

Karma Revero จะเป็นรถสปอร์ตซีดานหรูขนาดใหญ่ขุมพลัง Plug-in Hybrid คันใหม่ล่าสุดสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักได้ตัดสินใจระหว่างเทคโนโลยีไฟฟ้าล้วนที่พิสูจน์แล้วว่าวางใจได้อย่าง Tesla Model S หรือจะเลือกลองของใหม่อย่าง Karma Revero ที่มีรูปทรงเร้าอารมณ์ชวนมองกว่า แต่ถ้าใครเห็นแล้วบอกว่านี่มันคือ Fisker Karma เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก็ต้องขอบอกว่าทั้ง “ใช่” และ “ไม่ใช่” เพราะนี่คือ Karma Revero ชีวิตที่สองของ Fisker Karma


นาย Henrisk Fisker ที่เป็นทั้งผู้ก่อตั้ง Fisker Automotive และออกแบบ Fisker Karma ได้ย้ายไปเป็น Head of Design ของ VLF Automotive ซึ่งมีสปอร์ตซีดาน Destino V8 ที่ใช้ร่างเดียวกับ Fisker Karma และ Karma Revero เพียงแต่จิตวิญญาณได้มอบให้กับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ไปเรียบร้อยแล้ว ต่างจาก Karma Revero ของกลุ่ม Wangxiang Group ที่กำลังจะกลับมาเริ่มต้นชีวิตที่สองอีกครั้งด้วยขุมพลังไฟฟ้าแต่แน่นอนว่าไม่ใช่ของเดิมและแข็งแกร่งขึ้น


แต่สิ่งที่ Karma Automotive ต้องใส่ใจและจริงจังคงเป็นในเรื่องของระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Karma Revero มากกว่า โดยทาง Karma Automotive ได้ดีลกับ BMW ให้เป็นผู้ผลิตส่วนประกอบของระบบส่งกำลังและระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ รวมถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่เป็นฮาร์ดแวร์ของ Karma Revero แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยในรายละเอียดหรือยืนยันจาก Karma Automotive ว่าสรุปแล้วจะออกมาเป็นอย่างไรในตอนนี้ นอกจากหลังคายังคงติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เอกลักษณ์ประจำตัว

ถ้าอ้างอิงจากพื้นฐานเดิมอย่าง Fisker Karma ก็จะเป็นรูปแบบ Plug-in Hybrid ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ (range-extender) ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันทั้งระบบ 402 แรงม้า และแรงบิด 1,300 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 201 กม./ชม. ใช้เดินทางไกลได้ระยะทางประมาณ 370 กม./ชม. และสำหรับ Karma Revero น่าจะทำได้เหนือกว่าในอดีต เช่นเดียวกับราคาคงยากที่จะต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ หรือ 3.5 ล้านบาท

เหลือเวลาเพียงไม่ถึงเดือน Karma Revero ก็จะได้ฟื้นคืนชีพกลับมามีชีวิตที่สองอีกครั้งให้กับผู้ที่หลงใหลในเรือนร่างเดิม พร้อมกับเคลมว่าเป็นรถไฟฟ้าที่งดงามเหนือกาลเวลา


world_id:57b56d1b4d265a57228b4569
ภาพจาก Karma Automotive