มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย

มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย

มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย (หนังสือยานยนต์)
โดย พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์

          ถนนหนทางในบ้านเมืองของเราถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้น มีทั้งสิบเลนแปดเลน หกเลน สี่เลน ถนนในอเมริกาบางรัฐกลายเป็นถนนบ้านนอกเมื่อเทียบกับของเรา อำเภอไหน จังหวัดไหนยังมีถนนเชื่อมต่อกันแค่สองเลนนี่ถือว่าเฉิ่มมาก ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนั้นน่าจะต้องไปดูดวงการเลือกตั้งสมัยหน้า เตรียมตัดกรรมดีลีตเวรตามตำรา

          เรื่องถนนสมัยนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดลอยตัวไปแล้วครับ โน่น โดนเต็ม ๆ ก็ท่าน ส.ส. จังหวัดนั้น

          อดีตนายกรัฐมนตรี นายบรรหาร ศิลปะอาชา ท่านไปสร้างมาตรฐานถนนในบรรหารบุรี เอ้ยสุพรรณบุรีไว้ดีทำให้เพื่อน ส.ส.ของท่านพลอยฟ้าพลอยฝนเดือดร้อนเงียบ ๆ กันอยู่หลายจังหวัด อะไร ๆ ก็ต้องมาตรฐานของสุพรรณบุรี ไอดอลถนนของชาวบ้านต่างจังหวัดทั้งนั้น ขนาดสี่เลนสมัยนี้ชาวบ้านเขายังขำกลิ้งฝีมือ ส.ส.ว่า บ่มิไก๊ ไม่รู้จักหางบมาลงใครยังอนุรักษ์แค่สองเลน สมัยหน้าหาทำเลเตรียมเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวดีกว่า ลงไปก็หมดเงินหมดทองเงิบเปล่า ๆ ลง สจ. ส.อบต. ยังหืดขึ้นคอเลยขอรับ แล้วเชิญแฟนคลับการเมืองไปดูเถิดครับ แปรญัตติในชั้นกรรมาธิการงบประมาณเป็นเรื่องถนนเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องถือว่าถนนเมืองไทยมีมาตรฐานทั้งคุณภาพถนนและมาตรฐานทางการเมืองสูงมาก

          ยิ่งหันมาดูมาตรฐานประสิทธิภาพของรถยนต์สมัยนี้ต้องบอกว่ายอดเยี่ยม เร็ว แรง มีอุปกรณ์ อำนวยความสะดวก ความปลอดภัยครบครันเพียบพร้อม สมัยโน้นขับกระบะเครื่องดีเซล ไปไหนมาไหนชาวบ้านรู้กันทั้งบาง จำเสียงสนั่นหวั่นไหวได้ว่ารถใคร เก็บความลับไม่ได้ สมัยนี้กระบะดีเซลขับเงียบเหมือนรถเก๋ง แถมวิ่งระเบิด ไม่ต้องพูดถึงรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เต็มถนนอยู่เวลานี้

มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย

          ถนนก็มาตรฐาน รถยนต์ก็มาตรฐาน แล้อะไรกันหนอ ไม่มาตรฐาน...พี่ไทยเราคนกันเองนี่แหละ!!

          ถามท่านผู้อ่านสามคำ...เอ้ย...สักคำ ตั้งแต่ขับรถยนต์เป็น ใช้รถใช้ถนนมานี่ ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่อยากลงไปปะทะกันไอ้หมอนั่นที่ขับรถกวนอารมณ์ท่านบ้างเลยหรือ ท่านใดที่ไม่เคยเจอถือว่าท่านมีบุญวาสนาสูงยิ่ง ไอ้ที่ได้สดับรับฟังมานี่ เจอกันมาทั้งนั้น มีทุกเวอร์ชั่นทุกมาตรฐาน เพื่อนกระผมคนหนึ่งอดีตเด็กระดับแกนนำอาชีวะได้ยินเสียงรถคันข้างหลังบีบแตรสนั่นหวั่นไหว เปิดประตูรถลงไปเดินส่ายอาด ๆ หมายใจว่าจะไปถามเขาผู้นั้นหน่อยว่าบีบหาบิดาท่านหรือ ตูก็รีบเหมือนกัน เดชะบุญ คุณพระช่วย ถึงจะแก่ชราแต่เรื่องนี้อาจมีนอนกลางถนนมีหนังสือพิมพ์คลุมกันอุจาด เพื่อนจึงสามารถแลเห็นกระจกรถด้านคนขับที่เลื่อนลงและมีอะไร ๆ ที่ดำมะเมื่อมแหย่ออกมาได้ทันท่วงที ปืน ครับ ปืน เท่านั้น แหละเดินตัวขี่ตัวสั่นกลับมาถึงรถตอนไหน เข้ามานั่งยังไง ยังจำไม่ได้กระทั่งบัดนี้ ปิดท้ายคำรับสารภาพของไอ้เฒ่าผู้หายซ่าสนิทว่า สมัยนี้เขาพกปืนกันทั้งนั้น อารมณ์ต้องเย็น ๆ ไว้หนอ เขายังไม่ถึงขนาดเปิดประตูรถมาเตะเอาดื้อ ๆ ก็ถือว่า โอเค. สีทนได้ นี่ก็เป็นมาตรฐานขายไทยในการใช้รถใช้ถนนสมัยนี้ที่ส่วนใหญ่จะมีอาวุธไว้ป้องกันตัว

          ยังมีอีกมาตรฐานนึง การเปิดใช้ไฟเลี้ยวซ้ายขวาเพื่อขอทางตามกฎหมายจราจร ที่ไหน ๆ ในโลกก็ไม่เหมือนเมืองไทย เปิดไฟแว่บ ๆ ขอทางเมื่อไหร่จะมีรถเลนนั้นรีบวิ่งพรวดพราดเข้ามาปิดจนเข้าเลนไม่ได้ ท่านคงเกรงว่าหากเราเข้าเลนนั้นได้อาจสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองได้ต่อไป แบบว่า มันงงครับ อะไรมันจะกลัวเราเปลี่ยนเลนได้ชะขนาดนั้น มันต้องเบียดเข้าไปแบบหน้าด้าน ๆ ถึงจะมีลุ้น แต่ต้องเสี่ยงดวงเอาเองว่าจะเจอชายไทยมาตรฐานที่หนึ่งหรือไม่..??

          ต้องอาศัยประสบการณ์ครับทำบ่อย ๆ จะคล่องแคล่วไปเองเหมือนคุณพี่แท็กซี่ทั้งหลายแต่ยังไง ๆ ก็อดเป็นห่วงเสียมิได้ เห็นเขาว่า วินัยจราจรสะท้อนวินัยของชาติ การใช้รถใช้ถนนอย่างมีระเบียบวินัยแสดงว่าสังคมนั้นเป็นสังคมที่มีมาตรฐานมีระเบียบวินัยสูงเหมือน ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ และประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย บัดนี้เราจึงเห็นมาตรฐานวินัยของชาติไทยที่สะท้อนมาจากวินัยจราจรกันแบบอึ้ง...ทึ่ง...พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

          ท่านใดก็ตามดันหลงลมตามคำกล่าวดังกล่าว ถือปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ท่านจะพบตัวเองว่าท่านไม่มีโอกาสไปไหนมาไหนเหมือนคนอื่น ท่านอยู่ตรงไหนท่านก็จะอยู่ตรงนั้นจนกว่าท่านจะได้คิด เลิกเป็นพลเมืองดีเรื่องนี้มันเยอะจนไม่ทราบว่าจะเอาเรื่องใดที่ปฏิบัติกันจนเป็นมาตรฐานทางวินัยของชาติ

          เอาเรื่องง่าย ๆ ที่ทุกท่านน่าจะมีประสบการณ์ตรงกันดีกว่าเพราะจะยอมรับว่าเป็นมาตรฐานกันได้อย่างสนิทใจ กรณีการขับรถขึ้นสะพานลอยท่ามกลางรถติดเป็นบ้าเป็นหลังติดตึงนังแบบนี้ เชื่อเถอะ สักพักท่านต้องเห็นผู้กล้าเลี้ยวออกนอกแถวที่เข้าคิวรอขึ้นสะพานยาวเหยียดนั้นแซงแว่บออกมา แล้วพุ่งเข้ามาจ่อตรงคอสะพานหน้าตาเฉย ไอ้นี่ยังไม่แปลกเท่าไหร่ ก็แค่ทึ่งว่าทำไมเอ็งไม่อายชาวบ้านเขามั่งฟร๊ะ แต่ที่มันต้องตีมือกันให้เป็นมาตรฐานก็อีตรงมีสาวก แซงตามมาอีกกันนับสิบคัน รอเลียบแทรกเข้าเลนที่พลเมืองดีนั่งเซ็งสุด ๆ ดูพฤติกรรมของท่าน

มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย

          เรื่องธรรมดาอีกเรื่อง เรื่องการห้ามจอด มีป้ายสั่งห้ามไว้ชัดเจน ก็จอดมันตรงป้ายห้ามจอดตามเวลาห้ามจอด นั่นแหละ อย่าบอกนะว่าท่านผู้อ่านไม่เคยทำ...เอ้ย...ไม่เคยเห็น ยิ่งชั่วโมงเร่งด่วน เห็นรถข้างหน้าเปิดไฟเลี้ยวขวาแว้บ ๆ ขอทางกันเป็นแถว รถยิ่งติดหนีบ กว่าจะพันวิกฤติตรงนั้นมาได้แทบลมใส่ นึกว่าเกิดอุบัติเหตุ ที่ไหนได้ท่านเจอรถเปิดไฟฉุกเฉินทิ้งไว้ ลงไปซื้อข้าวแกงถุงริมถนนอย่างรีบเร่งและทิ้งความโกลาหลอลหม่านให้กับผู้ขับรถตามหลังทั้งหลายให้แก้ไขปัญหากันเอาเอง...ก็เปิดไฟฉุกเฉินให้รู้แล้ว ยังจะเอาอะไรกันอีกเล่า เรื่องมากกันแท้ ๆ...

          เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ รับรองว่าทุกท่านต้องเคยเจอมาแล้วทั้งนั้น แล้วจะไม่ยกให้เป็นมาตรฐานได้ไง นี่เป็นภาคประชาชน มาดูมาตรฐานภาครัฐบ้าง จะได้ไม่น้อยหน้าชาวบ้านครับผม...

          ไอ้แค่คลิปวิดีโอของคุณตำรวจจราจรน่ะแค่จิ๊บ ๆ ชิล ๆ ท่านเผลอตัวพลาดพลั้งไปหน่อย มาตรฐานนี้จึงน่าจะอยู่ไม่นาน เพราะทั้งนายดาบทั้งคุณจ่าจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เอาเรื่องธรรมดา ๆ ก็เหลือเฟือ ที่เมืองไทยเรื่องที่ซิกแซกแปลก ๆ ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน แต่อย่างใด เรื่องง่าย ๆ พื้น ๆ นี่แหละอย่างเรื่องรถยนต์ใช้ในราชการ ตามหลักการรถหลวงก็ต้องใช้ในงานหลวงเก็บไว้ในสถานที่ราชการ ที่เห็น ๆ อยู่จอดอยู่บ้านเจ้านายทั้งนั้น ใช้รับส่งลูกไปโรงเรียนบ้าง ไปจอดอยู่หน้าสถานบันเทิงบ้าง บางทีมีเรื่องมีราว เกิดเป็นคดีความทางปกครองกลายเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับข้าราชการต่อไป อย่างนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานทางราชการที่ถูกต้อง ซึ่งพัฒนามาจากเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เอารถหลวงไปใช้แล้วเอาไปจอดที่บ้านตนเอง อันนี้ท่านสามารถทำได้เพราะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. ๒๕๓๒ อนุญาตให้ทำได้ ถ้านำไปปฏิบัติราชการและขออนุญาตผู้บังคับบัญชาเรียบร้อย แต่ถ้ารถยนต์คันดังกล่าวเกิดหาย หรือไปเกิดอุบัติเหตุต้องซ่อมแซม ใครจะรับผิดชอบ

          ตามหลักคนรับผิดชอบก็ต้องเป็นคนที่นำรถไปใช้ใช่ไหมขอรับแต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะคนใช้เขาอ้างว่าไม่ได้เอาไปเที่ยว เขาเอาไปปฏิบัติราชการตามคำสั่งเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการ ไม่ทำไม่ได้มีความผิดฐานขัดคำสั่ง ละเลยต่อหน้าที่ กรณีอย่างนี้ ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยวางแนวทางปฏิบัติไว้ว่าการที่จะใช้สิทธิเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ เพียงใดนั้นจะต้องพิจารณาว่าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการนั้นด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ย้ำ... “อย่างร้ายแรงหรือจงใจ” เท่านั้นที่จะต้องรับผิด

มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย

          เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์กันในศาลปกครองกัน ถือว่าเป็นมาตรฐานของจริงที่ทางราชการจะต้องปฏิบัติกันต่อไป

          ท่านผู้อ่านครับ เพียงแค่การใช้รถใช้ถนนในเมืองไทย ยังหามาตรฐานกันได้อย่างมากมายทั้งภาครัฐภาคราชการดังกล่าว แต่ดูเหมือนฟากฝั่งชาวบ้านนั้นออกแนวมั่ว ทำอะไรตามใจฉันประสาพี่ไทย ถามว่าเป็นความผิด เป็นนิสัยแย่ ๆ ของคนไทยหรือเปล่าเลย ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเช่นนี้ มาจากภาครัฐที่ไม่เคยเคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่เคยปฏิบัติตามกฎหมายที่คนมีอำนาจหน้าที่ตลอดมา แบบนี้ ที่ไหน ๆ ไม่ว่าญี่ปุ่นสิงคโปร์ ก็ขาดวินัยครับ ถ้าทำผิดแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนทำผิดก็ได้เปรียบสบายกว่า ใครจะอยากทำตามกฎอยู่ล่ะครับ

          บ้านเมืองเขาเจ้าหน้าที่เขาเอาจริง ไปจอดรถที่ห้ามจอด อีกไม่กี่วันเจอหมายแจ้งให้ไปเสียค่าปรับเป็นหมื่นเป็นแสนบาทพร้อมภาพถ่ายแสดงการกระทำผิดจากกล้องวงจรปิด แบบนี้ใครยังจะอยากเสี่ยงครั้งต่อไปอีก บ้านเราวันนี้จึงเหลือมาตรฐานเดียวในการแก้ไขปัญหาก็คือการมีน้ำใจความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันในการใช้รถใช้ถนนเท่านั้น ตามวิสัยคนไทยแท้แต่โบราณ ซึ่งดูดีมีมาตรฐานมากกว่ามาตรฐานทั้งหลายที่ได้รายงานท่านผู้อ่านมาโดยลำดับนี้เทอญ...

 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือยานยนต์
ปีที่ 45 เล่มที่ 565 มิถุนายน 2556






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มาตรฐานการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย อัปเดตล่าสุด 28 กรกฎาคม 2564 เวลา 23:49:00 4,084 อ่าน
TOP
x close