ปรกติแล้วเราอาจจะเคยนั่งบนเก้าอี้ไม้ไผ่ เห็นของที่สร้างจากไม้ไผ่ และอาจเคยกินหน่ออ่อน แต่รู้หรือไม่ว่า รถยนต์ของคุณกำลังจะมีไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบเพิ่มเติม เพราะเป็นหนึ่งในวัสดุธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุด
ในขณะที่การลงทุนการวิจัยช่วยให้เราคิดค้นวัสดุใหม่ๆ เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ที่ทนทานเป็นพิเศษ และอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา แต่ก็มีวัสดุธรรมชาติที่แข็งแกร่งเติบโตด้วยความสูงประมาณ 1 เมตรต่อวัน ในสวนหลังบ้านของเรานี่เอง
ประโยชน์ของไม้ไผ่เป็นที่ยอมรับมานานกว่าศตวรรษ แม้แต่โธมัส เอดิสัน ก็ยังเคยทดลองใช้ไม้ไผ่ระหว่างการประดิษฐ์หลอดไฟหลอดแรกของโลก สำหรับภายในอาคาร ความทนทานจากแรงดึงของไม้ไผ่นั้น เทียบเท่าหรือเหนือกว่าเหล็กบางชนิดเสียอีก
เนื่องจากไม้ไผ่สามารถเติบโตถึงจุดเจริญเติบโตเต็มที่ได้ในระยะเวลาเพียง 2 ถึง 5 ปีเท่านั้น จึงถือว่าเติบโตใหม่ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับต้นไม้ชนิดอื่นที่ใช้เวลาหลายสิบปี
ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เจเน็ตและทีมทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อวิจัยความเป็นไปได้ในการใช้ไม้ไผ่ภายในตัวรถยนต์ และเพื่อผลิตชิ้นส่วนที่แข็งแรงเป็นพิเศษด้วยการผสานเข้ากับพลาสติก ค้นพบว่า ไม้ไผ่มีความทนทานยิ่งกว่าทั้งเส้นใยสังเคราะห์และธรรมชาติที่ใช้ในการทดสอบต่าง ๆ ทั้งในแง่ของความทนจากแรงดึงไปจนถึงความสามารถในการรับแรงกระแทก
นอกจากนี้ ไม้ไผ่ยังผ่านการทดสอบด้วยความร้อนสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถคงคุณสมบัติอยู่ได้แม้ในภาวะความร้อนสูง
ที่มาของ เส้นใยไนลอน (หรือเส้นด้ายดิบ) เป็นส่วนเกินมาจากโรงงาน มีปริมาณประมาณ 1-3 เปอร์เซ็นต์ ของด้ายดิบที่ใช้ในการผลิตทั้งหมดของโรงงาน ฟอร์ดได้ช่วยลดปริมาณเส้นด้ายดิบเหลือทิ้งมากกว่า 700,000 กิโลเมตรต่อปีในทวีปเอเชีย แปซิฟิค เกือบเทียบเท่ากับระยะทางไปกลับระหว่างโลกและดวงจันทร์
ความมุ่งมั่นในการลด การนำกลับมาใช้ใหม่ และการรีไซเคิล คือ ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนในระดับโลกของฟอร์ด เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ประสิทธิภาพเชื้อเพลิงสูงทั่วโลก
สุดท้ายหากไม้ไผ่ผ่านการทดสอบทุกกระบวนการแล้ว รถยนต์ของฟอร์ดก็จะมีไม้ไผ่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบการผลิตรถยนต์ แม้จะเป็นการเริ่มต้นใช้ผสมเล็กน้อย แต่ก็ลดการพึ่งพาแร่โลหะทั้งหลายลงได้
ภาพจาก ford