ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldcarfans เเละ bugatti
ทุกธุรกิจย่อมต้องการผลกำไรเสมอ แต่ในบางครั้งการยอมขาดทุนก็ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า เช่นเดียวซูเปอร์คาร์อย่างบูกัตติ เวย์รอน (Bugatti Veyron) ซึ่งเป็นที่จดจำในฐานะยอดยานยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมจากอากาศยานจำนวนมาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ต้นสังกัดของบูกัตติ (Bugatti) ถึงกับยอมขายรถคันนี้ในราคาขาดทุนเป็นจำนวนกว่า 6.27 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 195 ล้านบาทต่อคันเลยทีเดียว
ซึ่งตัวเลขขาดทุนดังกล่าวนี้ โฟล์กสวาเกนรู้ตัวมาตั้งแต่เริ่มโครงการแล้ว แต่เพื่อให้รถคันดังกล่าวได้เผยโฉมสู่สาธารณะชนในฐานะรถยนต์ที่โชว์นวัตกรรมสุดล้ำในยุคนี้ พวกเขาจึงเลือกทำเช่นนั้น ซึ่งบริษัทวิจัย Berstein Research ได้สำรวจและพบว่าโฟล์กสวาเกนขาดทุนให้กับบูกัตติ เวย์รอนทุกคันเป็นเงินกว่า 6.27 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 195 ล้านบาท) จริง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
และหากคิดเป็นบริษัทรถยนต์ขาดทุนจากการจำหน่ายรถยนต์ดังกล่าวมากที่สุดนั้น อันดับ 1 เป็นของ สมาร์ท (Smart) ซึ่งยอมขายรถขาดทุนตั้งแต่ปี 1995 ถึงปี 2006 เป็นเงินกว่า 4,550 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 142,000 ล้านบาท), อันดับ 2 เป็นของเฟียต (Fiat) จากการจำหน่าย สติโล เป็นจำนวนกว่า 2,860 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 89,400 ล้านบาท), อันดับ 3 คือโฟล์กสวาเกน เฟตอน ที่ขาดทุนรวมกันถึง 2,710 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 84,700 ล้านบาท) ส่วนบูกัตติ เวย์รอนนั้นขาดทุนรวมกันกว่า 2,310 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 72,200 ล้านบาท) ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นจนกว่าจะหมดอายุจำหน่าย
จากสถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้สนใจแต่ผลกำไรกันเสมอไป ซึ่งบางครั้งการยอมขาดทุนก็ทำให้ผู้ใช้รถหลายคนมีโอกาสได้ใช้รถยนต์ซึ่งพกพาคุณภาพเกินราคา เราจึงมีโอกาสได้ใช้ของดีในราคาไม่เกินเอื้อมนั่นเองครับ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี