ดีเซลหรือจะเบนซิน? เปลี่ยนความเชื่อเดิม ๆ กับเทคโนโลยีเครื่องดีเซล

ดีเซลหรือจะเบนซิน (GM CAR)
เรื่อง : มนต์ชัย สว่างศรี
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaiautoshop.com เเละ flipacars.com

          ถ้าคุณประสบความสำเร็จ มีเงินทอง เพชร อัญมณี และหุ้นในบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงที่สร้างผลกำไรได้งดงาม รถยนต์ที่คุณต้องครอบครองเป็นอันดับต้น ๆ คือรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศเยอรมัน จะเติมน้ำมัน E20 หรือดีเซล

          จะเปรียบเทียบรถยนต์ของประเทศเยอรมนีที่จำหน่ายในเมืองไทยแล้วได้รับความนิยมอยู่อันดับต้น ๆ อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์กับ บีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงออดี้และโฟล์กสวาเกนกว่าจะไปถึงแต่ละรุนแต่ละคลาส เป็นอันว่าเรามาเล็งว่าจะเลือกใช้รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบไหนกันก่อนดีกว่าไหม แล้วค่อยลงไปเลือกในแต่ละรุ่น แต่ละคลาส ว่าคันไหนแจ๋ว คันไหนแจ่ม คันไหนเจ๋ง เพราะล้วนใช้เทคโนโลยีระดับสูงด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อล้วนมีเอกลักษณ์ของตนเอง

          เป็นที่ทราบกันดีว่า ในตลาดยุโรปหรือประเทศในแถบยุโรป รถยนต์ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นเครื่องยนต์ดีเซล เพราะนอกจากจะใช้เทคโนโลยีในการควบคุมไอเสียให้สะอาดขึ้น มีผลต่อเรื่องภาษีของรถยนต์ คันนั้น ๆ ที่จำหน่าย เรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีเซลก็อยู่ในระดับที่ดี

          แต่ทว่าเทคโนโลยีของเครื่องยนต์เบนซินใน ยุคปัจจุบันของรถยนต์ยุโรป ก็ไม่ธรรมดาแล้วครับ นอกจากสร้างกำลังแรงม้าให้สูงได้ ยังสร้างแรงบิดได้สูง ให้ใช้งานในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ๆ แต่เรื่องของราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในเมืองไทยมีราคาต่างกันตั้งแต่ 5 บาท 7 บาท และ 9 บาทกว่าสำหรับ E20 แก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95

          ส่วนน้ำมันดีเซลในเมืองไทย ราคา 29.99 บาทต่อลิตร ถ้าต้องการความพิเศษ ราคาลิตรละประมาณ 33 บาทกว่าขึ้นไปต่อลิตร

          การเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 320d (F30) มีให้เลือกด้วยกันถึง 3 รุ่น 3 แบบการตกแต่ง ทั้งรุ่นลักชัวรี่ซึ่งคุ้นเคย รุ่นตกแต่งแบบโมเดลซึ่งเป็นสไตล์ใหม่และแบบสปอร์ต สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซลบีเอ็มดับเบิลยู ที่ไม่ได้มอบเพียงแค่เรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัด แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร มีโหมดการขับขี่ให้เลือกตั้ง 4 แบบ รวมถึงโหมด ECO PRO ที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ให้รถวิ่งได้ระยะทางเพิ่มขึ้น


          แล้วทำไมรถนำเข้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในรุ่น CLS ทั้งแบบ 4 ประตู และ Shootingbrake จึงนิยมเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ซึ่งเพียงพอที่จะดันให้รถน้ำหนัก 2 ตันกว่าเมื่อบรรทุกวิ่งเดินทางได้ดีที่สำคัญ คือเรื่องประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงก็ทำได้ดีมาก

          แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เครื่องยนต์เบนซินยุคใหม่จะไม่มีประสิทธิภาพเสียเลย แต่ให้กำลังแรงม้าสูง ให้การขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง สนุก เร้าใจ ไม่มีทางที่เครื่องยนต์ดีเซลจะวิ่งสู้เครื่องยนต์เบนซินได้สำหรับท็อปสปีด แต่ถ้าจำเป็นต้องวิ่งหนีขณะเคลื่อนตัวในความเร็วต่ำ หรือเวลาเร่งแซงเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดมหาศาล เครื่องยนต์ดีเซลก็จะได้เปรียบ หรือเครื่องยนต์เบนซิน+เทอร์โบ ยุคใหม่ ที่สร้างแรงบิดที่พอเหมาะในรอบเครื่องยนต์ ที่ต่ำในระดับ 1,250 รอบต่อนาทีขึ้นไป เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน

          การที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในเมืองไทยมีราคาแตกต่างกัน อย่าว่าแต่หน่วยงานของรัฐเองจะต้องเปลี่ยนรถประจำตำแหน่งระดับสูง จากเครื่องยนต์เบนซินไปเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแทบจะหมดแล้วทั้งกรมและทั้งกอง ซึ่งมันเกิดจากการได้ลองใช้งานกันจริง และบริษัทรถยนต์เหล่านั้นก็ได้ทดสอบและแสดงให้ดูเป็นประจักษ์แก่สายตา ซึ่งกว่าจะเปลี่ยนความเชื่อของข้าราชการไทยและคนไทยยุคเก่าได้ ก็ต้องใช้เวลา แต่ไม่นานเกินไป

          น้ำมันดีเซลราคาถูก ใช้ดี ใช้แล้วไม่มีใครอยากจะพูด อยากจะแนะนำหรอก ระหว่างรถรุ่นเดียวกัน เช่น C200 เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 184 แรงม้า เชื่อหรือไม่ว่าวิ่งได้เร็วสูงถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในอนาคตจะปรับไปเป็น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ หรือเครื่องยนต์ บล็อกเดียวกับที่ใช้อยู่ใน A250 ใหม่ แต่คุณจะต้อง เติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นแก๊สโซฮอล์ 95 หรือ E20

          แต่สำหรับ C250 CDI เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร กับ C220 CDI กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ซึ่งการวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดนั้น ย่อมสู้เครื่องยนต์เบนซินไม่ได้หรอกครับ เพราะกำลังแรงม้าไม่ได้สูงกว่า แต่แรงบิดของเครื่องยนต์ดีเซลที่มากกว่า ทำให้การเร่งแซง หรือการขับขี่ขึ้นทางชัน วิ่งอยู่บนถนนที่อยู่กลางเขาหรือบนเขา เครื่องยนต์ดีเซลมีประสิทธิภาพดีกว่า ตอบสนองดีกว่าอย่างเห็นได้ขัด ซึ่งคุณต้องลองขับขี่เดินทางไกล หรือวิ่งอยู่บนภูเขา ที่สำคัญการเติมน้ำมันดีเซลในกรุงเทพฯ นั้น ราคา 29.99 บาท หรือบวกอีก 50-90 สตางค์ต่อลิตร ที่ปั๊มต่างจังหวัด

          การซื้อรถยนต์เยอรมันมาใช้สักคัน ไม่ว่าจะ เป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู หรือถ้าไม่ต้องการอยากจะเหมือนใคร เลือกออดี้ดีกว่า เป็นเหตุผลของแต่ละคน แต่ละครอบครัว แต่ละองค์กรหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงหน่วยงานของรัฐมีเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน ซับซ้อนเหมือนกัน

          ถ้าเรากางกระดาษซึ่งบอกเป็นสเปคและข้อมูลของรถคันนั้นแต่ละคันให้ดู มันเป็นเรื่องที่ยาก ที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจ หรือแม้แต่สื่อมวลชนสายรถยนต์จะเข้าใจ เพราะความเข้าใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ได้พื้นฐานของความรู้ด้านรถยนต์ที่ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นภูมิรู้ที่ใช้เม็ดเงินมากกว่า

          ดังนั้นมันต้องลองใช้ แล้วจะเกิดประสบการณ์จึงไม่แปลกที่คนไทย และบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีใด จะอดใจไม่ยอมใช้รถยนต์เยอรมัน ต่อให้คนหนึ่งคนทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ญี่ปุ่น ลองให้คุณไปสืบดูได้ครับ ที่บ้านจะต้องมีรถยนต์เยอรมัน จะมากหรือน้อยอยู่ที่ฐานะ


          แน่นอนครับ การเติมน้ำมันดีเซลนั้นรู้แล้วว่าเติมแต่ละครั้งก็ใช้เงินไม่มากเมื่อเทียบกับเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งมีราคาต่อลิตรต่างกัน ตั้งแต่ 5 บาท 7 บาท และ 9 บาทกว่าโดยประมาณ แต่นี่คือผลพลอยได้ของเทคโนโลยีล้วน ๆ ในปัจจุบัน ซึ่งพัฒนาไปไกลกว่ารถยนต์ในอดีตหลายเท่า ซึ่งรถยนต์เยอรมัน ความปลอดภัยถือว่าเป็นสำคัญมากเรื่องของสมรรถนะด้านการขับขี่ยังมีความโดดเด่น

          ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อรถยนต์เยอรมันสักคัน จะเป็นแบบ 4 ประตู คูเป้ หรือ 5 ประตู จะคันเล็ก หรือคันใหญ่ จะเก๋งหรือสปอร์ตอเนกประสงค์ราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันเช่นนี้ ถ้าขับขี่ ใช้งานโดยเติมน้ำมันดีเซล คุณยังจะยิ้มหวาน ๆ ได้ แต่ถ้าเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ การขับขี่มีแต่ความ เร้าใจ สปอร์ต โดยไม่ว่าคุณจะเลือกรถคันเก่งสักคัน เพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต ไม่ว่าคุณจะเลือกรถที่ใช้น้ำมันดีเซลหรือเบนซิน บางทีรุ่นและรูปแบบของรถก็ทำให้คุณลืมเรื่องนี้ได้เหมือนกันนะครับ

          EURO 4

          ปัจจุบันน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในเมืองไทย มีมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 3 และยูโร 4 เท่านั้น ในอดีตเมื่อ 40 ปีที่แล้ว น้ำมันดีเซลมีราคาถูกเพียงลิตรละไม่กี่บาทและบางทีนิยมใช้ล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่รื้อออกมาฟิตใหม่และล้างเครื่องมือช่าง

          Did You Know ?

          แรงบิดโนเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ 2.0/2.2/3.0 ลิตร ปัจจุบันมีแรงบิด 360/380/400/440/450/500/540/600 และ 740 นิวตัน-เมตร แรงกว่า เครื่องยนต์เบนซินในรถสปอร์ต และซูเปอร์คาร์เสียอีก
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ GM CAR
Vol.18 No.236 มีนาคม 2556