
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก hyundai-motor.co.th
ฮุนได งัดกลยุทธ์เน้นคุณภาพทุกขั้นตอน บุกตลาดรถเมืองไทย หวังยอดขายเพิ่มขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ ทุก ๆ ที่ที่ไปจะต้องได้พบกับรถยนต์ฮุนได วางแผนสร้างโชว์รูมฮุนไดเพิ่ม
หลังจากกลุ่มพระนครยนตรการ ตัวแทนทำตลาดรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องเลิกไป บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด จากเกาหลีใต้ จึงนำแบรนด์รถยนต์ฮุนไดกลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเอง เมื่อปลายปี 2550 จนทำให้ยอดจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดพัฒนาขึ้นตามลำดับ
สำหรับฮุนไดนั้น แม้จะไม่หวือหวาเหมือนค่ายรถญี่ปุ่นในประเทศไทย แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะคุณภาพของรถยนต์ไม่ด้อยไปกว่าใคร เพียงแต่ราคาสู้ไม่ได้เพราะเป็นรถนำเข้า ไม่ได้ประกอบในประเทศ จึงมีต้นทุนด้านภาษีสูงกว่า ดังนั้น ในวันนี้ รถยนต์ฮุนไดจึงเน้นการเป็นรถยนต์ระดับพรีเมียมและมีคุณภาพในการใช้งาน รวมไปถึงสมรรถนะมากกว่าในสมัยก่อน โดย ความคุ้มค่าคุ้มราคายังคงเป็นหัวใจหลักในการช่วยผลักดันยอดขายรถยนต์ฮุนไดรุ่นต่าง ๆ



อย่างไรก็ตาม บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย คาดหวังว่าจะก้าวขึ้นสู่ปีที่ 6 อย่างมั่นใจด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์เน้นคุณภาพในทุกขั้นตอน
โดยโยชิอากิ อิชิมูระ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า การดำเนินการตามแนวทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ทำให้รถยนต์ฮุนไดเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย โดยในปี 2555 ฮุนไดได้เดินตามแผนพัฒนาแบรนด์ด้วยนโยบายการสร้างความประทับใจ AAA หรือทริปเปิล เอ (Triple A) ประกอบไปด้วยคำว่า แอสชัวแรนซ์ (Assurance) หรือรับประกันความมั่นใจ แอคเคาน์ทะบิลิตี้ (Accountability) หรือมุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ และแอสไปเรชั่น (Aspiration) หรือก้าวไปข้างหน้าอย่างมีแรงบันดาลใจ
นอกจากนี้ ทางบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอีก 2 รุ่น ได้แก่ เอแลนทรา (Elantra) ยิ่งทำให้รถยนต์ฮุนไดสามารถเข้าถึงผู้ใช้รถยนต์ได้ในระดับต่าง ๆ อีกมากขึ้น กทั้ง อัตราความพึงพอใจของลูกค้าในปี 2555 ปรับตัวสูงขึ้นไปพร้อม ๆ กับยอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวม ทำให้ในปัจจุบันมีรถยนต์ฮุนไดในท้องถนนเมืองไทยกว่า 15,000 คัน ทำให้ตลาดรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับรถยนต์ฮุนไดในตลาดโลก
ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2555 ที่ส่งมอบไปยังโชว์รูมต่าง ๆ มีรายละเอียดแยกตามรุ่น ได้แก่ เอช-วัน (H-1) มียอดจำหน่าย 3,467 คัน แกรนด์ สตาเร็กซ์ (Grand Starex) 820 คัน ทูซอน (Tucson) 381 คัน โซนาต้า สปอร์ต 121 คัน เอแลนทรา 205 คัน และ H100 16 คัน
สำหรับนโยบายปี 2556 จะเป็นปีที่ฮุนไดเน้นยกระดับความพึงพอใจ และความมั่นใจให้ลูกค้า ผ่านนโยบายพัฒนาคุณภาพในหลาย ๆ ส่วน เพื่อให้ความนิยมในรถยนต์ฮุนไดแพร่หลายออกไปเพิ่มมากยิ่งขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ ฮุนได เอเวอรี่แวร์ (Hyundai Everywhere) โดยโฟกัสให้เห็นว่า ในวันนี้ผู้ใช้รถยนต์ในเมืองไทยจะเห็นรถยนต์ฮุนไดรุ่นต่าง ๆ บนท้องถนนมากขึ้น จนแทบจะเรียกได้ว่าในทุก ๆ ที่ที่ไปจะต้องได้พบกับรถยนต์ฮุนได
และที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพ หรือ ควอลิตี้ (Quality) จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน และมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญทำให้ยอดจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดในปี 2556 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นประเด็นหลักในการสร้างแบรนด์ช่วยให้ฮุนไดประสบความสำเร็จมาแล้วทั้งในยุโรปและอเมริกา จนเป็นที่ยอมรับไม่แพ้รถยนต์ จากฝั่งตะวันตก และเอเชีย โดยการพัฒนาการคุณภาพคือ โรดแมป ชัดเจนในการนำแบรนด์ฮุนไดให้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ใช้รถยนต์ระดับพรีเมียมที่ต้องการ "เอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร"

ทั้งนี้ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) นำนโยบายหลักของบริษัท ฮุนได มอเตอร์ คอมปานี ว่าด้วยการยกระดับคุณภาพเพื่อเร่งยกระดับความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากขึ้นในปี 2013 โดยนโยบายดังกล่าวมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
1. นำเสนอรถยนต์ในขั้นตอนการจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดไปใช้งานอย่างพึงพอใจ พร้อมข้อมูลจำเป็นต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวรถจะเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานจริง
2. เลือกสรรรถยนต์ที่มีสมรรถนะ และศักยภาพสูงมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถ เพื่อรองรับความหลากหลายของรสนิยมการใช้รถยนต์ เพราะฮุนไดต้องการเติมเต็มตลาดมากกว่าการแข่งขัน
3. มุ่งยกระดับการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์ฮุนได ให้เป็นที่ประทับใจมากขึ้น เพราะผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดทุกคนคือลูกค้า VIP ของเรา
4. เน้นสร้างความพึงพอใจให้กับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า
5. มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมผ่านกิจกรรม CSR ที่มีประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ "เมาไม่ขับ...คุณทำได้" เพราะวันนี้รถยนต์ฮุนไดคือส่วนหนึ่งของสังคมไทย
ทั้งนี้ ฮุนไดมีแผนจะขยายเครือข่ายศูนย์บริการของรถยนต์ฮุนไดให้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีคุณภาพ จาก 23 แห่ง เป็น 26 แห่ง ภายในสิ้นปี 2013 ปัจจุบันมีโชว์รูมฮุนไดทั้งหมด 11 แห่งในกรุงเทพฯ และ 12 แห่งในต่างจังหวัด ที่สำคัญ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ได้ก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ พร้อมศูนย์ซ่อมบริการและคลังอะไหล่ระดับ National Service and Parts Center ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือครบครัน พร้อมการฝึกอบรมด้านทรัพยากรบุคคลมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการที่มีคุณภาพด้วยช่องให้บริการจำนวนมากถึง 22 ช่อง รวมไปถึงแผนกซ่อมตัวถังที่ทันสมัย และคลังอะไหล่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว และเมื่อรวมกับพื้นที่โชว์รูมและอาคารต่าง ๆ บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ บนถนนวิภาวดีรังสิต
นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกหลายรุ่นเพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า อาทิ ฮุนได เวลอสเตอร์ และเวลอสเตอร์ เทอร์โบ (Hyundai Veloster & Veloster TURBO), ฮุนได โซนาต้า และโซนาต้า สปอร์ต ไมเนอร์เชนจ์ (Hyundai Sonata & Sonata Sport Minor Change), ฮุนได เอช-วัน ซีรีส์ ไมเนอร์เชนจ์ (Hyundai H-1 Series Minor Change) หรูหรากว่าเดิม และฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ ซีรีส์ ไมเนอร์เชนจ์ (Hyundai Grand Starex Series Minor Change) พร้อมเชิญชวนให้ลูกค้าได้ทดลอง คาดว่าจะสามารถเรียกความสนใจจากบรรดาแฟนๆ รถยนต์ฮุนไดได้เป็นอย่างดี
ยอดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2551-2555







อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก