้ในรถยนต์ยุคใหม่ รวมไปถึงโปรแกรมสำเร็จรูปที่อาจถูกดาวน์โหลดมาใช้ภายหลัง โดย Jarvis จะคอยทำหน้าที่สแกนได้ครอบคลุมทั้งหมด โดยลูกค้าสามารถเลือกจ่ายได้ว่าต้องการให้ Jarvis คอยสแกนข้อมูลมากน้อยแค่ไหน (คาดว่าคล้ายโปรแกรมสแกนมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์) หรือจะซื้อแบบติดตั้งสำเร็จเลยก็ได้
ในอนาคตนอก BlackBerry ยังคิดจะขยายบริการ Jarvis ให้ดูแลได้นอกเหนือจากอุตสาหกรรมรถยนต์ อย่างอุตสาหกรรมการบินและอวกาศอีกด้วย