ไฟน้ำมันเตือน ขึ้นโชว์ที่หน้าปัด รถวิ่งต่อได้อีกไกลไหม

ไฟน้ำมันเตือนโชว์บนหน้าปัด รถจะวิ่งต่อได้อีกไกลไหมก่อนที่รถจะดับ วันนี้เรามีข้อมูลพร้อมเคล็ดลับการขับรถก่อนที่น้ำมันจะหมดถังมาแนะนำ เพื่อยืดระยะเวลาให้คุณสามารถไปถึงปั๊มเติมน้ำมันได้ทันท่วงที

สำหรับคนที่ขับรถทั้งมือใหม่และหน้าเก่าคงเคยเจอเหตุการณ์ “ไฟน้ำมันเตือนโชว์บนหน้าปัด” ซึ่งหลายท่านอาจจะตกใจ โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถของเรา อีกทั้งยังอาจสงสัยว่า สัญญาณไฟเตือน ดังกล่าวหมายถึงอะไร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบ พร้อมไขข้อสงสัยที่ว่าหากไฟเตือนนั้นขึ้นมาแล้ว รถจะวิ่งต่อได้อีกไกลแค่ไหน ? 

หากมีไฟน้ำมันเตือนที่เป็นรูปปั๊มน้ำมันสีเหลืองโชว์ขึ้น ถือเป็นการบอกให้ผู้ใช้รถเริ่มเตรียมตัวที่จะต้องเติมน้ำมัน ซึ่งรถของคุณยังคงสามารถขับต่อไปได้อีกระยะ แต่จะไม่มีทางทราบเลยว่ามีน้ำมันเหลืออยู่ในถังเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของรถแต่ละคัน และไม่มีระบุไว้ชัดเจนในคู่มือรถ แต่โดยเฉลี่ยให้คิดไว้ก่อนเลยว่าน้ำมันอาจเหลือไม่ถึง 10 ลิตรแล้ว  ดังนั้นควรรีบหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด และขับรถให้อยู่ในความเร็วคงที่ ไม่ขับเร็ว หรือขับกระชาก รวมถึงเลี่ยงเส้นทางสภาพการจราจรที่ติดขัด และสภาพถนนที่เป็นโค้งหรือขึ้นเนินสูง ถ้าเป็นไปได้ให้ปิดระบบต่าง ๆ ในรถ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง หรือระบบปรับอากาศ 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ บางรุ่นจะมีฟีเจอร์ที่บอกถึงระยะทางในการขับขี่ได้แบบเรียลไทม์ ว่ารถยนต์ของเรานั้นจะวิ่งได้อีกกี่โลเมตร ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการขับขี่ที่ดี และทำให้เราอุ่นใจไม่ต้องกังวลในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังจะหมดนั่นเอง 

เมื่อไฟเตือนขึ้นนั่นหมายความว่าน้ำมันกำลังจะหมด หากฝืนขับต่อไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เครื่องดับและเกิดปัญหาภายหลังตามมาได้ ข้อควรปฏิบัติเมื่อน้ำมันใกล้หมด คือ หลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าภายในรถ เพื่อลดพลังงานแบตเตอรี่ เนื่องจากมีส่วนทำให้น้ำมันหมดเร็วขึ้น เช่น ปิดแอร์ ปิดวิทยุ รวมถึงใช้เบรกให้น้อยลง เพราะการเบรกจะทำให้ใช้พลังงานจากน้ำมันมากขึ้น พร้อมกับพยายามควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสม ไม่ขับเร่งหรือขับกระชาก เพราะจะทำให้รอบเครื่องยนต์ไม่นิ่ง เป็นผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด ทางโค้งเยอะ หรือถนนที่มีหลุม มีบ่อ เพราะจะเป็นการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งถ้าเป็นไปได้ให้ปิดกระจกขณะขับ เพื่อไม่ให้ลมจากภายนอกเข้ามาภายในรถยนต์ เพราะลมที่เข้ามาจะทำให้มีอากาศในรถมากขึ้น ส่งผลให้รถต้องใช้แรงวิ่งมากขึ้นอีกด้วย

แม้ว่ายังสามารถขับรถไปได้อีกระยะ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยจนเป็นนิสัย เพราะจะส่งผลต่อความเสียหายกับ “ปั๊มติ๊ก” หรือตัวปั๊มที่มีหน้าที่ดูดน้ำมันจากถังไปยังเครื่องยนต์ เพื่อใช้ในการจุดระเบิด ซึ่งถ้าปล่อยจนไม่มีน้ำมันในถัง ตัวปั๊มติ๊กจะทำงานหนักและเกิดความร้อน จนส่งผลให้ตัวมอเตอร์พังใช้งานไม่ได้ ถึงเราเติมน้ำมันลงไปก็จะสตาร์ตไม่ติด ทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ในระยะยาว

หากเกิดน้ำมันหมดกลางทางระหว่างขับรถอยู่ ตัวรถยนต์จะเกิดการกระตุกเหมือนเครื่องจะดับ ให้รีบนำรถชิดซ้ายทันที แล้วหาพื้นที่จอดที่ปลอดภัย จากนั้นให้แจ้งไปยังหน่วยงานที่ดูแลเพื่อลากรถไปยังปั๊มน้ำมัน ในกรณีที่รถจอดดับอยู่บนทางด่วนให้โทร. แจ้ง 1543 สายด่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ 1586 สายด่วนกรมทางหลวง ทันที 

ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาให้รถมีอัตราการบริโภคน้ำมันที่น้อยลงมากกว่าสมัยก่อน รวมถึงมีระบบแจ้งระยะทางในการขับขี่ที่เหลือแบบเรียลไทม์ในรถบางรุ่น เมื่อไฟน้ำมันหมดเตือนทำให้ผู้ใช้รถสามารถขับรถไปได้ไกลกว่าเดิม แต่ก็ไม่ควรมองข้าม หากชะล่าใจขับยาว ๆ โดยไม่หาปั๊มน้ำมัน เปิดแอร์ฉ่ำ ๆ เปิดเพลงบันเทิงเริงใจ น้ำมันย่อมหมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

ดังนั้นหากไฟน้ำมันหมดเตือน ควรเตรียมหาปั๊มน้ำมันไว้แต่เนิ่น ๆ หรือก่อนขับรถทางไกลควรเติมน้ำมันให้เต็มถัง รวมทั้งศึกษาเส้นทางไว้ล่วงหน้าว่าทางที่ต้องขับผ่านมีปั๊มน้ำมันตรงจุดใดบ้าง เพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้โดยไม่สะดุดกลางคัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : yourmechanic.com, express.co.uk, exat.co.th