เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoexpress.co.uk,netcarshow.com
เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ออโต้ซาแวนท์ รายงานว่า ในการแข่งขันด้านยอดขายครั้งล่าสุด ของค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และ ออดี้ (Audi) เพื่อช่วงชิงความเป็นที่หนึ่งในด้านยอดขายรถหรูทั่วโลก ปรากฏว่า บีเอ็มดับเบิลยู สามารถทวงคืนบัลลังก์แชมป์ได้สำเร็จ หลังจากที่ยอดขายรถในเดือนกุมภาพันธ์ สูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
ความสำเร็จในครั้งนี้ของบีเอ็มดับเบิลยู สืบเนื่องมาจากความต้องการรถยนต์ยอดฮิตอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ซีดาน (BMW 3 Series sedan) รวมทั้งรถครอสโอเวอร์ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์วัน (BMW X1) ซึ่งรถยนต์ทั้งสองรุ่น ช่วยเพิ่มยอดขายให้ทางบีเอ็มดับเบิลยูมากขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายทั้งหมด ด้านออดี้เอง ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน แต่เพิ่มขึ้นเพียง 3.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
แม้ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นของทางบีเอ็มดับเบิลยูจะดูน่าประทับใจ เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปขณะนี้ แต่ทางบีเอ็มดับเบิลยูก็ยังคงเดินหน้าต่อไป และพยายามครองความเป็นผู้นำสำหรับปีนี้ไว้ให้ได้
ด้านนายเอียน โรเบิร์ตสัน ประธานฝ่ายขายของกลุ่มบีเอ็มดับเบิลยู กล่าวว่า ยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ในเดือนกุมภาพันธ์ได้เพิ่มขึ้นทะลุเป้า และทางเราก็ตั้งใจที่จะสานต่อการพัฒนาด้วยการออกรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการโค่นออดี้จะถือเป็นก้าวความสำเร็จที่สำคัญขั้นหนึ่ง แต่ทางบีเอ็มดับเบิลยู ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากผู้ท้าชิงในตลาดรถหรูอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่แม้ว่ายอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ จะต่ำกว่าบีเอ็มดับเบิลยูถึง 37,229 คัน แต่ทางเมอร์เซเดสเอง ก็เตรียมตัวปล่อยรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาตลอดปี 2013 ซึ่งจะทำให้การแข่งขันทางด้านยอดขายเป็นไปอย่างเข้มข้น และอาจจะถึงขั้นโค่นบีเอ็มดับเบิลยูลงมาก็ได้
การแข่งขันด้านยอดขายของ 3 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยในยุโรป ซึ่งส่งผลให้ยอดขายรวมตกลงไปอย่างมาก และนี่อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญให้ค่ายรถยนต์หรู หันกลับมามองว่า ความสำเร็จที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูได้มานั้น มาจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดอเมริกาและจีน ที่เมื่อเทียบกับตลาดยุโรปแล้ว ยอดขายในตลาดยุโรปดิ่งลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายปี และไม่ว่าจะอย่างไร การแข่งขันทั้งหมดจะทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุดในระยะยาว จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และการสรรค์สร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ