
ความสำเร็จของยอดขายไตรมาสนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมของฟอร์ดในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนเพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ เป็น 6.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นส่วนแบ่งตลาดการในไตรมาสที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของฟอร์ด

"ฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงได้รับความนิยมในวงกว้างจากผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รถทั้ง 2 รุ่นนี้ยังคงครองตลาดในเซกเมนต์ของตนเองได้อย่างแข็งแกร่ง" นายณรงค์ สีตลายน รองกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
ฟอร์ด เรนเจอร์ นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลให้ฟอร์ดเติบโตอย่างมากในไตรมาสสองของปีนี้ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ หรือที่ 9,748 คัน โดยส่วนแบ่งตลาดของฟอร์ด เรนเจอร์ เพิ่มขึ้นถึง 3.7 เปอร์เซ็นต์ จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว มาเป็น 12.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสนี้

ฟอร์ด เรนเจอร์ (Ford Ranger) มีทั้งหมด 24 รุ่น ตั้งแต่รุ่นพรีเมียม เช่น ไวลด์แทรคและ FX4 ไปจนถึงรุ่น XL และ XLS ที่เน้นการใช้งานที่มากกว่า เพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคในตลาดรถกระบะที่มีการแข่งขันสูง
ยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 51 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดขาย 20,230 คัน ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ครองตำแหน่งรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย
ด้าน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (Ford Everest) ยอดขายในไตรมาสที่สองเติบโตขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 1,883 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 เปอร์เซ็นต์ เติบโตขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต (Ford Ecosport) มียอดขายในไตรมาสสองนี้เติบโตขึ้นถึง 41 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว หรือคิดเป็นยอดขาย 815 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 4.6 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 11.3 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยอดขายตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดขาย 1,278 คัน
ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายของฟอร์ดเติบโตสูงขึ้นถึง 41 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดขาย 25,513 คัน ส่งผลให้ฟอร์ดยังคงครองตำแหน่งหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตสูงที่สุดในประเทศไทยอีกครั้งในปีนี้

"ฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องผ่านผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ซึ่งรวมไปถึงการปรับโฉมโชว์รูม การยกระดับบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า และการพัฒนาโปรแกรมอบรมพนักงานขายและช่างเทคนิคที่เข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย" นายณรงค์ กล่าวสรุป