23 กันยายน 2559 นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2559 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 63,619 คัน เพิ่มขึ้น 2.6% ประกอบด้วย
- รถเพื่อการพาณิชย์ 38,851 คัน ลดลง 0.9%
- รถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 30,325 คัน ลดลง 4.5%
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2559
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 63,619 คัน เพิ่มขึ้น 2.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,212 คัน ลดลง 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,968 คัน ลดลง 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 17.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 9,625 คัน เพิ่มขึ้น 18.8% ส่วนแบ่งตลาด 15.1%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,768 คัน เพิ่มขึ้น 8.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,104 คัน เพิ่มขึ้น 3.1% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 7,266 คัน เพิ่มขึ้น 34.9% ส่วนแบ่งตลาด 29.3%
อันดับที่ 3 มาสด้า 2,127 คัน ลดลง 14.0% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 30,325 คัน ลดลง 4.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,170 คัน ลดลง 6.1% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,792 คัน ลดลง 1.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,353 คัน เพิ่มขึ้น 26.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,823 คัน
โตโยต้า 2,330 คัน
มิตซูบิชิ 810 คัน
อีซูซุ 858 คัน
ฟอร์ด 743 คัน
เชฟโรเลต 82 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 25,502 คัน ลงลง 2.0 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,840 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,934 คัน ลงลง 2.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,610 คัน เพิ่มขึ้น 31.8% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 38,851 คัน ลดลง 0.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,108 คัน ลดลง 4.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,968 คัน ลดลง 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 28.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,587 คัน เพิ่มขึ้น 24.8% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%
ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีปริมาณการขาย 63,619 คัน เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.7% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 0.9% ทั้งนี้นับเป็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของตลาดรถยนต์นั่งอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ที่ได้แนะนำสู่ตลาด
ผลของการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคต่อทิศทางและ เสถียรภาพทางการเมืองดีขึ้น และเป็นปัจจัยบวกที่กระตุ้นให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตามความกังวลในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลกและสภาพ เศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้แนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนยังอยู่ในสภาวะทรงตัว
ตัวเลขที่น่าสนใจไปอยู่ที่ฟอร์ด ที่ยอดขายกระบะที่เติบโตขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นมาครองเป้นอันดับ 3 ในกลุ่มกระบะได้
