Pininfarina H2 Speed Concept เรซคาร์พลังบริสุทธิ์ที่ไม่หยุดแค่แนวคิด

          มหินทรา (Mahindra) เตรียมพัฒนา H2 Speed Concept เรซคาร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงพลังไฮโดรเจน ซึ่งออกแบบโดย Pininfarina ให้เกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้เพื่อยกระดับแบรนด์ของตนเอง
 
          หลังจากที่กลุ่มมหินทรา (Mahindra) ของอินเดียเข้าถือหุ้น 76.06 เปอร์เซ็นต์ ของสำนักออกแบบรถยนต์พินินฟารินา (Pininfarina) ของอิตาลีไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนอินเดีย เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในงาน Geneva Auto Show 2016 ทาง Pininfarina ก็ได้ส่ง H2 Speed เรซคาร์แนวคิดสุดล้ำออกมาโชว์ผลงานด้วยเช่นกัน
          โดยระบุว่า H2 Speed จะเป็นรถแข่งที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากไฮโดรเจน 500 แรงม้า ซึ่งตอนนั้น H2 Speed Concept ก็ยังดูเหมือนกับรถขายฝันตามสไตล์รถแนวคิดทั่วไป แต่ในวันนี้อาจจะไม่ได้เป็นแค่แนวคิดอีกต่อไปแล้วเพราะ Mahindra จะผลิตมันขึ้นมาจริง ๆ ในไม่ช้า
 
          งานออกแบบ Pininfarina H2 Speed ก็เหมือนกับเรซคาร์แนวคิดทั่วไป คือมีทรวดทรงและหน้าตาที่ล้ำสมัย เตี้ยแบน พื้นผิวตัวถังเรียบลื่นสะอาดตาในสไตล์อิตาลี ห้องโดยสารวางอยู่กลางลำตัวรถและมีสันครีบแนวตั้งลากยาวตั้งแต่หลังคาต่อเนื่องไปยังสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ท้ายรถเพื่อผลทางด้านอากาศพลศาสตร์เมื่อต้องใช้ความเร็วสูง
 

          ส่วนขุมพลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมกันประมาณ 500 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที ซึ่งจะส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังโดยตรง ไม่มีคลัตช์ ไม่มีเกียร์ สามารถทำความเร็วได้ถึง 300 กม./ชม. ทางด้านเซลล์เชื้อเพลิงจะเป็นแบบ PEMFC (Polymer Electrolyte Membrane Fuel Cell หรือเซลล์เชื้อเพลิงแบบเยื่อแลกเปลี่ยนโปรตอน) มีน้ำหนักเบาให้เอาท์พุท 210 กิโลวัตต์ ถังบรรจุก๊าซไฮโดรเจนจะมีมวลความจุ 6.1 กิโลกรัม ความดัน 700 บาร์ และสามารถเติมไฮโดรเจนให้เต็มได้ภายใน 3 นาที โดยน้ำหนัก H2 Speed จะอยู่ที่ประมาณ 1,420 กิโลกรัม (ไม่รวมเชื้อเพลิง)
 
          ทั้งนี้การที่ Mahindra ตั้งใจจะพัฒนา H2 Speed ขึ้นมาจริง ๆ สำหรับลงแข่งขันในสนามนั้นก็ไม่น่าแปลกใจนัก และนายปราวิน ชาห์ (Pravin Shah) บอสใหญ่ของ Mahintra Automotive ยังหวังว่า Pininfarina H2 Speed จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้ Mahindra มีความโดดเด่นและแตกต่างทั้งในเรื่องของการดีไซน์และเทคโนโลยีสำหรับวงการยานยนต์ในการทำงานร่วมกับ Pininfarina เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดให้กับรถของตนเองซึ่งรวมถึงยอดขายในอนาคตด้วยเช่นกัน

 
          ถึงปัจจุบันจะยังบอกไม่ได้แน่ชัดว่ารถไฟฟ้ารูปแบบใดจะกลายเป็นพลังงานหลักของอนาคตแต่มันจะเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนของผู้ผลิตรถยนต์จากอินเดียรายนี้แน่นอน
 

ภาพจาก pininfarina