แม้ว่าจะมีการยืนยันและดำเนินการอย่างเป็นทางการจากโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) แล้วว่าจะมีการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย รวมถึงการเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ผ่านการเห็นชอบและอนุมัติจากคณะอนุกรรมการของ BOI รวมถึงรัฐบาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ทั้งหมดนั้นก็เกิดก่อนที่โฟล์คสวาเกนจะถูกสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (EPA) จับได้ว่าโฟล์คสวาเกนติดตั้งอุปกรณ์โกงค่ามลพิษในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตรจนเป็นข่าวดังครึกโครมไปทั่วโลก
จากวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้โฟล์คสวาเกนอาจต้องจ่ายค่าปรับและชดเชยความเสียหายจากสิ่งที่ก่อขึ้นเป็นจำนวนเงินมูลค่าหลายพันล้านยูโร ซึ่งหลังจากที่นาย Matthias Muller ผู้บริหารคนใหม่ของโฟล์คสวาเกน ได้ออกมาประกาศว่าจะต้องให้ความสำคัญและกอบกู้สถานการณ์ที่ตกต่ำอย่างเร่งด่วน
โดยอาจจะต้องเลื่อนหรือแม้กระทั่งยกเลิกโครงการต่าง ๆ ที่โฟล์คสวาเกนเห็นว่ายังไม่จำเป็นหรือเร่งด่วนทั้งหมด และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่แผนการตั้งโรงงานประกอบในไทยรวมถึงรถอีโคเฟส 2 ก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งโฟล์คสวาเกนได้ลงทุนไปแล้วเป็นเงินมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท และคาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2019 หากแผนดังกล่าวไม่ได้ถูกระงับไปเสียก่อน
แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีการยืนยันจากโฟล์คสวาเกนอย่างเป็นทางการว่าแผนการตั้งโรงงานประกอบในไทยและโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 จะเดินหน้าต่อหรือไม่ แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจถูกสั่งระงับชั่วคราวจนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่
ภาพจาก vw