กาวติดรถยนต์ เทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ประกอบรถยนต์ทั้งคันโดยใช้กาว
วงการยานยนต์เป็นวงการหนึ่งที่มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างไม่สิ้นสุด และเรื่องหนึ่งที่ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างรถยนต์ก็คือ กระบวนการผลิตนั่นเอง โดยปัจจุบัน ผู้ผลิตจึงหันมาใช้วิธีการประกอบรถยนต์ด้วยกาวแทนการเชื่อม โดยเฉพาะบรรดาผู้ผลิตรถยนต์หรูและรถยนต์สมรรถนะสูงทั้งหลาย ซึ่งการประกอบรถยนต์ด้วยกาวนั้น มีวิธีการเป็นอย่างไร มีคุณสมบัติดีแค่ไหน กระปุกคาร์ก็ได้นำความรู้เรื่องการประกอบรถยนต์ด้วยกาวมาฝากคนรักรถทั้งหลายกันแล้วครับ
กาวติดรถยนต์เป็นอย่างไรปัจจุบัน วิธีการประกอบรถยนต์ด้วยกาวนิยมใช้สารเคมีที่เรียกว่า อีพอกซี่ (Epoxy) เป็นส่วนผสมระหว่างสารเคมี 2 อย่างได้แก่ เรซิ่นและตัวเร่ง ซึ่งต้องใช้คู่กัน ซึ่งสารทั้ง 2 เองก็มีพื้นฐานมาจากสารอีกหลายประเภทแล้วแต่สูตรผู้ผลิต สามารถยึดเกาะภายเวลาไม่ถึงนาทีหรือจะใช้เวลาออกเป็นวันก็ได้แล้วแต่ลักษณะงาน รวมทั้งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
ในอุตสาหกรรมรถยนต์จะเลือกใช้อีพอกซี่ 2 สูตร ได้แก่ โพลียูริเทน กับ กลาสซี่ แมทริก โดยโพลียูริเทนจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า แม้มีความแข็งแกร่งไม่สูงนัก ส่วนกลาสซี่ แมทริกจะไม่มีความยืดหยุ่นมากนัก แต่มีความแข็งแกร่งและทนทานมากกว่า
วิธีการใช้กาวติดรถยนต์วิธีการประกอบรถยนต์ด้วยกาวจะแตกต่างกันไปตามแต่สูตรของผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปแล้ว วิธีดังกล่าวสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกส่วนของรถยนต์ไม่ว่าตัวถังภายนอกหรือห้องโดยสาร เพียงแต่บางชิ้นอาจจำเป็นต้องผ่านการลงสีและทำความสะอาดก่อนติดตั้งและต้องให้ชิ้นส่วนที่ติดเข้าด้วยกันอยู่นิ่งจนกาวแห้ง ผู้ผลิตบางรายอาจใช้วิธีการบีบอัดชิ้นส่วนดังกล่าวร่วมด้วยเพื่อให้ชิ้นส่วนติดกันได้แน่นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม กาวติดรถยนต์ไม่เหมาะกับชิ้นส่วนที่เป็นข้อต่อต่าง ๆ เช่น ประตูรถ เพราะแรงที่เกิดขึ้นตรงส่วนข้อต่อมักมีลักษณะดึงชิ้นส่วนออกจากกัน ซึ่งกาวไม่สามารถทนต่อแรงดึงได้ดีเท่าการเชื่อม แต่ผู้ผลิตในปัจจุบันก็ได้ออกแบบให้รถมีข้อต่อน้อยอยู่แล้ว และเลี่ยงการใช้กาวหากจำเป็นต้องประกอบชิ้นส่วนลักษณะนั้น
ข้อดีและข้อเสียของการประกอบรถยนต์ด้วยกาวการประกอบรถยนต์ด้วยกาวมีข้อดีอยู่หลายข้อทีเดียว ทั้งลดขั้นตอนการประกอบ โดยบริษัทรถยนต์นิยมแบ่งโครงสร้างรถยนต์ออกเป็น 2 ส่วน แล้วทำการประกอบส่วนหลักด้วยกาว จากนั้นจึงเชื่อมเก็บรายละเอียด ทำให้รถมีน้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบกับวิธีการเชื่อม เพราะการเชื่อมต้องใช้เหล็กขนาดใหญ่และไม่สามารถใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่างอะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ได้
ด้านความทนทาน กาวเรซิ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิได้มากถึง 204 องศาเซลเซียส และยังคงความสามารถในการยึดเกาะได้ในอุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ใช้งานรถที่พื้นที่หนาวจัดอย่างขั้วโลกเหนือ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลด้านความทนทานแต่อย่างใด อีกทั้ง กาวเรซิ่นชนิดโพลียูริเทนมีความยืดหยุ่นสูง จึงสามารถซับและกระจายแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้โดยสารปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดการชน และเทคโนโลยีนี้ยังถูกใช้บนเครื่องบินเพื่อซับแรงปะทะจากลมด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียในปัจจุบันของการประกอบด้วยกาวก็คงจะหนีไม่พ้นความใหม่ของเทคโนโลยี จึงยังไม่มีใครพิสูจน์ว่ารถยนต์ที่ประกอบด้วยกาวจะใช้งานได้ยาวนานทัดเทียมกับวิธีการเชื่อมแค่ไหน และค่าซ่อมอันแพงมหาศาลหากตัวรถเกิดความเสียหาย เพราะอู่ตัวถังทั้งหลายยังไม่รองรับวิธีการนี้ และถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ คุณอาจต้องส่งรถกลับไปที่โรงงานผลิตเพื่อประกอบใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายคงไม่ใช่น้อย ๆ แน่
เทคโนโลยีการประกอบรถยนต์ด้วยกาวเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยและช่วยเปิดแนวทางการผลิตรถยนต์สำหรับอนาคตมากขึ้น แต่ถึงแม้จะมีความน่าสนใจมากแค่ไหนก็ตาม ผู้ผลิตทั้งหลายก็ยังจำเป็นต้องพัฒนาวิธีการดังกล่าวและพิสูจน์คุณภาพของมันต่อไปในอนาคตครับ
