เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม มิตซูบิชิ มอเตอร์ ได้แถลงแผนการดำเนินงานระยะกลาง ในชื่อโปรเจ็กท์ DRIVE FOR GROWTH หรือการขับเคลื่อนเพื่อการเจริญเติบโต แผนนี้ก็ยังเป็นการเดินไปตามโรดแมพของ อัลลายแอนซ์ 2022 (Alliance 2022) ที่นายคาร์ลอส กอส์น ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มอัลลายแอนซ์ ( เรโนลด์-มิตซูบิชิ-นิสสัน ) เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้
ย้อนอ่านข่าว "เผยแผนใหม่ใน 6 ปี ระหว่าง นิสสัน กับ มิตซูบิชิ จะมีรถยนต์ใหม่กว่า 40 รุ่น !!"
นายโมซามุ มาชิโกะ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ คอเปอร์เรชั่น ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผน DRIVE FOR GROWTH ว่ามี 3 เรื่องที่เรามุ่งเน้นได้แก่ เรียกความเชื่อมั่นจากกรณีโกงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถ, ทำกราฟยอดขายและผลประกอบการให้ดีขึ้น และการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ซึ่งในการเผยแผนได้พูดลึกลงในรายละเอียดด้านยอดขาย ผลกำไร รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ คอเปอร์เรชั่น ที่กราฟดำดิ่งในปี 2016 ที่ผ่านมา โดยในปี 2020 หรืออีก 3 ปี ข้างหน้า ทุกกราฟจะกับมาเหมือนรูปตัว V พร้อมดันยอดที่สูงกว่าเดิมด้วย
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเคือเรื่องการเตรียมเปิดตัวรถใหม่ โดยในแผนการ วางไว้ 11 รุ่น และตอนนี้ได้ปล่อยรุ่นใหม่ออกมาแล้ว 2 รุ่นอย่าง Expander และ Eclipse Cross ที่ได้กระแสตอบรับดีมาก นอกจากนี้เตรียมปรับโฉม 5 รุ่นหลักในปัจจุบัน ด้านตลาดญี่ปุ่นก็เตรียมเผย Delica D: 5 ที่เป็นสไตล์ MPV (แต่รุ่นนี้เคยนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น มาจำหน่ายไทยประมาณ 100 คันด้วย) เท่ากับว่ายังมีอีก 3 โมเดลใหม่ที่จะได้เห็นความสดใหม่ของมิตซูบิชิ
นอกจากนี้ยังปรับยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคเป็นโซนดังนี้ อาเซียน, โอเชียเนีย, อเมริกาเหนือ, เอเชียเหนือ และญี่ปุ่น เป็นตลาดหลัก ในระดับประเทศทุ่มความสำคัญไปที่ สหรัฐฯ และ จีน อันดับ 1 และอันดับ 2 ตามลำดับ