แม้ว่ามาซซานติ (Mazzanti) อาจไม่ได้โด่งดังหรือมีตำนานเก่าแก่จนคุ้นหูแบบซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนชื่อก้องโลกที่มีวิ่งกันเกลื่อนถนนจนเอ่ยชื่อแล้วทุกคนจะไม่ทำหน้างงก็ตาม รวมถึง Mazzanti เน้นผลิตแบบ Exclusive ตามออร์เดอร์ของลูกค้าเพียง 5 คัน/ปี เท่านั้น และ Mazzanti ก็ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์ธรรมดาที่คิดว่าจะมาล้อเล่นได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะกับ มาซซานติ อีวานตรา มิลเลคาวาลิ (Mazzanti Evantra Millecavali) ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกไปสด ๆ ร้อน ๆ ในงาน ซาโลเน เดลลา ออโต ตอริโน (Salone dell’Auto Torino 2016) ประเทศอิตาลีเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนผ่านมานั้นขึ้นทำเนียบความแรงระดับไฮเปอร์คาร์แล้ว
Mazzanti Evantra Millecavali เป็นไฮเปอร์คาร์เวอร์ชั่นใหม่ที่แรงกว่า Mazzanti Evantra เดิมโดยคำว่า Millecavalli มีความหมายว่า “ม้าหนึ่งพันตัว” เป็นผลมาจากการขยายความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ที่วางกลางลำแบบ V8 สูบ จาก 7.0 ลิตรเป็น 7.2 ลิตร พ่วงด้วยเทอร์โบอีก 2 ตัว จนได้แรงม้าสูงสุด 1,000 ตัวพร้อมแรงบิด 1,200 นิวตันเมตร ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังผ่านเกียร์แบบซีเควนเชียล 6 จังหวะ แบบรถแข่งที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ทำให้ Mazzanti Evantra Millecavali สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 400 กม./ชม. ส่วนเบรกคาร์บอน-เซรามิกใหม่ยังหยุดความเร็วจาก 300-0 กม./ชม. ได้ในระยะเวลาแค่ 7 วินาที เท่านั้น
สำหรับงานดีไซน์ของ Mazzanti Evantra Millecavali ยังคงใช้พื้นฐานร่วมกับ Mazzanti Evantra แต่มีการขยายฐานล้อให้กว้างขึ้น ติดตั้งครีบรีดอากาศรอบคันและสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่กว่าเดิม รวมถึงออกแบบช่องดักอากาศบนหลังคาใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวบนความเร็วสูง โดย Mazzanti Evantra Millecavali ถูกออกแบบมาให้สามารถวิ่งได้ดีบนสนามและถนนสาธารณะได้อย่างถูกกฎหมายอีกด้วย แต่ถ้าหากใครยังสงสัยว่า Mazzanti Evantra Millecavali ไฮเปอร์คาร์หน้าใหม่จะเจ๋งพอเทียบชั้นไฮเปอร์คาร์คันอื่น ๆ ของอิตาลีได้หรือไม่ก็ต้องย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของ Mazzanti ในยุค 70
จากความฝันตามประสาเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ลูคา มาซซานติ (Luca Mazzanti) ซึ่งเกิดในเมืองพิสโตเอีย รัฐฟลอเรนไทน์ ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1974 ที่สนใจในเรื่องรถยนต์และเริ่มต้นเส้นทางความฝันด้วยการรื้อรถของเล่นออกมาโมดิฟายใหม่เอง พอเริ่มโตขึ้นเป้าหมายของ Luca Mazzanti ก็ยิ่งชัดเจนแน่วแน่และเขาก็เลือกเดินตามความฝันมาตลอดจนได้เข้าทำงานในบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูตัวถังอย่าง Faralli ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับอู่รับทำตัวถังของพ่อตนเอง ในปี 1990
หลังจากนั้นเขาได้ตัดสินใจซื้อ Fiat 850 Moretti รถสปอร์ตยุค 60 มาทำการฟื้นฟูใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์จนสำเร็จในอีก 2 ปีต่อมา แต่ Lucca Mazzanti อยู่กับ Faralli ได้เพียงไม่นานก็ตัดสินใจออกมาทำงานที่อู่รับทำตัวถังของพ่อตนเองก่อนที่พ่อจะขายกิจการทิ้งไปในเวลาต่อมา ซึ่งตอนนั้น Lucca Mazzanti รู้สึกผิดหวังมากที่ต้องสูญเสียสถานที่ที่เปรียบเสมือนความทรงจำและจุดกำเนิดความฝันในวัยเด็กของเขา
อย่างไรก็ตามในช่วงที่แย่ที่สุดนี้ Luca Mazzanti ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างใหม่ตามความฝันอีกครั้งด้วยการซื้อ Lancia Delta HF Integrale ที่ประสบอุบัติเหตุมาเพื่อฟื้นฟูสภาพใหม่ เนื่องจาก Lancia Delta HF Integrale ไม่ใช่รถแฮตช์แบ็กธรรมดาจึงมีราคาแพงมากหากอยู่ในสภาพปกติแต่อีกนัยหนึ่งการได้ฟื้นฟูสภาพรถคือความฝันของเขาด้วยเช่นกันจนระทั่ง Faralli ได้ดึงตัว Luca Mazzanti กลับเข้าไปทำงานในบริษัทอีกครั้ง
ในช่วงเวลานี้เอง Luca Mazzanti ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่สำคัญที่สุดจากการฟื้นฟูรถสปอร์ตและรถแข่งระดับตำนานอย่าง Alfa Romeo, Ferrari, Maserati และ Cisitalia รวมถึงรถอื่น ๆ ได้อย่างลึกซึ้งจนถึงขนาดสามารถแยกความแตกต่างในเรื่องเทคนิครวมถึงวัสดุของสำนักออกแบบตัวถังชื่อดัง เช่น Pininfarina, Zagato และสำนักอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Lucca Mazzanti ยังได้ฟื้นฟูรถและใช้ลงแข่งขับขึ้นเขา (Hill-Climb Race) ในรายการ Saline-Volterra 2000 และ Consuma Cup 2004 ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่เด็กและยังทำได้ดีอีกด้วย
ในระหว่างปี 2002 Lucas Mazzanti และ Walter Farrali ได้ร่วมกันเปิดบริษัท Farrali & Mazzanti หรือ F&M Auto ขึ้นมาและได้สร้างผลงานอย่าง F&M Antas ที่ใช้พื้นฐานและเครื่องยนต์ของ Maserati ยุค 60 มาออกแบบใหม่สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกด้วยตัวถังอะลูมิเนียมทั้งคันในปี 2005 ซึ่งทำให้ F&M เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นท่ามกลางคู่แข่งระดับซูเปอร์คาร์แบรนด์เก่าแก่ของอิตาลี
F&M Antas
![Mazzanti Evantra]( "Mazzanti Evantra")
Mazzanti Evantra
Mazzanti Evantra
ช่วงปี 2010 ทั้ง Farrali และ Mazzanti ได้เริ่มแยกการทำงานออกจากกันอย่างอิสระ (โดย Farrali เป็นส่วนฟื้นฟูรถคลาสสิกและออกแบบรวมถึงประกอบซูเปอร์คาร์สำหรับ Mazzanti) ก่อนที่จะเปิดตัว มาซซานติ อีวานตรา (Mazzanti Evantra) ออกมาในปี 2011 ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีเครื่องยนต์ V8 ขนาด 7.0 ลิตร 751 แรงม้า และแรงบิด 860 นิวตันเมตร วางไว้กลางลำด้านท้าย สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 360 กม./ชม. และจะผลิตตามคำสั่งของลูกค้าเพียง 5 คัน/ปี ก่อนที่ไฮเปอร์คาร์คันล่าสุดอย่าง Mazzanti Evantra Millecavalli จะเปิดตัวตามออกมาอย่างในตอนนี้นั่นเอง
ในยุคที่พละกำลังระดับ 1,000 แรงม้า ไม่ใช่ของแปลกแต่ Mazzanti Evantra Millecavalli ก็จะยังคงเป็นไฮเปอร์คาร์ที่มีความพิเศษเฉพาะตัวอยู่ดี
ภาพจาก Mazzanti
